"@฿_&@฿.."เสียงอื้ออึงดังอยู่ข้างหูจนผมเผลอคว้ามันแล้วโยนทิ้ง
"..."แสงที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาแยงตาจนไม่อาจข่มตาให้หลับต่อได้
แม้กระทั่งในโลกหลังความตายนี้ก็ยังมีสิ่งที่รบกวนการหลับของผมสินะ!!
"..."แต่เมื่อเริ่มได้สติผมกลับรู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลก..
"เฮือก!!"ผมลืมตาแล้วสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นทันทีเมื่อเริ่มนึกออกว่าการตายมันดูสบายเกินไปสำหรับคนแบบผม
"โลกหลังความตายคือห้องกูเองเหรอ?"ผมพึมพำออกมาเมื่อพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องนอนบนเกาะ แสงแดดจ้าและอากาศด้านนอกที่สดใสแตกต่างจากเมื่อคืนลิบลับ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อยเพราะยังแปลกใจกับสถานการณ์รอบกายที่กำลังเผชิญอยู่ ผมแปลกใจมากไม่คิดว่าในโลกหลังความตายของตัวเองจะมีคนอื่นอยู่ด้วย แต่ก็แอบใจเต้นระรัวเพราะคิดว่าคนที่อยู่หลังประตูอาจจะเป็นหญิงสาวที่ผมอยากเจอและเอ่ยคำขอโทษมากที่สุดก็เป็นได้
"..."ผมส่ายหน้าเพื่อรวบรวมสติก่อนจะเดินไปเปิดประตูออกและพุ่งเข้ากอดร่างของอีกคนทันที
"ในที่สุดฉันก็เจอเธอ! ฉันขอโทษนะที่ทำตัวเลวทรามขนาดนั้น ต่อไปนี้สัญญาเลยว่าจะไม่ทำอีก ต่อให้เธอจะไม่ให้อภัยแต่ฉันก็อยากจะบอกจริงๆ ว่าฉันรักเธอมาก รักมากจริงๆ!" ผมหลับตารวบรวมความหน้าด้านเพื่อเอ่ยความในใจออกไปชุดใหญ่ในขณะที่กอดอีกคนไว้แนบแน่น
"เอ่อ..เรื่องเมื่อวานผมไม่โกรธนายหรอกครับ แต่มาบอกรักกันแบบนี้..ผมก็ทำตัวไม่ถูกนะครับนาย.."เสียงเข้มตอบรับพร้อมกับร่างของอีกคนที่กำลังสั่นราวกับกลั้นขำทำให้ผมเกิดความสงสัย
'ทำไมเสียงน้ำแข็งใหญ่จังวะ?'
'ทำไมตัวน้ำแข็งใหญ่กว่าผมอีกเนี่ย?'
"เหี้ย!!"ผมสบถออกมาอย่างตกใจเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าคนที่ผมกอดอยู่เป็นผู้ชาย แถมยังเป็นอัลฟ่าลูกน้องคนสนิทที่ถูกไอ้เควินยิงตายและที่สำคัญตอนนี้มันกำลังทำหน้ากลั้นขำแบบสุดๆ
"ไอ้ฟ่า!?"ผมเอ่ยเรียกมันอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"ครับผมเอง วันนี้นายต้องกลับเข้าฝั่งนะครับพรุ่งนี้ทางมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมรับน้อง"อัลฟ่าเก๊กหน้าทำขรึมพร้อมกับรายงาน แต่พอมันจ้องหน้าผมจังๆ ก็แอบหันไปกลั้นขำอีกครั้ง
"มึงหัวเราะอะไร? แล้วเมื่อกี้ว่าอะไรนะ กูต้องไปมหาวิทยาลัย? กิจกรรมรับน้อง?"ผมถามทวนมันอีกครั้งอย่างแปลกใจเพราะตัวเองเรียนจบมานานแล้ว
"ครับ เมื่อวานนายบอกไว้ว่าวันนี้จะกลับเข้าฝั่งพรุ่งนี้ต้องไปร่วมกิจกรรมรับน้องแต่เช้า ผมเตรียมรถไว้พร้อมแล้ว"อัลฟ่าพยักหน้าตอบรับ
"รับน้องบ้าอะไร กูเรียนจบมาตั้งนานแล้วแถมมึงยังตายห่าแล้วด้วย"ผมสวนมันกลับทันที
"ผมเนี่ยนะตายแล้ว? ถึงเมื่อวานเราจะผิดใจกันแต่มาแช่งกันแบบนี้ผมแอบเสียใจนะครับ"อัลฟ่าทำหน้าสงสัยใส่ผมนั่นยิ่งทำให้ผมงงหนักยิ่งกว่าเดิมกับสิ่งที่เจออยู่ตอนนี้
