งานแต่งของภาคินและไออุ่นถูกเนรมิตขึ้นมาบนชายหาดในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าสาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้น คืนนี้ส้มโอรับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาว ส่วนภาวินทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว และทั้งคู่ยังรับหน้าที่ดูแลหลาน ๆ แทนเจ้าบ่าวเจ้าสาวอีกด้วย
“คุณน้าส้มโอขาาา หนูอยากกินอันนี้ได้ไหมคะ”
เสียงเล็ก ๆ ของอุ่นรัก ลูกสาวแสนสวยของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเอ่ยถามคุณน้าคนสวยเมื่อเห็นว่าบนโต๊ะนั้นมีอาหารมากมายวางอยู่ในจาน และหนึ่งในนั้นก็คือพี่กุ้งที่เด็กน้อยชอบกิน
“อันนี้กินได้ค่ะ เดี๋ยวน้าส้มโอแกะเปลือกให้ก่อน โอเคนะคะ”
คุณน้าคนสวยหันไปบอกหลานสาวตัวน้อยที่เอาแต่มองกุ้งในจานแล้วกลืนน้ำลายลงคอยกใหญ่ด้วยความเอ็นดู แต่ยังไม่ทันจะเอื้อมมือไปคว้ากุ้งมาแกะ ก็มีมือของผู้ชายอีกคนที่นั่งข้าง ๆ มาคว้ามันไปเสียก่อน
“อาวินแกะให้เองค่ะ น้องรักเอาตัวใหญ่ ๆ ใช่ไหม” ภาวินเอ่ยถามหลานสาว
“ค่า หนูอยากกินพี่กุ้งตัวใหญ่ อาวินขาาาา แกะเยอะ ๆ เลยนะคะ” เด็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน พลางมองคุณอาวินสุดหล่อตาปริบ ๆ เพื่อให้เขาแกะกุ้งให้เยอะ ๆ อย่างที่บิดาทำให้บ่อย ๆ เวลาที่มีโอกาสได้มาเที่ยวทะเล
“ครับ เดี๋ยวอาวินจะแกะให้เต็มจานเลย ดีไหมครับ” เขาเอ่ยถามหลานสาวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทำให้ส้มโอถึงกับต้องกลั้นยิ้ม เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มในมาดแบบนี้มาก่อน
“ดีค่าาาาา รักอาวินที่สูดดด”
“แล้วหนูไม่รักน้าส้มโอเหรอลูก”
“รักเหมือนกันค่าาา รักทุกคนเลย”
“ฟอด ช่างพูดจริง ๆ ตัวแค่นี้ กินเลยค่ะ อยากกินอะไรอีกบอกน้าส้มโอนะคะ”
“ค่า คุณน้าส้มโอคนสวย”
เด็กน้อยฉีกยิ้มกว้างให้คุณน้าคนสวย จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบกุ้งในจานที่คุณอาวินสุดหล่อแกะให้มาใส่ปากแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ย
ส่วนน้องชายอย่างอ้อมกอดก็โดนคุณอาฝาแฝดกลิ่นเดือนและกลิ่นดาวฟัดพุงป่อง ๆ อย่างมันเขี้ยวอยู่ที่โต๊ะถัดไป สักพัก เจ้าบ่าวก็เดินเข้ามาหาทุกคนหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เหลือแค่เจ้าสาวเท่านั้นที่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ
“ฝากเด็ก ๆ ด้วยนะเจ้าวิน คุณส้มโอ”
“โอเคครับคุณพี่”
“ไม่มีปัญหาค่ะท่านประธาน อุ่นรักเป็นเด็กอารมณ์ดี เลี้ยงง่าย กินเก่งอีกต่างหาก เห็นแล้วอยากมีลูกเองเลย”
“รีบหาเจ้าบ่าวสิครับ มีลูกชีวิตก็สนุกไปอีกแบบ”
“คิก ๆ เจ้าบ่าวหาง่ายกันซะที่ไหนล่ะคะ แต่ถ้าเจอ รับรองว่าส้มโอจะรีบคว้าไว้เลย”
“ขอให้เจอเร็ว ๆ นะครับ”
“ขอบคุณค่ะท่านประธาน”
ในระหว่างที่ส้มโอกำลังคุยกับเจ้าบ่าวของงาน เจ้าสาวแสนสวยก็ปรากฏตัวขึ้น หญิงสาวดูงดงามราวกับนางฟ้า ทำให้ภาคินตกตะลึงไปชั่วขณะแล้วรีบเดินไปรับตัวเจ้าสาวของตนมาจากมารดา ทุกคนที่อยู่ในงานต่างปรบมือด้วยความยินดี ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก ๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ แต่พอเห็นผู้ใหญ่ทำก็ทำตามเท่านั้น
