Want to be
:: 5 ::
ไนท์ที่แปลว่าโคตรจะร้อนแรง
Night Pub
เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่วผับของไนท์ที่ฉันเคยมาที่นี่หลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้ฉันนั่งมองพี่แป้งร่ำที่กำลังเต้นโยกย้ายไปมาพร้อมถือแก้วเหล้ามือขวากับผู้ชายคนหนึ่งที่มาชวนพี่แป้งร่ำให้ไปเต้นด้วยกัน ฉันดื่มเหล้าแบบผสมไปหลายแก้วขณะที่กวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นนักท่องราตรีหลายคนและมีสายตาของผู้ชายโต๊ะตรงข้ามมองฉันพลางยกแก้วชู สิ่งที่ทำได้คือฉีกยิ้มให้และหุบยิ้มลงแค่นั้น เราสองคนยังสวมชุดนักศึกษากันอยู่เลยคิดดูดิ ก็แบบว่าแขกพิเศษของไนท์อะนะที่เข้ามาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้
สายตาของฉันเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ มือซ้ายถือขวดเตกีล่ากำลังคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดเดรสเกาะอกสีแดงสวยและเซ็กซี่มาก ให้เดาคืนนี้คงเป็นเหยื่อให้ไนท์ตะครุบละสิไม่ว่า ราวกับเขารับรู้ว่ามีคนจ้องจึงหันมามองทางฉันที่รีบหลบสายตาเขาทันที เอิ่ม หลบตาหมอนั่นทำไมกันล่ะเกี๊ยว ไม่เห็นมีอะไรจะต้องหลบเลยนี่นา
“เกี๊ยวเป็นอะไร ไม่สนุกเหรอ?”
“เปล่าค่ะ”
“ยังคิดถึงเรื่องไอ้เวรตะไลนั่นอีกหรือไง” เดี๋ยวนะพี่แป้งร่ำคือเมาหรือเปล่าเนี่ย ทำไมน้ำเสียงแลดูยานครางแถมดวงตายังดูสะลึมสะลือก็เล่นกินไปหลายแก้วอยู่ “ไม่ต้องคิดถึงมันเลย มาสนุกกันให้สุดเหวี่ยงดีกว่า วู้ว!”
พี่แป้งร่ำกอดคอหนุ่มนักเที่ยวที่วางมือลงบนเอวบางจากนั้นก็ลูบไล้เรียวขายาวของเธอ จนฉันเห็นแล้วรู้สึกว่ามันจะลวนลามพี่สาวฉันมากไปแล้วนะ ยังไงพี่แป้งร่ำก็เหมือนพี่สาวของฉัน ดังนั้นจึงลุกขึ้นเดินไปหวังจะดึงพี่แป้งร่ำที่ตั้งแต่มาถึงผับก็เล่นดื่มไปหลายแก้วจนกรึ่มๆ
“นายจะทำอะไรพี่แป้ง”
“อะไร? แค่จับนิดจับหน่อย”
“จับบ้านป้านายดิ มือจะล้วงเข้าไปในกระโปรงพี่สาวฉันแล้วนะเว้ย!” ฉันตะโกนใส่หน้ามันแข่งกับเสียงเพลง มองมือหนาที่ยุบยับราวกับปลาหมึกลูบไล้เรือนร่างพี่แป้งร่ำที่ไม่รู้สึกตัวยังคงเต้นโยกย้ายส่ายเอวไปมา
“พี่สาวเธอยังไม่ปฏิเสธ แล้วมาเสือกอะไรด้วยวะ?”
