SET :: To be 4’
Want to be เล่นกับไนท์
[เฮียไนท์ x เกี๊ยว]
ในเมื่อเสียตัวไปแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้มันสูญเปล่า
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่สเปกก็ตามที แต่อย่างน้อยเขาก็หล่อจนละสายตาไม่ได้
ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่า ‘ไม่มีทางหยุดผู้ชายเจ้าชู้ได้’ ก็ช่างแม่งมันสิ ที่ฉันต้องการก็คือ...
(คำเตือน :: การดูดวงเป็นความเชื่อส่วนบุคคล มิได้มีเจตนาลบหลู่หรือดูถูกความเชื่อของใคร เป็นเพียงจินตนาการของนักเขียน ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ถ้าหากทำให้ไม่สบายใจนะคะ อ่านเพื่อความบันเทิงและสนุกพอนะคะ)
กรุ๊งกริ๊ง~
เสียงกระดิ่งดังไปทั่วห้องที่มืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากเทียนสีขาวที่จุดรอบๆ เพื่อให้แสงสว่าง ขณะที่ฉันนั่งขัดสมาธิมองร่างของหญิงสาววัยกลางคนที่กำลังตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า มือซ้ายถือระฆังสั่นกระดิ่งไปทั่วห้อง กลิ่นธูปและกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยอบอวลชวนให้คลื่นไส้ แถมด้านหลังยังมีแท่นพิธีอะไรก็ไม่รู้ที่มองไม่ออกว่าจะเอาแบบไหนดีจะไปทางผีเข้าหรือทางจีน ฉันก็มองไม่ออกว่าคนทรงกำลังนั่งตัวสั่นเพราะเจ้ากำลังเข้าหรือเป็นพยาธิไชตูดกันแน่
“นี่แม่พาเกี๊ยวมาทำอะไรเนี่ย?”
“เฉยๆ เถอะ แม่หมอคนนี้แม่นมากเลยนะ แม่ให้ท่านดูดวงให้ลูก”
“ดูเพื่อ?” ฉันยกมือเกาศีรษะตัวเองขณะที่แม่ตีมือฉันและหันไปรอหญิงวัยกลางคนที่กำลังนั่งเขย่าตัว จากนั้นก็ชันเข่าขึ้นกระทืบเท้าจนเกิดเสียงดังปึกหลายที อยากจะถามเจ็บตีนบ้างไหมแม่หมอ “ไร้สาระ”
“เกี๊ยว” แม่เอ็ดเสียงดุจนฉันได้แต่ถอนหายใจพลางนั่งแคะเล็บตัวเอง ขืนยังอยู่ที่นี่มีหวังฉันได้โดนควันธูปเล่นงานตายห่าที่นี่ก่อนจะได้ดูดวงซะอีกนะ แม่ก็อีกคนชอบจริงๆ เลยไอ้เรื่องดูดวงเนี่ย เอาเข้าจริงพ่อก็ไม่เคยจะห้ามด้วยนะราวกับมันเป็นสิ่งที่แม่ชอบก็เลยปล่อยให้ทำ สำหรับฉันมันค่อนข้างลวงโลกอะ หมอดูที่ไหนจะแม่นยังกับจับวางถามหน่อย ไม่มีหรอก
“ข้ารู้ ข้าเห็น”
“เห็นอะไรเหรอคะแม่หมอ” จู่ๆ น้ำเสียงแหบพร่าที่ขึงขังก็พูดขึ้น พร้อมดวงตาที่แดงก่ำเปิดขึ้นและกวาดสายตามองแม่จนสุดท้ายมาหยุดที่ฉัน จากนั้นหมอดูก็ชี้นิ้วมาหาฉันพลางกระทืบเท้าจนกระพรวนข้อเท้าดังน่าปวดหู
“ลูกสาวของเจ้าเป็นคนดวงดี” พอแม่ได้ฟังก็ฉีกยิ้มกว้างทันที “โตขึ้นจะได้เข้ามหาลัยที่มีชื่อเสียง ได้เรียนคณะที่เกี่ยวกับการออกแบบก่อสร้าง”
