ชาติใหม่

1626 คำ
ไม่รู้ว่าเรื่องราวต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลิวยุ่นฉานรู้เพียงว่าเธอลงมือไปแล้ว ด้วยการคว้าแจกันที่ตั้งประดับอยู่ในห้อง ฟาดหัวคนสารเลวที่ผลักเธอล้มลงจนมือได้รับบาดเจ็บ เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วห้องซึ่งเป็นเสียงของหลี่ลู่ลู่ที่สุดแสนจะน่ารำคาญ พวกเราทั้งสามคนยื้อยุดฉุดกระชากกันมาตรงที่ริมระเบียง เลือดสีแดงมากมายไหลนองพื้นไม่รู้ว่าต่อสู้กันไปนานสักเท่าไรแล้ว ไม่นานเกินครึ่งชั่วยามตำรวจก็มาและยังไม่ทันที่จะเข้ามาห้ามปราม ฉันก็พลาดพลั้งพลัดตกจากระเบียงห้อง ท่ามกลางความตกใจของทุกคน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองตกจากคอนโดมิเนียมสูงเสียดฟ้านั่นได้อย่างไรกัน รู้เพียงว่ามีใครคนหนึ่งรีบวิ่งมาคว้ามือของฉันไว้แต่มันก็ไม่ทันเวลาเสียแล้ว สายตาที่ปรากฏร่องรอยความตื่นตระหนกตกใจ และสายตานั้นเป็นสายตาของเขา ผู้ชายที่ฉันเคยแอบรักในสมัยเด็ก “หลี่ซู่เฟิง....” ไม่ใช่คนรักคนปัจจุบันอย่างซ่งหยวนที่นอกใจกันได้ลงคอ เฮือกกก เสียงคนสูดอากาศหอบลมหายใจเข้าร่างกายจำนวนมากอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างที่หมดสติไปนานมีปฏิกิริยาตื่นตัวขึ้น “คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู!” ใครคนหนึ่งกำลังเรียกและเขย่าตัวของฉัน หลิวยุ่นฉานปวดร้าวระบมร่างกายไปหมดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าราวกับถูกตีด้วยไม้หน้าสาม “หนะ น้ำ...” ลำคอที่แห้งผากเปล่งเสียงออกมาอย่างยากเย็น ไม่นานก็มีน้ำสะอาดไหลรินลงลำคอทำให้เกิดความชุ่มชื่น “ฮือ ๆ คุณหนูยังไม่ตาย บ่าวดีใจเหลือเกินเจ้าค่ะ” สาวใช้คนนั้นหลั่งน้ำตาออกมาราวกับว่าร้องไห้ให้กับคนที่ตายไปแล้ว หลิวยุ่นฉานถูกประคองให้ลุกขึ้นมานั่ง สายตาที่พร่าเลือนค่อย ๆ มองเห็นภาพตรงหน้าช้า ๆ สตรีคนหนึ่งสวมชุดโบราณสีหน้าดูเป็นห่วงมากกำลังจ้องมองมา “ที่นี่ที่ไหนหรือ”​ เธอได้แต่ถามด้วยคำถามที่ดูโง่งม เท่าที่จำได้ ขณะพลัดตกจากที่สูงรอบตัวมีเพียงเสียงลมเข้าใบหูพร้อมทั้งความเจ็บปวดที่ท้องน้อย เลือดจากร่างกายหลั่งรินออกมาเป็นเส้นสาย สายตาของใครคนนั้นที่หลิวยุ่นฉานสบตาด้วยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะห่างออกไปเรื่อย ๆ แล้วร่างหญิงสาวก็ถึงพื้นด้านล่างในสภาพน่าอเนจอนาถ ช่างแปลกใจนักที่ความตายซึ่งหลายต่อหลายคนหวาดกลัวหนักหนา แต่พอเกิดขึ้นกับเธอแล้วกลับไม่ได้รู้สึกน่ากลัวมากถึงขนาดนั้น อาอิ๋งยกมือปาดน้ำใสที่เปื้อนดวงตาออกแล้วรีบตอบคำถาม “ที่นี่จวนเสนาบดีฝ่ายขวาเจ้าค่ะ” สาวใช้ตอบอย่างไม่ลังเล ถ้าหากคุณหนูจะจำไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อห้าวันก่อนเป็นเพราะคุณหนูคิดหนีงานอภิเษกสมรสกับรัชทายาทเลยทำให้ฮูหยินต้องใช้ไม้แข็งฟาดไปที่ศีรษะ และให้คนจับมัดไว้กับเตียงพร้อมทั้งให้อดอาหารกินได้แต่น้ำชาบำรุงร่างกายจึงทำให้ร่างกายที่บอบบางอ่อนเพลียจนหมดสติไปนาน ผ่านมาหลายวันแล้วเพิ่งมีหมอมารักษาอาการเลยทำให้คุณหนูฟื้นขึ้นมาราวกับมีปาฏิหาริย์ หลิวยุ่นฉานได้ฟังแบบนั้นก็ยิ่งปวดหัว เมื่อจับดูก็พบว่าที่ศีรษะมีผ้าสีขาวพันไว้จริง “จวนเสนาบดีหรือ” คนป่วยสอบถามได้เพียงเท่านั้น ที่ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรง มีสตรีคนหนึ่งซึ่งหน้าตาดูไม่เป็นมิตรเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับสาวใช้ที่ถือถาดอาหารเข้ามา “รีบกินเสีย” แล้วถาดอาหารก็วางลงบนโต๊ะกลมที่ตั้งห่างออกไปไม่ไกล หลิวยุ่นฉานจ้องหน้าสตรีคนนั้นตาเขม็งแต่ไม่ได้พูดอะไรทำเพียงยกมือขึ้นมานวดขมับ “อาอิ๋ง ดูแลคุณหนูให้ดี อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันอภิเษกสมรสแล้ว อย่าให้มีเรื่องผิดพลาด” สตรีคนนั้นสั่งสาวใช้ แล้วก็เดินจากไป หลิวยุ่นฉานไม่มีเวลาไปสนใจคนพวกนั้น เธอกำลังปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ความคิดมากมายไหลเข้ามาในหัว ภาพของสตรีคนหนึ่งถูกบังคับสารพัด ทั้งต้องอดอาหารเพื่อให้รูปร่างผอมบางน่าทะนุถนอม ไหนจะต้องฝึกศาสตร์ศิลป์หลายอย่างเพื่อให้มีความเพียบพร้อม “ไม่ยุติธรรม” ริมฝีปากที่ลอกแตกพูดพึมพำ “มีอะไรหรือเจ้าคะ คุณหนูรีบมากินอาหารเถิด” อาอิ๋งเข้ามาช่วยประคองแขนคุณหนูให้ลุกเดินมาที่โต๊ะกินข้าว เมื่อเดินผ่านหน้าคันฉ่องหลิวยุ่นฉานก็มองเข้าไปในนั้น พลันปรากฏให้เห็นใบหน้าที่เหมือนกับเธอราวกับแกะแต่ทว่าใบหน้าเล็กเรียวกว่า ผิวพรรณที่ขาวซีดราวกับกระดาษ เอวคอดกิ่วที่ดูเหมือนว่าจะหักออกเป็นสองท่อน และนัยน์ตาดูเศร้าหมองไร้พลังกาย “นี่ฉันหรือ...” หลิวยุ่นฉานน้ำตาไหลออกมา เมื่อก่อนเธอก็เคยผอมบางแบบนี้จนกระทั่งป่วยเป็นโรคร้ายทำให้ต้องกินยาแล้วน้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากสาวงามในวันนั้นสู่คนที่มีความงามลดน้อยถอยลง “คะ คุณหนู”​ อาอิ๋งเห็นคุณหนูร้องไห้ออกมาก็รู้สึกสงสาร เดิมทีหลิวยุ่นฉานเป็นแค่หลานสาวของฮูหยินที่ถูกชุบเลี้ยงให้เป็นคุณหนูใหญ่แทนที่คุณหนูตัวจริงที่ตกน้ำตายตั้งแต่อายุแปดขวบ “ฉันมาเกิดใหม่แล้วหรือ” หลิวยุ่นฉานไม่ใช่คนเข้าใจยาก เพราะเห็นว่าคนที่นี่ไม่เหมือนกับที่โลกเก่าจึงรับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ แม้ตกใจที่มันรวดเร็วแต่ก็ดีแล้วเหมือนกันเพราะที่โลกแห่งนั้นเธอไม่อยากอาศัยอยู่อีกแล้ว ก่อนที่หลิวยุ่นฉานจะได้เติมอาหารลงท้องกลับมีเสียงดังเอะอะโวยวายขึ้นอยู่หน้าเรือนเสียก่อน “พวกท่านให้ยุ่นฉานอภิเษกสมรสกับรัชทายาทได้ยังไง นางหมั้นกับข้าก่อนนะ ข้าไม่ยินยอม...” น้ำเสียงนั้นดูคุ้นเคยมากจนหลิวยุ่นฉานหวั่นใจ หญิงสาวรีบเดินออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น กลับได้เห็นคนคนนั้นที่ไม่อยากเจอมากที่สุด “ซ่ง...