“ต้องเสือกไหม พี่สาวฉันไง เอามือสกปรกออกไปจากตัวพี่แป้งเลยนะ”
“ยัยนี่แม่ง บ้าปะวะ”
“แกน่ะสิไอ้โรคจิต ลวนลามผู้หญิงที่ไม่รู้ตัว ไอ้หน้าตัวเมีย”
“อ้าวอีนี่ปากดีฉิบหาย!” หมอนี่ปล่อยมือจากพี่แป้งร่ำที่เซไปชนกับผู้ชายอีกคนที่ประคองเอวเธอไม่ให้ล้ม แต่ไอ้เวรตะไลนี่ง้างมือจะตบหน้าฉัน แหมพอดีเลย เพราะแกปล่อยให้จุดอ่อนว่างพอดี เพราะฉันกำลังจะยกตีนเตะไปที่ไข่ของมันเอาให้แตกยับทั้งสองใบนั่นแหละ หากแต่ว่า...
หมับ
“ทำเหี้ยอะไรของมึง?” ร่างสูงที่ฉันไม่คิดว่าเขาจะเห็นเหตุการณ์ จะมาคว้าข้อมือของไอ้เวรตัวนี้เอาไว้ไม่ให้ฟาดมือลงบนแก้มฉัน ก็... ไนท์อยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์เลยนะ มันไกลมากแล้วหมอนี่มันมายังไงก่อน! เดินมาเร็วเวอร์หรือหายตัวมากันแน่
“อะไรวะ”
“ไสหัวมึงไปจากผับกู ก่อนที่กูจะให้คนมาลากคอมึงออกไป” ไนท์ขู่เสียงแข็งเอาจริงเพิ่งเคยโหมดนี้ของไนท์เลยนะเนี่ย โหมดที่ดูเย็นชาและน่าเกรงขามจนไอ้หนังหมานี่สะบัดข้อมือและเดินชนไหล่ฉันอย่างแรงออกจากผับไปพร้อมพวกของมัน เหอะ ฉันยกมือลูบไหล่ตัวเองเพราะแรงมันยังกับแรงควาย ไหล่ฉันไม่หลุดก็ดีแค่ไหนแล้ววะ
“พี่แป้งเมาแล้ว นายไปส่งพี่แป้งดิ”
“ไม่ต้อง ฉันโทรตามไอ้ซันมาแล้ว” ฉันประคองร่างของพี่แป้งร่ำที่ยังคงเมาไม่ได้สติ กินไปหลายอย่างซะด้วยไม่เมาก็ให้รู้ไปสิ ยังไม่ทันได้พาพี่แป้งร่ำไปพักที่ห้องส่วนตัวของไนท์ด้านล่าง พี่ซันที่ยังคงสวมชุดนักศึกษาก็เดินมากระชากแขนพี่แป้งร่ำจนเซไปซบกับแผงอกแกร่งของเขา “เมามาก พาไปส่งที่ห้องด้วย”
“เมาไม่ว่านะเฮีย แต่นับวันยัยนี่แม่งแต่งตัวน่าโดนตีฉิบหาย”
“ทำยังไงได้ แป้งสวยขนาดนี้ก็ต้องแต่งตัวเซ็กซี่เป็นธรรมดาปะ” พี่ซันประคองเอวพี่แป้งร่ำเดินออกจากผับโดยมีฉันเดินตามไปติดๆ เพื่อเอาของออกจากรถพี่แป้งร่ำ
“น้องเกี๊ยวขึ้นรถพี่เลยครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่ต้อง” ฉันกำลังจะอ้าปากรับคำพี่ซันก็ต้องหันไปสบตากับไนท์ที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ด้านหลัง “กูไปส่งยัยเกี๊ยวเอง มึงพาแป้งไปพักเถอะ”
“ใครบอกจะกลับกับนาย?!”
“แป้งเมาขนาดนี้ จะให้ไอ้ซันไปส่งเธอก่อนเพื่อ”
“ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร”
“กลัวหรือไง?” หมอนี่มันชอบท้าทายฉันตลอดเลยแหะ พอเห็นรอยยิ้มตรงมุมปากที่ดูเยาะเย้ยก็ทำให้อารมณ์ขึ้นเลยดิตัวฉัน “จริงด้วย เธอกลัวฉันทำอะไรเธอ”
“กลับกับนายก็ได้” เค้นเสียงลอดไรฟันและหันไปสบตากับพี่ซันที่เลิกคิ้วขึ้น ขณะที่เอนใบหน้าหนีฝ่ามือของพี่แป้งร่ำที่ปัดป่ายไปมาและตบโดนหน้าเขาเต็มๆ
“แป้ง สติดิ”
“ซัน มาได้ไง?”