"นี่มันอะไรกันวะเนี่ย.."ผมทึ้งหัวตัวเองเพราะคิดว่านี่คงเป็นจิตก่อนตายของผมที่ปรุงแต่งมันขึ้นมา
"ท่าทางจะยังไม่หายเมานะครับเนี่ย หรือว่านายฝันว่าผมตายเหรอครับ?"อัลฟ่ายังคงถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นท่าทางของผม
"ฝันบ้าอะไรล่ะ มึงถูกไอ้เควินยิงตายตอนมันจับน้ำแข็งเป็นตัวประกันไง มึงจำไม่ได้เหรอ? มึงทรยศกู มึงจับน้ำแข็งไปให้ไอ้เควินใช้ต่อรองกับกูเพราะน้องสาวมึงถูกจับไปก่อน"ผมทบทวนความจำให้อัลฟ่าแต่มันกลับทำหน้าสงสัยยิ่งกว่าเดิม
"ผมว่านายยังไม่สร่างเมาแน่ๆ ครับ ไอรีนน้องสาวผมไม่ได้ถูกจับสักหน่อย แล้วผมก็จะไม่มีวันทรยศนายด้วย ว่าแต่คนที่ชื่อน้ำแข็งนี่ใครเหรอครับ?"
"ยังไม่สร่างเมาเหี้ยอะไรล่ะ น้ำแข็งก็คนที่กูพามาที่นี่ไง นี่มึงจำอะไรได้บ้างเนี่ย?! ตายแล้วความจำเสื่อมเหรอ" ผมถามมันออกไปอย่างเหลืออดเพราะเหมือนเราจะคุยกันไม่เข้าใจสักที และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมต้องมาอธิบายอะไรแบบนี้อีก
"นายครับ นายยังไม่เคยพาผู้หญิงมาที่นี่เลยนะครับ หรือว่าแอบนำพาผู้หญิงมาเหรอครับ?"อัลฟ่าทำหน้าตกใจทันที
"มึงเป็นอะไรของมึงอัลฟ่า กูพาใครมามึงก็รับรู้ทั้งนั้นไม่ว่าจะไอด้าหรือน้ำแข็ง" ผมเริ่มหมดความอดทนกับสีหน้างงงวยของคนตรงหน้า เพราะพูดอะไรไปมันก็ไม่เข้าใจสักเรื่อง
"แต่ผมไม่รู้จักทั้งสองคนเลยนะครับ"
"กูจะบอกมึงเป็นครั้งสุดท้ายนะอัลฟ่า ที่นี่คือโลกหลังความตาย มึงโดนยิงตายห่าไปแล้ว กูก็ด้วยเพราะกูกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย กูอยากเจอน้ำแข็งกับลูก แต่กูดันมาเจอมึง"ผมกุมขมับตัวเองหลังอธิบายเสร็จ
"นายครับ...ผมว่านายน่าจะยังไม่ตื่นดี ฟังนะครับ ข้อแรกเรายังไม่ตายยังปกติดีทุกอย่าง ข้อสองนายยังไม่มีลูก...หรือไปแอบมีข้อนี้ผมไม่รู้กับนายจริงๆ ครับ และข้อสามนายไม่เคยพาผู้หญิงมาที่นี่สักคนเพราะบ้านยังต่อเติมไม่เสร็จครับ"อัลฟ่าสรุปเป็นข้อๆ อย่างใจเย็น แต่ผมเห็นมันหันหน้าไปแอบขำทางอื่น
"ต่อเติมไม่เสร็จเหี้ยอะ..ไร..."ผมผลักมันออกก่อนจะเดินออกจากห้องมาแล้วพบว่าบ้านพักบนเกาะของผมยังต่อเติมไม่เสร็จจริงๆ
"นี่มันอะไรวะเนี่ย? บ้านมันต่อเติมเสร็จแล้วตอนกูเรียนปีสองเทอมสองนี่"ผมอุทานออกมาเมื่อเห็นสภาพโดยรอบ
"แต่นี่เพิ่งจะเปิดเทอมแรกของปีสองนะครับ"อัลฟ่าที่เดินตามหลังมาเอ่ยขึ้น
"..."ผมเริ่มคิดถึงเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากตื่นขึ้นมาพร้อมกับปะติดปะต่อเรื่องราว
"ตอนนี้กูอายุเท่าไหร่?"ผมเอ่ยคำถามที่น่าเหลือเชื่อออกไป
"กำลังจะยี่สิบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าครับ"อัลฟ่าตอบเสียงดังฟังชัด
คำตอบของมันยิ่งทำให้ผมไม่อยากจะเชื่อยิ่งกว่าเดิม หากว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือจินตนาการที่ผมสร้างขึ้น และหากว่านี่ไม่ใช่โลกหลังความตายอย่างที่คิด สิ่งที่เป็นไปได้มีอยู่อย่างเดียวคือ ผมย้อนกลับมาเป็นเด็กมหาวิทยาลัยอีกครั้ง..