หลังจากที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้พบหน้ากันและดูเหมือนอาการหื่นของภาคินกำลังจะกำเริบ น้องชายตัวแสบอย่างภาวินก็ส่งหลานสาวตัวน้อยเข้าไปขัดขวาง เด็กน้อยจึงวิ่งไปสะกิดขาของคุณป๊าในขณะที่เขากำลังจะก้มลงจูบภรรยาสุดที่รัก
“คุณป๊าขา คุณแม่ขา อาวินให้มาตาม อาวินบอกว่า Kiss ตรงนี้ไม่ได้” อุ่นรักในชุดฟูฟ่องเงยหน้าบอกคุณป๊ากับคุณแม่ตามที่อาวินสุดหล่อสั่งมาได้เป๊ะทุกคำไม่มีผิดเพี้ยน
“ครับ ลูกสาวคนสวยของป๊า” ภาคินโยกหัวลูกสาวเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว
จากนั้นก็จูงมือภรรยาเดินตามอุ่นรักไปหยุดอยู่กลางฟลอร์ ตรงหน้าเวทีเล็ก ๆ ที่จัดขึ้นเพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เอ่ยคำในใจบอกกับคนที่มาร่วมงาน โดยมีลูกสาวยืนอยู่ตรงกลางเพราะเด็กน้อยอยากอยู่กับพ่อแม่ ไม่ยอมไปนั่งกับคุณปู่ คุณย่า และน้องชายที่ส่งเสียงอ้อแอ้ราวกับกำลังเรียกพี่สาว
ส่วนคุณอาสุดหล่อก็ยกนิ้วโป้งให้หลานสาวด้วยความชอบใจ จึงโดนส้มโอดุเบา ๆ อย่างไม่จริงจังนักโทษฐานที่สอนอุ่นรักทำอะไรแปลก ๆ
เมื่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาวพูดความในใจจบ ภาวินก็ส่งสัญญาณให้ทางทีมงานจุดพลุตามที่ได้เตี๊ยมกับพี่ชายเอาไว้
ปัง ปัง ปัง
พลุสีสวยลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าคู่กับพระจันทร์ ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยที่ไม่ค่อยกลัวอะไรตาลุกวาว
“เย้ ๆ สวย หนูอยากไปมองใกล้ ๆ ค่าคุณแม่”
“เฮ้ย อย่าไปลูก”
อุ่นรักพูดจบก็วิ่งลงไปในทะเลอย่างเร็วโดยที่พ่อแม่ยังไม่ทันตั้งตัว สองสามีภรรยาส่งเสียงห้ามไม่ทัน เด็กน้อยจึงเปียกปอนไปกว่าครึ่งตัว โชคดีที่ภาวินไหวตัวเร็ว วิ่งไปจับเด็กจอมซนได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นคงจมน้ำไปแล้ว เพราะคลื่นลูกใหญ่กำลังซัดเข้าฝั่ง
เมื่อเรื่องวุ่น ๆ ผ่านพ้นไป ก็ถึงเวลาที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวของงานจะต้องเข้าหอ ทุกคนต่างทยอยกันเข้ามาอวยพรสองสามีภรรยา โดยเริ่มจากผู้ใหญ่ที่สุดแล้วทยอยไปตามลำดับอายุ จนสุดท้ายมาจบที่ส้มโอ
หญิงสาวถึงกับน้ำตาซึมหลังพูดจบเพราะดีใจกับเพื่อนสนิท อีกอย่าง เมื่อได้ดอกไม้ของเจ้าสาวไปครอบครอง เธอก็ยิ่งสุขใจมากเพราะจะได้ลงจากคานเหมือนกับเพื่อนเสียที
“ดีใจที่ได้ดอกไม้ขนาดนั้นเชียว?” เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวหลังออกมาจากห้องหอของภาคินและไออุ่น
“แน่นอนค่ะ เกิดมาไม่เคยได้ดอกไม้เลยสักช่อ นี่เป็นช่อแรกเลยนะคะที่ส้มโอได้ อีกอย่าง การได้ดอกไม้ของเจ้าสาวในงานแต่งมันก็หมายความว่าเราจะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไป แต่ติดที่ส้มโอยังไม่มีแฟนน่ะสิ แล้วจะแต่งกับใครกันนะ”