ออกแบบ? ก่อสร้าง? ไม่ได้อยู่ในหัวเลยนะบอกไว้ก่อน ฉันตั้งใจว่าจะเข้าคณะบัญชีไม่ก็นิเทศฯ นะ มั่วแล้วหนึ่งข้อ
“เด็กคนนี้เป็นเด็กมีบุญวาสนามาก ดวงดีชนิดที่ว่าฉุดไม่อยู่ มีดวงเรื่องโชคลาภแม้จะไม่ได้รางวัลใหญ่แต่สะสมไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นมีเงินก้อนโตเก็บไว้ ได้จากการเสี่ยงโชค หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด”
“จริงเหรอคะแม่หมอ” แม่ของฉันได้ฟังก็ตื่นเต้นราวกับว่าบ้านของเราจนเหลือเกินนะ ฉันไม่จำเป็นต้องมีดวงเรื่องโชคลาภก็มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ พ่อเป็นถึงนักธุรกิจอสังหาฯ ทั้งในและต่างประเทศ ไหนจะมีธุรกิจยิบย่อยอีกมากมาย ส่วนแม่ไม่ต้องพูดถึงเลยรายนี้ก็เป็นคุณนายที่วันๆ ก็นั่งนับเงินนั่งทองไม่มีวันหมด แต่ก็ดันมาเสียรู้ให้กับหมอดูที่ดูดวงได้มั่วมากจนฉันนั่งเท้าคางมองหน้าแม่หมอที่แม่นับถือด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“มีมิตรสหายที่ดีมาก ที่สำคัญโตไปจะได้เป็นใหญ่เป็นโต”
“เอาเข้าไป” ฉันบ่นพึมพำออกมาพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อนาคตโดยรวมแบบนี้ใครๆ ก็พูดกันได้ปะว่าจะได้เป็นใหญ่เป็นโตบลาๆ เฮ้อ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงคิดว่าฉันคงจะเชื่องั้นสิ
“แล้วเรื่องคู่ล่ะคะ ลูกสาวของดิฉันจะได้คู่ที่ดีไหมคะแม่หมอ”
“ไม่!”
“อะ อะไรเหรอคะที่ว่าไม่?”
“ดวงลูกสาวของเจ้าดีหมด ยกเว้นคู่”
“ทำไมคะ หรือว่ายัยเกี๊ยวเกิดมาไร้คู่เพราะเคยทำอะไรเอาไว้เมื่อชาติที่แล้ว”
“ไปกันใหญ่แล้วแม่ คนจะไม่มีผัวมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับดวงไร้คู่เลย” ถึงกับสบถออกมาอย่างเสียไม่ได้ แม่คือเชื่อไปซะหมด เออออเก่งจริงๆ เลยแม่ของฉัน “ใช่ปะแม่หมอ”
“เจ้ามีดวงเรื่องผู้ชายแย่มาก” จู่ๆ แม่หมอก็ชี้หน้าฉันพลางกระแทกระฆังที่แกว่งไปมา “ชาติก่อนเจ้าหักหลังคนรักจนทำให้เขาฆ่าตัวตาย เขาสาปแช่งเจ้าเอาไว้เพื่อไม่ให้เจ้าเจอกับรักที่ดี”
“มีวิธีแก้ไหมคะแม่หมอ”
“โอ๊ยแม่! เลิกเชื่ออะไรแบบนี้สักที มันงมงาย แม่เข้าใจเกี๊ยวปะเนี่ย”
“ดวงของเจ้าเกี่ยวกับคู่มืดมนจนข้ามองไม่เห็นอะไร นอกเสียจากความมืด” เอาเข้าไป พูดจนแม่ฉันจนร้องไห้อยู่แล้วนะเว้ย! ยัยแม่หมอบ้านี่ “ตั้งแต่ข้าดูดวงมา เจ้ามีดวงเรื่องผู้ชายที่แย่ที่สุดหรือถ้าจะมีผัวก็คงเป็นดวงกินผัวมาก”
“กินยังไงแม่หมอ ฉันไม่ใช่ปอบนะ”
“ไม่ใช่กินแบบนั้น หมายถึงกินผัวจนหมดตัวภายนอกไม่ใช่ภายใน” ยิ่งพูดก็ยิ่งงงเว้ย! “ชีวิตของเจ้าจะพัวพันกับผู้ชายนับครั้งไม่ถ้วน แต่จะไม่มีวันได้เจอกับรักที่ดี”
“...”