“เฮียไนท์โทรตาม สภาพนะเมายังหมา”
“ยุ่งอะไรด้วย ไปเลย ฉันจะกลับเอง!” พี่แป้งร่ำพยศใส่พี่ซัน แน่นอนว่าสู้แรงของเพื่อนสนิทตัวเองไม่ได้หรอก
“นับวันยิ่งใส่กระโปรงสั้นลงทุกทีนะ ทีหลังแม่งถอดเลยไหม?”
“ไม่ต้องยุ่งได้ปะ”
“ก็ไม่ได้อยากจะยุ่งหรอกนะ แต่ภาระกูฉิบหาย”
“ฉันเป็นภาระก็ไม่ต้องมายุ่งกันดิ ปล่อยเลย ปล่อย!” ดูเหมือนจะทะเลาะกันแล้วสิ ฉันเอื้อมมือหวังจะไปคว้าตัวพี่แป้งร่ำที่ดิ้นไปมาจนเซเกือบล้มหากแต่ว่าพี่ซันก็ย่อตัวอุ้มร่างเล็กจนตัวลอยในท่าเจ้าหญิง “ซัน ปล่อยฉันลงนะ”
“เลิกดิ้น ไม่งั้นกูปล่อยตกแน่”
“...” ได้ผล พี่แป้งร่ำเลิกพยศและยอมให้พี่ซันอุ้มขึ้นรถของเขาแต่โดยดี ส่วนรถพี่แป้งร่ำก็จอดไว้ที่หน้าผับของไนท์ ฉันยืนมองรถของพี่ซันที่ขับออกจากผับไปพลางเท้าเอวครุ่นคิด
“ไนท์”
“อะไร?”
“พี่แป้งกับพี่ซันเป็นเพื่อนกันมานานยัง”
“ตั้งแต่เด็กรวมไอ้สองด้วย” พอได้ฟังฉันก็ยิ่งเคลือบแคลงใจ มันเหมือนมีอะไรมาสะกิดยังไงบอกไม่ถูกกับความรู้สึกที่เห็นพวกเขาสองคน ไม่สิ ต้องบอกว่าการกระทำของพี่แป้งร่ำซะส่วนใหญ่ “สามคนนั้นสนิทสนมกันมาก เป็นเพื่อนรักกัน”
“เหรอ”
“สงสัยอะไร?”
“เปล่า ไม่มี” ส่ายหน้าไปมาฉันก็มองเวลาหน้าจอมือถือก็พบว่าตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว “ฉันกลับก่อน”
“ฉันบอกว่าจะไปส่ง ขึ้นรถดิ”
“แต่ผับนาย...”
“มีคนคอยดูแล”
“แล้วสาวที่นายคุยด้วยล่ะ ทิ้งหล่อนมาแบบนั้นจะดีหรือไง?”
“หึงฉัน”
“จะบ้าเหรอ! ใครหึงไม่ทราบ แค่ไม่อยากขัดจังหวะความสุขนายกับหล่อนมากกว่า”
“รู้ปะ แบบนี้เขาเรียกว่าหึง”
อยากจะคิดห่าอะไรก็คิดไปเถอะ ฉันเหนื่อยจะเถียงกับหมอนี่แล้วจริงๆ พอที!
