“คุณแม่โทรมาค่ะ”
มีแจ้งเตือนสายเข้าดังขึ้นพร้อมกับหน้าจอที่แสดงชื่อมารดา ระหว่างที่ประทานพรกำลังขับรถโดยที่เจ้าของรถนั่งกดโทรศัพท์ของเธออยู่ข้างๆ
“รับสิ” เสียงทุ้มสั่งสีหน้าเรียบเฉย สายตายังสนใจอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ของคนตัวเล็กที่กำลังขับรถของเขาอยู่
“สวัสดีค่ะแม่ข้าว”
“อ้าว น้องเพลง อยู่กับฟ้าเหรอลูก”
“ค่ะ เมื่อเช้าพี่ฟ้าลากเพลงมาด้วยค่ะ”
“หมายความว่ายังไงจ๊ะ”
“เมื่อคืนผมไปนอนที่คอนโดกับเพลงครับ”
“พี่ฟ้า!!!...จะบ้าเหรอ เดี๋ยวคุณแม่เข้าใจผิดเพลงโกรธพี่จริงนะ”
“เข้าใจผิดอะไร ก็เรื่องจริง”
“โอ๊ย…เพลงอยากจะบ้า”
“ก็จริงนี้ หลักฐานก็มีให้เห็น”
“หลักฐานอะไร เกิดอะไรขึ้น ฟ้า บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ ฟ้าทำอะไรน้อง”
“ก็แค่…”
“พี่ฟ้า เงียบไปเลย!!!”
“เอาล่ะ ถ้างั้นวันนี้ทั้งสองคน กลับบ้านด้วยนะจ๊ะ ไปที่บ้านนู้นนะ แม่จะไปรอที่บ้าน อย่าคิดจะหนีล่ะ ทั้งคู่เลย แค่นี้นะจ๊ะ”
ฟางข้าวสั่งแกมบังคับ ก่อนจะวางสายไป ประทานพรหน้าเหวอ เธอไปไม่ได้เด็ดขาด เธอจะไปบ้านได้ยังไง ในเมื่อคนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆทำรอยไว้เต็มคอเธอ ถ้าผู้ใหญ่เห็นต้องเข้าใจผิดแน่
“ทำไมพูดแบบนั้นคะ พี่ก็รู้ว่าเพลงกลับบ้านตอนนี้ไม่ได้”
“ทำไมกลับไม่ได้”
“ก็พี่ทำรอยเต็มคอเต็มหน้าอกเพลงแบบนี้ เพลงจะกลับไปได้ยังไง…” ประทานพรโอดครวญเสียงแผ่ว
“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก อาจจะชินแล้วด้วยมั้ง”
“จะบ้าเหรอคะ แม่จะชินได้ยังไง แม่ไม่เคยเห็นนะคะ”
“งั้นเดี๋ยวแม่ก็จะได้เห็นบ่อยๆ”
“ห๊ะ…”
การเถียงกันจบลง เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในที่จอดรถของร้านอาหารที่ประทานพรอยากทาน พร้อมกับร่างเล็กที่ลงจากรถด้วยสีหน้าหงุดหงิด เดินนำหน้าเข้าร้านไปโดยไม่รอร่างสูงที่เดินหัวเราะตามหลัง
“สั่งเผื่อด้วย”
ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะที่หญิงสาวเลือก วางโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ของตัวเองไว้พร้อมกับบอกหญิงสาว ก่อนจะเดินออกไปยังบริเวณสูบบุหรี่ที่ทางร้านจัดแยกไว้ให้ จนพักใหญ่ถึงได้กลับเข้ามาที่โต๊ะที่หญิงสาวนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่
เพียงไม่นานอาหารที่ประทานพรสั่งก็มาเสิร์ฟ ทั้งนภพงศ์และประทานพรเงียบเสียงลง ทานมื้อเที่ยงกันด้วยความเร็ว เมื่อเสียเวลาไปกับการเถียงกันอยู่นานจนใกล้จะเลยเวลามื้อเที่ยงเต็มที
“เพลงไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ขากลับพี่ขับนะ”
“อืม”
หลังคนตัวเล็กแยกไป นภพงศ์ก็เดินมาที่รถแล้วขึ้นไปประจำตำแหน่งคนขับ หยิบโทรศัพท์มากดต่อสายออกหาใครบางคน สั่งงานเพียงไม่กี่นาทีก็กดวางสายไป และกดลบข้อมูลออกจากโทรศัพท์ เป็นจังหวะเดียวกับที่คนตัวเล็กกลับมาที่รถพอดี
เมื่อหญิงสาวขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว รถก็เคลื่อนออกด้วยความเร็วที่ไม่ต่างกับตอนหญิงสาวขับเลยแม้แต่น้อย นภพงศ์ตรงกลับเข้าบริษัทเพื่อรีบเคลียร์งานต่อให้เสร็จ
“เพลงไปนอนนะ”
“อืม”
ประทานพรเปิดประตูเข้าไปในห้องพักผ่อน นอนเล่นโทรศัพท์อยู่สักพักใหญ่ก็วางโทรศัพท์ลงแล้วหลับไป
“เพลง ตื่นได้แล้ว” นภพงศ์เขย่าปลุกคนตัวเล็กเบาๆ หลังจากที่เขาทำงานเสร็จ
“งานเสร็จแล้วเหรอคะ”
“อืม เดี๋ยวแวะไปผับก่อน แล้วค่อยกลับบ้าน”
“ค่ะ” ประทานพรยันตัวขึ้นนั่งบิดกายไปมา ก่อนจะลุกเดินตามนภพงศ์ไป
“จะขึ้นไปด้วยหรือจะไปรอที่บาร์”
“ไปบาร์อยู่แล้วค่ะ”
ใบหน้าคมพยักหน้าเล็กน้อย มองประทานพรเดินแยกไปนั่งที่หน้าบาร์ สายตามองสบตากับบาเทนเดอร์หนุ่ม เมื่อเห็นลูกน้องพยักหน้ารับก็เดินขึ้นบันไดไป
“หายไปหลายวันเลยนะครับ”
“ไปทะเลกับที่บ้านมาค่ะ เหมือนเดิมนะคะ”
“ครับผม”
เมื่อบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อประจำผับยื่นเครื่องดื่มมาวางให้ตรงหน้า มือเล็กก็หยิบขึ้นไปจิบอย่างผ่อนคลาย
“พี่บาส เพลงถามอะไรหน่อยสิ”
“ครับ? มีอะไรเหรอครับ”
“คือ…”
“เจอกันอีกแล้วนะคะ”
“คะ อ๋อ ค่ะ…”
ประทานพรชะงักไป เมื่อมีเสียงดังผู้หญิงดังขึ้นข้างๆตัว พร้อมกับร่างของผู้หญิงสูงวัยกว่าในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสดหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ทำให้ประทานพรต้องหันไปมองอย่างเสียไม่ได้
“พี่ชื่อลดาค่ะ เราเจอกันเมื่อตอนเที่ยง”
“ประทานพรค่ะ”
“พี่ขอถามตรงๆเลยนะคะ น้องเป็นคู่หมั้นของคุณนภพงศ์จริงเหรอคะ”
“ถ้าพี่ฟ้าบอกว่าจริงก็คือจริงค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“ไม่เห็นเหมาะสมกันเลยนะคะ น้องยังเด็กอยู่เลย”
“ก็ไม่ทราบสิคะ หมั้นกันตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ แถมพี่ฟ้าก็ยังหวงมากด้วยนะคะ ตามติดเพลงแทบจะตลอด”
“แหม มั่นใจจังเลยนะคะ”