“ดวงเรื่องคู่ของเจ้าซวยมาก ซวยชนิดที่ว่าผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของเจ้าก็จะพลอยหนีหายไปเสียดื้อๆ” แม่ของฉันถึงกับหันมามองฉันที่เลิกคิ้วขึ้นพลางส่ายหน้าไปมา แม่ก็คือจะร้องไห้แล้วหรือไงที่ลูกสาวคนนี้จะหาผัวไม่ได้น่ะ
“มีวิธีแก้ไหมคะแม่หมอ?”
“ไม่มี” แม่หมอถึงกับส่ายหน้าไปมาเพราะมันไม่มีวิธีแก้ดวงซวยเรื่องคู่ให้กับฉัน “ลูกของเจ้าทำกับอดีตคนรักเอาไว้เยอะมาก จนเขาไม่ยินยอมให้ลูกของเจ้ามีรักครั้งใหม่”
“ทำยังไงดีเกี๊ยว”
“เกี๊ยวจะไปรู้เหรอ เกี๊ยวว่ามันไม่จริงหรอก” มันจะจริงได้ยังไงกันในเมื่อทุกวันนี้มีหนุ่มเข้ามาจีบฉันเยอะมากชนิดที่ว่าหัวบันไดไม่เคยแห้งนะบอกไว้ก่อน ถึงจะอายุแค่ 17 เองก็เถอะไม่อยากจะคิดว่าถ้าโตเป็นสาวสะพรั่ง ตัวฉันจะเวรี่ฮอตขนาดไหน “แม่อย่าไปเชื่อมากเลย เกี๊ยวขอ”
“ภายในไม่กี่ปีหลังจากนี้ ถ้ามีผู้ชายมาพัวพันและทำให้เจ้าที่ไม่เคยรักใคร จู่ๆ ก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กับเขา รู้สึกรักเขาหมดหัวใจ”
“...”
“คนๆ นั้นคืออดีตคนรักของเจ้าที่กลับชาติมาเกิด เพื่อมาคู่กับเจ้า” ฉันได้แต่นั่งจ้องหน้าแม่หมอราวกับอยากจะพูดอะไรก็ตามสบายเลย เพราะยังไงฉันก็ไม่จำเรื่องราวบ้าๆ แบบนี้เอาไว้รกสมองหรอก เรื่องอดีตชาติบ้าบอคอแตกอะไร คนเราถ้าตายห่าไปแล้วก็จำเรื่องราวที่ใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้หรอก มีแต่เรื่องงมงายเอาไว้หลอกควายมากกว่า... เอ่อ ไม่ได้ด่าแม่ตัวเองนะ
“จริงเหรอคะแม่หมอ”
“อืม แต่เขาจะมาในรูปแบบของเจ้ากรรมนายเวร อดีตชาติเจ้าทำอะไรกับเขาเอาไว้ เขาจะเอาคืนเจ้า”
“ก็มาดิ กลัวเหี้ยอะไร”
“เกี๊ยว!” แม่ตีขาฉันอย่างแรงจนเจ็บแสบคันเหมือนมดกัดเลย “แล้วจะทำยังไงให้อดีตคนรักที่ตามมาแค้นลูกสาวดิฉัน ใจเย็นลงคะแม่หมอ”
“ต้องแก้ดวงที่ผูกกันเอาไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว แต่มันก็ช่วยไม่ได้มาก”
“เพราะอะไรคะ?”