“กับผมไง” เขาพูดเบา ๆ หญิงสาวไม่ได้ยิน เธอจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“คุณวินพูดว่าอะไรนะคะ ส้มโอไม่ค่อยได้ยิน”
“คือ... ผมถามว่าคุณช่วยไปดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหม ผมรู้สึกเหงายังไงไม่รู้ คืนนี้คุณก็พักที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
“อืมมมม ก็ได้ค่ะ ส้มโอก็เหงาเหมือนกัน เห็นไออุ่นแต่งงานแบบนี้ใจมันโหวง ๆ ยังไงไม่รู้”
“ไปดื่มที่ห้องผมแล้วกันนะ ผมมีไวน์ตัวใหม่ ยังไม่ได้ลองเลย ราคาแพงมากกกก”
“จริงดิ แบบนี้น่าลอง แต่ส้มโอดื่มไม่ค่อยเก่ง เอาแค่พอหอมปากหอมคอก็พอนะคะ”
“ได้สิ ไม่มีปัญหา” จากนั้นสองหนุ่มสาวก็เดินไปที่ห้องของชายหนุ่มซึ่งอยู่ห่างจากห้องหอของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเพียงแค่ไม่กี่ห้องเท่านั้น เมื่อเข้ามาในห้องของภาวินเรียบร้อย ทั้งสองก็ช่วยกันจัดสถานที่ตรงริมระเบียงเพื่อจะดื่มด่ำกับไวน์ราคาแพงในค่ำคืนนี้
ส้มโอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงตอบตกลงมาดื่มกับเจ้านายหนุ่มอย่างง่ายดายเช่นนี้ รู้แต่ว่าตอนนี้รู้สึกเหงา จึงไม่อยากกลับไปอยู่ที่ห้องคนเดียว พอภาวินเอ่ยชวนก็เลยตอบรับแบบไม่ได้คิดอะไรมาก
ส่วนภาวิน ที่เขาชวนส้มโอมาดื่มก็เพราะไม่รู้จะเอ่ยประโยคไหนมากลบเกลื่อนสิ่งที่พูดออกไปก่อนหน้านั้น เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไป ทำไมถึงอยากให้เจ้าบ่าวของส้มโอคือตนเอง
การดื่มไวน์ค่อย ๆ ผ่านไปอย่างเชื่องช้าพร้อมกับบรรยากาศสบาย ๆ ริมระเบียงมีลมพัดเรื่อย ๆ มีพระจันทร์ให้มองและมีคนคุยด้วย ทำให้คนโสดทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้น และเริ่มจะเมาแล้วด้วย เพราะไวน์ที่ชายหนุ่มซื้อมาค่อนข้างแรง ต่อให้คอแข็งก็ไม่รอด
“คูณณณณณณณวิน มามะ มาให้จูบหน่อย”
คนเมาก่อนเริ่มแผลงฤทธิ์ใส่ภาวินที่กำลังมึนกับไวน์แก้วที่สาม หญิงสาวลุกขึ้นไปนั่งตักของเจ้านายหนุ่ม จากนั้นก็ทำปากจู๋รอคอยการจูบของเขา
“แบบนี้มันม่ายยยด้ายยยย” ภาวินยังพอมีสติอยู่บ้าง จึงทำการปัดป้องมือของส้มโอที่กำลังดึงใบหน้าของเขาให้ลงไปชิดใบหน้าของเธอ ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเริ่มร้อนขึ้นมาเสีย
ดื้อ ๆ เมื่อคนบนตักเริ่มอยู่ไม่นิ่งขยับสะโพกไปมา น้องชายที่หลับอยู่ก่อนหน้านี้ก็ตื่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ด้ายยยยยย มามะ มาจูบกันเร็วววว”
หญิงสาวดึงใบหน้าของชายหนุ่มเข้ามาใกล้ จากนั้นก็แนบริมฝีปากสีสวยของตนเข้ากับปากของเขา ทำเอาภาวินถึงกับสติแตก ไม่อาจจะอดทนได้อีกต่อไป จึงตอบสนองคนบนตักด้วยการส่งลิ้นร้อนเข้าตวัดลิ้นเล็ก ๆ นั่นอย่างเร่าร้อนจนส้มโอเกือบหมดลมหายใจ
ชายหนุ่มถอนจูบออกเพื่อให้หญิงสาวได้สูดลมหายใจเข้าปอด จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า ผมขอ ราวกับจะขออนุญาต แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ เพราะหลังจากที่พูดจบ เขาก็อุ้มคนบนตักเข้าไปในห้องนอนทันที โดยไม่รอให้ส้มโอได้เอ่ยคำใดออกมาแม้แต่คำเดียว