ทว่าก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร จึงได้แต่ปล่อยอาจารย์จิวไป ด้วยกลัวว่าอารมณ์ที่ดีของตนจะหดหายจึงคิดหาสิ่งบันเทิงใจมาชื่นชมเสียหน่อย
"พาข้าไปที่สวน ส่งคนไปตามคณะงิ้วมาด้วย"
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเสียงเบา ทว่าสาวใช้กลับนิ่งเงียบด้วยบัดนี้ดวงตาเหม่อลอยเอาแต่จับจ้องไปที่แผ่นหลังอาจารย์จิวผู้สง่างามและทรงภูมิความรู้ผู้นั้น ฮูหยินผู้เฒ่ากระแอมเสียงดังสาวใช้ทั้งสองจึงได้สติเรียบพยุงฮูหยินผู้เฒ่าไปตามคำสั่งทันใด
จวนลี่หมิงอ๋อง
หลายวันมานี้ลี่หมิงอ๋องเกิดอาการนอนไม่หลับเพราะมักจะฝันเห็นบางสิ่งบางอย่าง และเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีของเหนียวหนืดไหลออกมาจากจมูกกระทั่งจับดูจึงได้รู้ว่าที่แท้เป็นเลือดกำเดานั่นเอง
นี่เขากำเดาไหลได้อย่างไร หลังจากทบทวนความฝันก็พบว่าในฝันนั้นตนเองกำลังจับบางสิ่งบางอย่างอยู่ และอารมณ์ในยามนั้นก็ยากเกินจะบรรยายนัก
ในความฝันทุกอย่างช่างชัดเจนเหมือนว่าเขาไม่ได้ตาบอด มือของเขาในยามนี้กำลังสัมผัส ก้อนนุ่มยวบในมือสองก้อน กลิ่นหอมหวานของกายสาวที่ติดจมูกกระทั่งรู้สึกหงุดหงิดหัวใจ
ในยามดึกที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาก็พบว่าส่วนเนื้อตรงกลางร่างกายที่ไม่มีปฏิกิริยามานานบัดนี้กลับแข็งเป็นท่อนลำทั้งยังทำให้เขารู้สึกทรมานจนต้องลุกขึ้นมาฝึกกระบี่ออกกำลังกายกลางดึก
ตั้งแต่ได้สัมผัสสตรีผู้นั้นก็ทำให้เขาฝันเช่นนี้ทุกคืน ใบหน้าของลี่หมิงอ๋องหมองคล้ำสีหน้าที่แต่เดิมเย็นชาอยู่แล้วบัดนี้ยิ่งเย็นเยียบยิ่งกว่าหิมะที่ทับถมมานับพันปี เขานั่งตัวตรงในขณะที่ท่านหมอผู้หนึ่งกำลังทำการรักษา
"ท่านอ๋องอีกไม่นานแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
ลี่หมิงอ๋องกำมือแน่น
"ข้ายังไม่รู้สึกเลยสักนิด แช่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์มาเกือบสองปีรู้สึกร่างกายแข็งแรงยิ่งกว่าช้างสารทว่ากลับไม่มีทีท่าว่าจะมองเห็นได้ชัดเจน คำของท่านจะเป็นจริงหรือ"
หมอเทวดาเสิ่นจิ้งเอ่ยด้วยความมั่นใจ
"ท่านอ๋องโปรดพระทัยเย็นเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรับรองว่าหนึ่งเดือนให้หลังอาการตาบอดของท่านจะค่อย ๆ ดีขึ้น"
ลี่หมิงอ๋องยกมุมปากเล็กน้อย
"ขอบคุณท่านหมอ"
องครักษ์ซีห่าวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งหลายปีมานี้ลี่หมิงอ๋องทรมานราวกับตกนรกทั้งเป็น ทว่าบัดนี้ดูเหมือนว่าอาการของท่านอ๋องใกล้จะหายเป็นปกติแล้ว กระทั่งยามเช้าที่บ่าวเข้ามาปรนนิบัติก็มารายงานว่าแท่งหยกของท่านอ๋องมีอาการแข็งตัว ทำให้ซีห่าวรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าผู้ใด
เป็นเพราะผลจากยาพิษจึงทำให้ส่วนนั้นของลี่หมิงอ๋องใช้การไม่ได้ เดิมทีท่านอ๋องก็แทบไม่ได้แตะต้องสตรีใด ยังต้องพิษตกอยู่ในอาการนี้ข่าวลือหลุดออกจากจวนทำให้คนรู้กันทั่วทำให้ไม่มีแม่สื่อคนใดเหยียบเข้าประตูจวน