“ก็ไม่ได้มั่นใจอะไรหรอกค่ะ พอดีดำเนินชีวิตกันมาแบบนี้ คนอื่นเห็นกันจนชินตาแล้วล่ะค่ะ จริงไหมคะพี่บาส” ใบหน้าหวานหันไปส่งยิ้มเป็นสัญญาณให้กับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม
“ครับ คุณฟ้าหวงคุณเพลงมาก ลูกน้องทุกคนทั้งที่โรงแรมและที่นี่รู้กันดีครับ” บาสตอบกลับราวกับคุยเล่นกับประทานพร แต่ตั้งใจบอกกล่าวผู้หญิงอีกคนที่ตั้งใจเข้ามาหาเรื่องว่าที่นายหญิงของที่นี่
“งั้นเหรอคะ ของรักของหวงแบบนี้ น่าแย่งจังเลยค่ะ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มกับประทานพรแอบสบตากันเล็กน้อย เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวคนนี้พูด
“ถ้าคิดว่าแย่งได้ก็ลองดูสิคะ เพลงไม่ห้ามนะคะ แต่คิดว่าผู้ชายเขาคงไม่ไป พี่ฟ้ามองออกค่ะ ว่าชิ้นไหนเพชร ชิ้นไหนกรวด”
“ปากดีจังเลยนะคะ น่าตบให้เลือดกบปากดีจัง”
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ทำเลยค่ะ ลองมองไปรอบๆตัวนะคะ ว่าตอนนี้มีบอดี้การ์ดอยู่แถวนี้กี่คน” ประทานพรใช้สายตาในการบอกคนตรงหน้า เธอมองไปยังบอดี้การ์ดที่คอยอยู่ใกล้ๆตัวเธอ
“แหม ถ้าตัวคนเดียวคงจะเอาตัวไม่รอดนะคะ ถึงต้องมีคนคอยตามดูแลแบบนี้”
“ใครว่าล่ะคะ เพลงมีใบประกาศนักแม่นปืนนะคะ แต่ก็อย่างที่บอกแหละค่ะว่าพี่ฟ้าหวง เลยส่งคนคอยตามดูแล”
ประทานพรยิ้มหวานให้คนที่หาเรื่องเธอเหมือนคนไม่สนใจ แต่ถ้าเธอได้หมดความอดทนเมื่อไหร่ เธอสามารถชักปืนยิงได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที เธอจึงโดนสั่งห้ามพกปืน เรื่องนี้ทุกคนที่บ้านเธอและบ้านของนภพงศ์รู้ดี ทุกคนจึงไม่ค่อยเป็นห่วงหญิงสาวเท่าไหร่ กลัวจะไปยิงใครตายเสียมากกว่า
บาสมองหญิงสาวสองคนเถียงกันด้วยวาจา แต่ใบหน้ายิ้มให้กันอย่างนึกขยาด พนักงานที่นี่รู้ฤทธิ์ประทานพรดี รวมถึงรู้ฤทธิ์ของนภพงศ์ดีเช่นกัน ว่าเขาหวงหญิงสาวขนาดไหน แม้แต่รอยข่วนเขายังแทบจะตามฆ่าคนทำเสียด้วยซ้ำ
เมื่อการสนทนาจบลง บาร์เทนเดอร์หนุ่มแอบกดจบการอัดเสียง และกดส่งไปให้เจ้านายหนุ่มที่ตอนนี้เขาเดาว่าน่าจะกำลังมองหน้าจอที่แสดงภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่
แล้วก็เป็นอย่างที่ชายหนุ่มคิด มือใหญ่ของเจ้าของผับกดเปิดคลิปฟังสีหน้าไม่พอใจ แววตาคมดุตอนนี้ราวกับจะพญามัจจุราช ที่พร้อมจะพังทุกอย่างให้ราบ เมื่อได้ฟังสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดกับเจ้าตัวเล็กของเขา