“เขาสองคนผูกดวงกันไว้หลายชาติ ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติไหน ใครคนใดคนหนึ่งมาเกิดก่อนก็จะตามกันไปทุกภพ”
“ตายจริง”
“เขาจะตามลูกสาวของเจ้า ไม่ว่าลูกสาวของเจ้าจะมีชายใดมาพัวพันมากมายแค่ไหน เป็นอันต้องหนีหายเพราะเขาจะไม่ยอมให้ลูกสาวของเจ้ามีรักที่ดี นอกเสียจากรักแค่เขาคนเดียว”
ฉันหันไปสบตากับแม่ที่ทำหน้าตกใจราวกับมันเป็นเรื่องที่ทำให้แม่เชื่อสนิทใจ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการถวายเงินลงขันเพื่อแก้ดวงไม่ให้ฉันถูกอดีตคนรักในอดีตชาติตามมาเอาคืนเพราะไปทำกรรมกับเขาเอาไว้ ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาเสียยกใหญ่ มองธนบัตรสีเทาปึกหนึ่งถูกมอบให้กับแม่หมอที่ทำพิธีลั่นระฆัง สั่นกระดิ่งเป็นเจ้าเข้าก็เป็นอันจบสิ้นพิธีดูดวง
“โชคชะตาของเจ้าถูกเขาคนนั้นกำหนดเอาไว้แล้ว”
“...” ฉันหยุดชะงักขาตัวเองที่กำลังก้าวออกจากห้องแม่หมอที่กว้างใหญ่และมีลูกศิษย์ของแม่หมอ เปิดประตูเลื่อนแบบไม้สไตล์แบบจีนค้างเอาไว้ ทำให้แสงสว่างสาดส่องเข้ามาในห้องที่มืดมิดเป็นสีแดงเข้ม ใบหน้าของฉันค่อยๆ เอี้ยวสบตากับแม่หมอที่นั่งชันเข่าพลางถือกระดิ่งขึ้นมาและลั่นมันจนเสียงดังไปทั่วห้อง
“เขาจะกำหนดให้เจ้าเจอกับผู้ชายที่ไม่มีวันจริงใจกับเจ้า จนกว่าเขาจะเจอกับเจ้าอีกครั้ง”
“เหอะ ฝากบอกไอ้เวรตะไลนั่นด้วยนะแม่หมอ” แม่ถึงกับดึงต้นแขนฉันเขย่าไม่ให้พูดจาหยาบคายใส่แม่หมอ แต่มันก็อดไม่ได้นี่นาที่ถูกใครก็ไม่รู้ดูดวงให้แบบเหมือนแช่งมากกว่าดูให้ดีอะ “ชีวิตของฉัน ฉันกำหนดของมันเอง ไม่จำเป็นต้องให้ไอ้เวรคนรักบ้าบอคอแตกเป็นคนกำหนดให้”
“...”
“ที่สำคัญฉันโคตรจะไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้เลย”
“หึ”
แม่หมอฟังฉันต่อว่าพลางแสยะยิ้มมุมปาก จากนั้นแม่ก็ยกมือขอโทษแม่หมอและลากฉันออกจากห้อง แต่ไม่วายสายตาของเราสองคนก็ผสานเข้าหากันแบบไม่ได้ตั้งใจ สายตาของแม่หมอที่มองฉันพลางยิ้มแบบนั้นมันหมายความว่ายังไงวะ? จนถึงทุกวันนี้แม้จะหลงลืมเรื่องเมื่อ 5 ปีก่อนไปได้แล้ว
[50%]
*----------------------------------------------------------------*