ซีห่าวรีบค้นหาตัวบ่าวผู้นั้นและสังหารทิ้งท่ามกลางสายตาของบ่าวทุกคนในจวน ตั้งแต่นั้นมาเรื่องในจวนอ๋องก็ไม่มีผู้ใดกล้าปากสว่างอีก ทว่าข่าวลือเร็วยิ่งกว่าลมพัด เพียงบ่าวผู้นั้นคนเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้คนทั้งแคว้นหนิงเทียนกระทั่งลูกเล็กเด็กแดงยังรู้เรื่องนี้
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวานใสของสตรีนางหนึ่ง
"พี่ใหญ่เจ้าคะ ลู่เอ๋อร์นำน้ำแกงตุ๋นโสมมาให้เจ้าค่ะ"
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับสตรีงดงามรูปร่างอรชรผู้หนึ่งที่ก้าวเข้ามา กระโปรงของนางถูกตัดเย็บเป็นชั้น ๆ เป็นสีขาวปนม่วงกลีบบัวยามเยื้องกรายดูงดงามพลิ้วไหว
ดวงหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างงดงามเย้ายวนตา ทว่าความพยายามของนางเพื่อคนผู้นั้นเขาย่อมไม่มองเห็น ถึงจะเป็นเช่นนั้นเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเขานางก็ยังคงความพยายามเอาไว้
การสนทนาหยุดลงทันใด บ่าวข้างกายของลี่หมิงเข้ามารับตะกร้าจากมือของเจียวลู่ไปให้ท่านหมอตรวจสอบ
"เสวยได้พ่ะย่ะค่ะ"
เจียวลู่ยิ้มแล้วเอ่ยว่า
"พี่ห่าวยังมีของท่านอีกชามนะเจ้าคะ"
องครักษ์ซีห่าวยิ้มเล็กน้อยผงกศีรษะเป็นการขอบคุณ
"ขอบคุณน้องลู่"
เพราะซีห่าวเองก็เห็นเจียวลู่เป็นน้องสาวเช่นกันกับลี่หมิง หญิงสาวสะคราญนางนี้เป็นญาติห่าง ๆ ของลี่ไท่เฟยมารดาของลี่หมิง ผู้ใดก็รู้ว่านางชื่นชมญาติผู้พี่อย่างลี่หมิงเพียงใด ด้วยความดื้อรั้นของเด็กสาวแม้ว่าลี่หมิงจะตาบอดแต่นางก็ยังคงยินดีรอเขา นางเชื่อมั่นในฝีมือของหมอเทวดาเสิ่นเจิ้นที่อย่างไรก็ต้องรักษาลี่หมิงจนหายเป็นปกติ
หมอเทวดาเสิ่นเจิ้นจัดการปิดตาให้ลี่หมิงอ๋องจนเรียบร้อย ลี่หมิงอ๋องลุกขึ้นโดยมีเจียวลู่ช่วยประคอง ทว่าเขากลับปัดมือของนางออก
"ข้าจัดการตัวเองได้ ไม่ต้องทำเหมือนข้าเป็นคนพิการ"
เจียวลู่หน้าเสียทันใด นางเม้มปากแล้วค่อย ๆ ขยับออกห่างเขา แต่กระนั้นก็ยังคงทำน้ำเสียงร่าเริง
"พี่ใหญ่ ท่านดื่มน้ำแกงบำรุงเลยดีหรือไม่ หากปล่อยให้เย็นจะไม่อร่อย"
ลี่หมิงอ๋องคิดจะเอ่ยว่าตนเองไม่หิว ทว่าซีห่าวกลับพูดตัดบทด้วยไม่อยากให้ท่านอ๋องทำให้เจียวลู่เสียใจ
"ท่านอ๋องกำลังร้อน ๆ เราดื่มกันดีกว่า"
กล่าวจบเขาก็ลากมือของลี่หมิงอ๋องไปนั่งบนเก้าอี้ เจียวลู่จึงสั่งให้บ่าวนำน้ำแกงมาให้นางแล้วจัดใส่ชามให้ท่านอ๋องและซีห่าวคนละชาม
"รสชาติเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"
"อืม"
ซีห่าวเช็ดปากตนเองแล้วรีบตอบ
"รสชาติดียิ่ง ขอบคุณน้องลู่"
เจียวลู่ส่งยิ้มงดงาม ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากสนทนา ทหารองครักษ์ผู้หนึ่งก็กระหืดกระหอบมารายงาน
"ทูลท่านอ๋องบัดนี้มีสตรีนางหนึ่งมาโวยวาย บอกถูกท่านอ๋องกระทำการต่ำช้าล่วงเกินแล้วไม่คิดรับผิดชอบที่หน้าจวนขอรับ"