“คุณภพ เข้ามาพบผมที” นภพงศ์กดโทรสั่งให้ลูกน้องที่ทำหน้าที่ผู้จัดการผับรวมทั้งเป็นคนสนิทให้เข้ามาพบน้ำเสียงเคร่งเครียด
ก๊อก ก๊อก
“ครับนาย”
“สั่งคนไปคอยดูแลยัยเพลง” สายตาคมมองหน้าจอเขม็ง เจนภพมองตาม เมื่อรู้คำตอบ ก็ออกไปทำตามคำสั่ง
ชายหนุ่มนั่งเคลียร์เอกสารต่อเพียงไม่ถึงสิบนาทีก็เก็บรวบแฟ้มเอกสารวางไว้มุมโต๊ะ แล้วเดินออกจากห้องตรงไปยังหน้าบาร์ ที่หญิงสาวตัวเล็กนั่งอยู่โดยมีบาร์เทนเดอร์หนุ่มคอยเป็นหูเป็นตาให้เขา
วงแขนแกร่งโอบเอวคอดเล็กให้แผ่นหลังแนบกับอกกว้าง โน้มใบหน้าลงกดริมฝีปากที่ลำคอระหงแผ่วเบา
“มาแล้วเหรอคะ”
“อืม กลับเถอะ คุณแม่รออยู่”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานให้กับคนตัวสูงที่ยกตัวเธอลงจากเก้าอี้ พร้อมกับยกแขนขึ้นคล้องลำคอหนา โน้มใบหน้าคมคายให้เข้ามาใกล้ ริมฝีปากเล็กแนบไปที่ปากหยักเบาๆ
“ไปก่อนนะคะ อย่าอิจฉาจนฆ่าตัวตายซะก่อนล่ะ”
นภพงศ์ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ โอบเอวเล็กเดินออกไป หางตาปรายมองลูกน้อง พยักหน้าเบาๆ
“ก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ”
“เพลงไม่ได้เริ่มก่อนซะหน่อย”
“อืม ทีหลังอย่าบอกเรื่องของตัวเองให้ใครรู้”
“ยังไงคะ”
“ถ้าเรามีศัตรู แต่เราบอกให้ศัตรูเรารู้ว่าในมือเรามีระเบิด คิดว่าพวกมันจะกลัว หรือพวกมันจะหาทางฆ่าเราด้วยวิธีอื่น”
“เข้าใจแล้วค่ะ สงสัยเพลงต้องหัดอย่างอื่นเพิ่มแล้วล่ะค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก แต่ถ้าอยากทำก็ตามใจ”
“พี่ฟ้าพูดจาเหมือนพวกมาเฟียเลยนะคะ” ประทานพรพูดแซวคนตัวสูงกว่า พร้อมกับก้าวขึ้นไปนั่งข้างคนขับ
“แล้วถ้าใช่ล่ะ”
“ก็ดีสิคะ ดุๆเถื่อนๆ ซาดิสม์ด้วยนะคะ เพลงชอบ”
“หืม มาโซคิสเหรอเรา”
“ไม่ใช่ซะหน่อย”
ประทานพรหน้าแดงก่ำที่ชายหนุ่มแซวเธอ นภพงศ์มองใบหน้าหวานนิ่ง สายตาพึงพอใจ ก่อนจะหันไปตั้งสมาธิ ขับรถตรงกลับบ้านของหญิงสาว ที่ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันรอพวกเขาอยู่
“แวะที่ไหนไหม”
“กลับเลยค่ะ พี่ฟ้าคะ…”
“…..”
“ไม่มีอะไรค่ะ” ฟ้าครามมองคนข้างๆแวบหนึ่ง ราวกับว่าเธอมีอะไรจะบอกกับเขา แต่เธอก็เงียบไป
“มีอะไร”
“พี่ฟ้าส่งคนคอยตามดูแลเพลงเหรอคะ”
“อืม รู้ด้วยเหรอ”
“ค่ะ คนเดียวใช่ไหมคะ”
“2 คน”
“พี่แมท กับอีกคน…ใครคะ”
“คนใกล้ตัวเธอ” นภพงศ์บอกเธอแค่นั้นแล้วเงียบไป ปล่อยให้หญิงสาวครุ่นคิดว่าใครกัน ที่เป็นคนคอยตามดูแลเธอ