"มันจะเหลือเชื่อเกินไปมั้ยวะเนี่ย..."ผมพึมพำกับตัวอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่คนจะย้อนเวลากลับมา แต่ถ้าไม่คิดแบบนี้ผมก็อธิบายสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ไม่ได้
"รีบไปอาบน้ำเถอะครับ กว่าจะกลับถึงฝั่งจะมืดซะก่อน"เสียงของอัลฟ่าทำให้ผมหลุดจากภวังค์
"เออ.."ผมตวัดสายตามองอัลฟ่าก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำเสร็จผมยังคงสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ผมคิดทบทวนเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้พร้อมทั้งมองในหลายมุมว่าเป็นไปได้ทางไหนบ้าง ซึ่งหากจะบอกว่าฝันก็ไม่น่าใช่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันชัดเจนและละเอียดมาก แม้จะไม่อยากยอมรับแต่ผมคงจะย้อนเวลากลับมาจริงๆ
"แล้วคุณลุง.."ผมเอ่ยถามอัลฟ่าถึงลุงที่เสียชีวิตไปตอนผมขึ้นปีสามจากโรคประจำตัว
"นายใหญ่ไปประชุมกับลูกค้าที่สิงคโปร์ยังไม่กลับมาครับ"คำตอบของอัลฟ่าทำให้ผมแน่ใจมากยิ่งขึ้นว่าตัวเองย้อนเวลากลับมาเพราะช่วงที่ผมเปิดเทอมขึ้นปีสองคุณลุงไปทำงานต่างประเทศ แต่หลังจากกลับมาท่านจะเริ่มล้มป่วยและจากไปในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี
"วันเสาร์นี้เตรียมรายงานของบริษัทย้อนหลังสองปีให้ด้วย ส่วนเรื่องบ่อน..."ผมชะงักค้างไปเล็กน้อยเพราะหากเอ่ยถึงบ่อนคนที่ทำงานคุมที่นั่นตอนนี้คือพี่ชายของเฉินที่จะหนีการแต่งงานเพราะถูกคลุมถุงชนทำให้เฉินต้องรับหน้าที่หุ้นส่วนต่อจากพี่ชายหลังจากที่ผมเริ่มเข้าไปทำงานรับช่วงต่อจากคุณลุงได้สองเดือน
"นายจะเข้าบ่อนเหรอครับ? แต่นายใหญ่สั่งห้ามนี่ครับว่านายไม่ควรเข้าไป"อัลฟ่าตอบกลับด้วยความสงสัยทันที
"ว่าจะไปสักครั้ง อยากไปทักทายไอ้เฉินสักหน่อย"
"นายรู้จักกับคุณเฉินเหรอครับ?"
"...แค่รู้ว่ามันเป็นน้องชายของพี่หลงน่ะ"ผมตอบแบบอ้อมแอ้มเพราะช่วงเวลานี้ผมกับมันยังไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่การทำความรู้จักกับมันไว้ล่วงหน้าย่อมเป็นเรื่องที่ดีเพราะช่วงแรกที่พี่หลงหนีไปกับคนรักไอ้เฉินที่เข้ามารับช่วงต่อเจอศึกหนักมากจากสายตาบรรดาลูกน้องของพี่ชาย มันโดนสบประมาทว่าเป็นแค่เด็กไร้ความสามารถ แต่ใครจะรู้ว่ามันจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นเบอร์สองรองจากผมที่เป็นบอสใหญ่ต่อจากคุณลุงในช่วงเวลาแค่ปีครึ่งเท่านั้น
"แต่ผมได้ข่าวว่าคุณเฉินเองก็เรียนที่เดียวกันกับนายนะครับ ไปเจอกันที่มหาวิทยาลัยไม่ดีกว่าเหรอครับ"
"นั่นสิ..."ผมพยักหน้้าเห็นด้วย จริงสิผมลืมไปเลยว่าไอ้เฉินกับผมเรียนที่เดียวกัน น่าแปลกที่เราไม่เคยเจอกันที่นั่นเลยแต่กลับไปเจอที่บ่อนซะงั้น
"ถ้าอยากพาน้องมาเที่ยวก็มาได้นะ"ผมบอกกับอัลฟ่าในตอนที่เรากำลังก้าวขึ้นฝั่ง
ในอนาคตอัลฟ่าใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่เกาะตามคำสั่งของผมจนไม่มีเวลาให้น้องสาวเท่าที่ควร แม้กระทั่งตอนมันตายก็ยังไม่ได้บอกลาคนในครอบครัวตัวเองด้วยซ้ำ..
"ไอรีนค่อนข้างดื้อ ถ้าพามาที่เกาะคงวุ่นวายน่าดูครับ"อัลฟ่าส่ายหน้าปฏิเสธแต่ก็เผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเอ่ยถึงคนเป็นน้อง
"ความจริงมึงพาน้องมาอยู่ที่บ้านกูก็ได้นะ อย่างน้อยจะได้มีคนคอยดูแลเป็นหูเป็นตาให้"ผมเสนอทางเลือกให้อัลฟ่าเพราะกลัวว่าไอรีนจะถูกจับเป็นตัวประกันอย่างที่เคยเกิดขึ้นอีก
"ผมว่านายไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นะครับ"อัลฟ่าเอ่ยขึ้น ตั้งแต่ผมตื่นมาสีหน้าของมันมีแต่ความตกใจและสงสัยอยู่ตลอด
"กูแค่อยากตอบแทนมึงน่ะ.."ผมหันสายตาถนนด้านนอกเพราะรู้สึกแปลกเช่นกัน
ผมเพียงแค่อยากแก้ไขอดีตที่ตัวเองเคยเจอมา ผมไม่อยากให้อัลฟ่าตาย ผมอยากใช้ชีวิตอยู่กับน้ำแข็งโดยที่เธอมีความสุขและเต็มใจที่จะรักผม แต่พอคิดถึงช่วงเวลาในตอนนี้ถ้าเป็นตามที่อัลฟ่าบอกพรุ่งนี้ในกิจกรรมรับน้องจะเป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอกับเธอ ก่อนที่หลังจากนั้นช่วงกลางเทอมผมถึงจะเจอกับไอด้า ซึ่งหากเรียงไทม์ไลน์ตามนี้แสดงว่าผมจะเจอกับน้ำแข็งก่อนไอด้า นั่นทำให้ผมสามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ร้ายที่จะเปลี่ยนชีวิตน้ำแข็งไปตลอดกาลได้..
"งั้นผมขอกลับไปเยี่ยมน้องสาวนะครับ"อัลฟ่าบอกกับผมเมื่อขับรถมาจอดหน้าบ้าน
"อืมไปเถอะ"ผมพยักหน้าก่อนก้าวขาลงจากรถ
ผมยืนมองบ้านของตัวเองที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่คุ้นชินเท่าไหร่เพราะหลังจากที่ลุงตายผมก็ปลีกวิเวกอยู่ที่เกาะกับคอนโดซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้กลับมาอยู่บ้านเท่าไหร่ แถมที่นี่ยังมีแค่สองสามีภรรยาที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านและคนสวนคอยดูแลเท่านั้น หากไอรีนย้ายมาอยู่ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยก็ย่อมเป็นท่างเลือกที่ดีที่จะมีคนคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้