รถปอร์เช่สปอร์ตสุดหรูสีดำคันโปรดของไนท์ที่แอบเห็นเขาขับอยู่ โม้กับฉันอีกต่างหากว่ามีอีกสามคันที่จอดไว้ที่คอนโดไม่ค่อยได้เอามาขับเพราะชอบคันนี้ อยากจะแหมไปถึงดาวอังคาร หล่อรวยเหลือเกินนะพ่อคุณ! นับเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่ฉันให้ผู้ชายมาส่งถึงหน้าบ้านและมันดึกมากดังนั้นพอรถของไนท์จอดลง ประตูบานใหญ่ถูกปิดสนิทแต่ฉันมีกุญแจสำรองเผื่อกลับบ้านดึกจากการค้างที่มหาลัย ประตูเหล็กเล็กๆ ที่ขนาดพอให้คนเดินเข้าออกจะล็อกจากด้านใน พอไนท์จอดปุ๊บเขาก็โน้มตัวมาทางฉันที่กำลังควานหากุญแจจนรีบเอนหลังพิงกับเบาะ ใกล้เกินไปแล้ว...
“บ้านหลังใหญ่ดีนะ ลูกคุณหนูหรือไง”
“คุณหนูอะไร ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาที่เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองแค่นั้น”
“เธอนี่นะ พูดตรงชะมัด”
“ฉันก็เป็นแบบนี้ล่ะ โดยเฉพาะกับนาย” ฉีกยิ้มกว้างให้ไนท์ก่อนจะหยิบกุญแจบ้าน “ขอบใจที่มาส่ง”
“กัดฟันพูดสินะ”
“แสนรู้จัง” ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันเอื้อมมือไปเกาปลายคางไนท์เหมือนหมาดำตัวโต เอิ่ม คำพูดยัยเคลียร์ดันผุดขึ้นมาในหัวว่าไนท์คล้ายกับแบล็กกี้ ไม่เหมือนสักนิด อย่าเอาแบล็กกี้ของฉันไปแปดเปื้อนนะ! “บาย”
“เดี๋ยว” ฉันโบกมือให้ไนท์หากแต่ว่าเขากลับคว้าข้อมือฉันไว้ เพื่อรั้งไม่ให้ลงจากรถ จำต้องหันกลับไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ปลดสายคาดเบลท์ออกเพื่อที่จะโน้มตัวเข้ามาใกล้กันได้มากยิ่งขึ้น
“อะไร? จะเข้ามาใกล้ทำไม” เพราะหนังหน้าหล่อๆ ของเขามันเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นบุหรี่และเหล้าคละคลุ้งไปมา ส่งผลให้ดวงตาของเราสองคนผสานเข้าหากันอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าความเย็นในรถจะเย็นฉ่ำแค่ไหนกลับทำให้ฉันร้อนวูบวาบ เอาเข้าจริงฉันต้านทานความหล่อของเขาได้เสมอนะ แต่ใกล้ขนาดนี้มันก็ต้องมีบ้างหรือเปล่าที่หวั่นไหวไปกับความหล่อ
“เธอรู้ความต้องการของฉันใช่ไหมเกี๊ยว”
“...”
“ฉันเองก็อยากรู้ความต้องการของเธอเหมือนกัน” ความต้องการของฉัน? หมายถึงอะไรกัน ถ้าเป็นเรื่องอย่างว่าฉันไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนเลยนะ แม้ว่าจะหวงตัวเองแบบสุดๆ แต่ก็อยากให้คนที่ได้มันไปคือคนที่รักฉันจากใจจริง ไม่ใช่เข้ามาเพื่อหวังผลแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆเหมือนที่ผ่านมา “ลองจูบกันไหม?”
“ห๊ะ! จะ จูบเหรอ”
“เธอคงจะเคยจูบกับผู้ชายที่เดตด้วยมาบ้างสินะ” ฉันลอบกลืนน้ำลายเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาสีดำสนิท ยิ่งไนท์เอาแต่กวาดสายตามองทั่วใบหน้าฉันแล้วก็ทำให้เสมองไปทางอื่น คิดในใจ ‘เคยจูบกับใครที่ไหนกันล่ะ!’ แม้แต่จูบแรกก็ยังไม่เคยได้ นับประสาอะไรรอให้ใครมาเปิดซิง “หรือยังไม่เคย”
“กะ ก็เคยมาก่อนดิ”
[50%]
*------------------------------------------------------*