หยวน” ร่างบางพูดพึมพำเพียงเท่านั้น ซ่งหยวนอดีตแฟนเก่าจากโลกก่อนก็เงยหน้ามาสบตามองกัน “ยุ่นฉานลืมรักของพวกเราไปแล้วหรือ” ซ่งหยวนในชุดโบราณคร่ำครวญอยู่ตรงหน้าเรือน โดยมีบ่าวรับใช้ชายคอยจับแขนทั้งสองของเขาเอาไว้อยู่ “เสียงดังโวยวายอะไรกันตั้งแต่เช้า” ฮูหยินใหญ่เดินออกมาจากเรือนที่ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง แล้วตวัดสายตามองหลิวยุ่นฉานด้วยสายตาคาดโทษ “คุณหนูพวกเรารีบเข้าเรือนกันเถิดเจ้าค่ะ” ​อาอิ๋งเกรงว่าคุณหนูจะตัดใจจากคุณชายซ่งไม่ได้ เพราะเคยหมั้นหมายกับคุณชายซ่งมาก่อน ทั้งสองนั้นรักกันมาก มากเสียจนเคยหนีตามกันมาแล้ว แต่ถูกนายท่านส่งคนไปจับตัวมาได้ก่อนที่เรื่องที่แพร่ออกไป หลิวยุ่นฉานเห็นหน้าซ่งหยวนก็เกิดความเคียดแค้นขึ้นมา เธอมาเกิดใหม่แล้วแต่ยังต้องพบเจอคนผู้นี้อีก สวรรค์กำลังเล่นตลกอะไรอยู่กันแน่ “ฮูหยิน ท่านต้องเชื่อข้านะ ข้ากับยุ่นฉานร่วมหอกันแล้ว” เพียงซ่งหยวนพูดจาแบบนั้นออกมา ทุกคนก็ตกใจไปตามกัน เว้นหลิวยุ่นฉานคนเดียวที่แสยะยิ้มเย็นขึ้น ในความทรงจำไม่ปรากฏเรื่องพวกนั้นเลยสักนิดเดียว “เรื่องจริงหรือฉานเอ๋อ”​ ฮูหยินใหญ่หันหน้ามาสอบถามบุตรีบุญธรรมที่ชุบเลี้ยงมากับมือ แต่หลิวยุ่นฉานไม่ตอบคำถามกลับเดินดุ่มเข้าไปหาคนสารเลวคนนั้น พร้อมกับเงื้อมือฟาดไปที่ใบหน้าซีกขวาของเขาอย่างแรง “หนะ นี่เจ้า...”​ ซ่งหยวนไม่คิดว่าสตรีในห้องหอที่เรียบร้อยคนนั้นจะกล้าลงมือกับเขาแบบนี้ “ไอ้คนสารเลว ข้าไม่เคยร่วมหออะไรกับเจ้าทั้งนั้น” หลิวยุ่นฉานปรับการพูดให้เหมือนกับคนที่นี่ เธอตกลงกับตัวเองแล้วว่าเมื่อมาเกิดใหม่แล้วก็จะใช้ชีวิตเหมือนคนใหม่ ทิ้งอดีตขมขื่นนั่นไว้ข้างหลัง ฮูหยินใหญ่เห็นบุตรีบุญธรรมลงมือเด็ดขาดเป็นครั้งแรกก็ตกใจไม่น้อย “รีบจับตัวซ่งหยวนไปลงโทษ” ​เพราะรู้ว่าถ้าหากมีเรื่องราวพวกนี้หลุดออกไป จวนเสนาบดีจะต้องเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน ไม่อาจปล่อยเอาไว้ได้แล้ว “ฉานเอ๋อ! เจ้าอย่าทิ้งข้า ฉานเอ๋อ!” ซ่งหยวนอ้อนวอนราวกับคนที่เสียสติไปแล้ว เขาเป็นคุณชายบ้านตระกูลซ่งที่ร่ำรายไม่แพ้ใคร แต่ทว่าเสนาบดีฝ่ายขวามีความทะเยอทะยานมากกว่านั้น พระชายารัชทายาทในอนาคตก็คือมารดาของแผ่นดิน ถ้าหากว่าหลิวยุ่นฉานได้อภิเษกสมรสกับรัชทายาทอย่างราบรื่น เมื่อโชคทองตกมาที่ตระกูลหลิวแล้วมีหรือว่าจะปล่อยให้โอกาสดีหลุดมือไป เป็นครั้งแรกที่หลิวยุ่นฉานลงไม้ลงมือกับคนที่ตัวเองรัก ซ่งหยวนผู้ชายที่ไม่เคยจริงใจกับใคร สตรีโฉมสะคราญยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นจนฮูหยินใหญ่หวั่นใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม