“บัวรักคุณค่ะภาม” ใบบัวแสร้งปิดหน้าสะอื้น
หัวคิ้วภาคย่นเข้าหากัน เขาแน่ใจว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือมารยาหญิงแบบหนึ่ง ซึ่งตนเองเคยเจอมาก่อน ภาคกดยิ้มมุมปาก มองหน้าพี่ชาย สลับกับการหรี่เปลือกตามองว่าที่พี่สะใภ้
“ไว้ผมจะหาวันเหมาะๆ พาคุณไปแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ผมรู้จักนะบัว” ใบบัวซ่อนรอยยิ้มใต้สีหน้าสลดเศร้า แต่ก็ไม่สามารถปิดบังสายตาเหยี่ยวของภาคได้
เสียงถอนใจแรงๆ ดึงสติของคนทั้งคู่ไว้ได้ทัน
ไม่อย่างนั้นภามคงถลำลึกลงไปในเวทมนตน์ที่ใบบัวสะกดใจเขาได้สำเร็จอีกครั้ง
“พี่กับผมควรกลับก่อนดีไหมครับ ท่าทางคุณบัวมีเรื่องยุ่งๆ ให้สะสางอีกเยอะ” ภาคเปรยลอยๆ และภามก็เห็นด้วย เขาอยากมีเวลาสำหรับการทบทวนอีกสักครั้ง เขาทิ้งใบบัวไม่ได้ก็จริง แต่เขาก็อยากขอโทษใบข้าวให้เป็นเรื่องเป็นราว
เขาทำผิดกับผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกันไม่ได้
“พี่กับผู้หญิงคนนั้นทำเรื่องไม่ดีมาด้วยกันที่นู้นใช่ไหมครับ?” เป็นคำถามจี้ใจที่ภามเก็บอาการไม่อยู่ มันเหมือนหนามแหลมๆ ทิ่มแทงหัวใจเขาจนเลือดไหลนอง
ภามถอนใจแรงๆ เอนตัวพิงพนักเบาะและหลุบเปลือกตาลง
“มันเป็นเรื่องแย่ๆ ที่ทำให้พี่กับบัวผูกติดกันไว้” เสียงภามอ่อนล้าและเต็มไปด้วยความเศร้า
“พี่อย่าบอกนะว่าเคยทำแม่คุณบัวอะไรนั่นท้อง”
ภามลืมตาโพลง แค่เกริ่นนิดหน่อย ทำไมภาคถึงมองทะลุถึงปัญหาระหว่างเขากับใบบัวได้
“ทำไมแกรู้วะภาค?” ภามย้อนถามเสียงแห้ง
ภาคกดยิ้มมุมปาก “แค่ลูกไม้ตื้นๆ ของผู้หญิงที่ตั้งใจจับพี่ไง พี่แน่ใจนะว่าหล่อนท้องจริงๆ”
“อย่าพูดถึงผู้หญิงในแง่ลบแบบนั้นสิภาค ต่อให้คุณบัวจ้องจะจับพี่ เธอคงไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องท้องหรอก อนาคตของเธอไม่ใช่เรื่องที่ควรเอามาล้อเล่น พี่ผิดเองแหละที่ละเลยเรื่องสำคัญ”
ภาคส่ายหน้า เขาไม่ได้คิดไปเอง ท่าทางมีเลศนัยของใบบัวช่วยเขายืนยันอีกทาง “แล้ว ‘เด็ก’ อยู่ที่ไหนละ?”
ภามยกมือปิดหน้า ไหล่ห่องุ้มเข้าหากัน ก่อนเสียงแหบแห้งจะหลุดออกมาจากปากของเขา “ไม่อยู่แล้ว” เป็นความผิดเดียวที่เขาไม่เคยยกโทษให้ตัวเอง เขาทำให้ใบบัวมีรอยราคี แถมซ้ำเขาอีกนั่นแหละที่พรากดวงใจของเธอออกไปจากร่างกาย
“เหอะ!” ภาคส่ายหน้า เวทนาความไร้เดียงสาของพี่ชายเหลือเกิน ภามเป็นคนเรียนเก่ง เขาทุ่มเททุกเวลานาทีอยู่กับตำราเรียน ตอนที่เขาเขว้เพราะมีความรักก็ไม่หนักเท่าตอนนี้
ภาคแน่ใจ ผู้หญิงลักษณะใบบัวไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองท้องอย่างแน่นอน แววตาของหล่อนไม่ได้ไร้เดียงสาสักหน่อย สิ่งที่ภามเห็นเป็นเรื่องลวงทั้งนั้น
เขาปล่อยให้พี่ชายหลงกลผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้ เขาจะอาสาขอเป็นคนกระชากหน้ากากของพวกหล่อนออกให้เอง
“คุณแม๊!!”
“เบาๆ สิยัยบัว เสียงดังทำไม เดี๋ยวไอ้ห้าวมันก็ย้อนกลับมาอีกหรอก” ส่งศรีกระซิบปราม แล้วก็ฉวยขวดน้ำเย็นมาดื่มแก้กระหาย
“บัวไม่ทนแล้วนะคะคุณแม่ คุณแม่ต้องจัดการอะไรสักอย่าง ก่อนที่คุณภามจะสลัดบัวทิ้ง เพราะพฤติกรรมของคุณแม่”
ส่งศรีจิปาก กระแทกขวดน้ำเย็นลงบนโต๊ะ “แกนั่นแหละ ทำไมปล่อยให้ผู้ชายของแกมาขัดขวางแผนการของแม่”
ใบบัวพ่นลมหายใจผ่านช่องจมูกแรงๆ “บัวจะไปรู้ได้ยังไงคะว่าคุณภามจะมา”
“เออนั่นแหละ แผนการป่นปี้หมด จากนี้ไปคงใช้แผนเดิมไม่ได้แล้ว นังข้าวคงระวังตัวจัดจนเข้าไม่ถึงแล้วแหละ” ส่งศรีบ่นพึมพำ กว่าจะแก้ตัวจากเสี่ยห้าวได้ ต้องชักแม่น้ำมาถึงห้าสาย
“นังแก่แย้มก็ตัวดี มันฝากบัวมาทวงสตางค์คุณแม่ด้วยค่ะ”
ส่งศรีกัดฟันกรอดๆ “นังแก่นั่น ชักจะอวดดีใหญ่แล้ว”
“บัวถามตรงๆ เถอะค่ะ ตอนนี้คุณแม่เป็นหนี้เท่าไหร่กันแน่คะ” ใบบัวถามตรงๆ
“แกจะใช้คืนแทนฉันหรือไงละ!!” ส่งศรีถามกลับ
“ถ้าบัวได้เป็นสะใภ้บ้านวิโรจน์เทียมสกุล หนี้ที่แม่มีก็แค่เศษเงินก้นถุงเท่านั้นแหละค่ะ”
“ว่าที่ผัวแกรวยขนาดนั้นเลยเหรอยัยบัว” ส่งศรีถามกลับเสียงหลง
“แม่คิดว่า คนอย่างบัวจะมองผู้ชายที่มีแค่ตัวเหรอไงคะ?” ใบบัวเชิดหน้าตอบ เธอแอบมองภามเกือบสองอาทิตย์ ก่อนจะตัดสินใจจับเขาให้อยู่มือ เธอแสร้งเดินสวนกับเขาในมหาวิทยาลัยแห่งนั้น ทั้งที่เธอไม่มีสิทธิแม้แต่จะเข้าเรียนที่นั่น เพราะคะแนนสอบไม่ถึงเกณฑ์ เธอใช้เวลากว่าสามอาทิตย์ถึงได้เข้าถึงตัวภาม กว่าจะสนิทกับเขาได้ ใช้เวลาเกือบสามเดือน จากนั้นก็เป็นไปตามแผน เธอล่อลวงภามทุกวิธี ในที่สุดวันหนึ่งภามก็ตกบ่วงของเธอเข้าเต็มตัว
มันเป็นงานฉลองเล็กๆ หลังสอบเสร็จ ผลสอบของภามเป็นไปตามคาด เขาเองก็ระวังตัวจัด แต่ก็ยังไม่ทันความเจ้าเล่ห์ของเธอ
ทันทีที่ตื่นพร้อมกันบนเตียงในโรงแรมแห่งหนึ่ง สีหน้าภามเกือบทำให้ใบบัวกลั้นหัวเราะไม่อยู่
เธอแสร้งฟูมฟายและพยายามหนี ภามที่เป็นสุภาพบุรุษเลยออกตัวรับผิดชอบ ใบบัวตีบทแตกจนภามจับไม่ได้ เธอไม่ใช่สาวบริสุทธ์ เขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเธอ นั่นเป็นที่มาที่ทำให้เธอกับภามผูกติดกัน เธอหลบเลี่ยงภามเรื่องเรียน และเขาเองก็ไม่ใส่ใจจริงจัง จนวันหนึ่งเธอก็หาวิธีที่จะบอกภามตรงๆ ได้
ใบบัวแสร้งทะเลาะกับภามใหญ่โต เรื่องที่เธอโกหกเขาเกี่ยวกับเรื่องเรียน ความจริงใบบัวมาเพื่อเรียนภาษา หากเธอตั้งใจเรียนเธออาจจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ได้ในวันหนึ่ง แต่เพราะความหัวสมองทึบของเธอ วันหนึ่งใบบัวก็ล้มเลิกความตั้งใจ เธอกินเที่ยว สนุกตามประสา จนกระทั่งมาเจอภามเข้า
แผนของเธอสำเร็จเหมือนที่ตั้งใจไว้ เธอล่อภามมาใกล้บันได และเสแสร้งว่าเธอตกบันไดเพราะเขา จนต้องสูญเสีย ‘ลูก’ ผ่านอุบัติเหตุครั้งนั้น เลือดปลอมสมจริงจนภามจับไม่ได้ เธอไม่ยอมไปหาหมอ แกล้งนอนซมบนเตียงเพื่อความสมจริง
จากนั้นภามก็ลากเธอไปอยู่กับเขาในอพาร์ทเม้นท์ที่เขาพัก ชีวิตคู่ของเธอเลยเริ่มขึ้นหลังจากพักรักษาตัวจนหายดี เธอเหมือนเจอขุมทรัพย์ ใช้จ่ายได้แบบไม่ต้องคิดถึงรายจ่ายตอนสิ้นเดือน ไม่ต้องห่วงว่ามารดาจะส่งเงินมาให้ไม่ทันใช้ เธอแสร้งทำตัวเป็นผู้หญิงเรียบร้อยต่อหน้าภาม และคนที่มุเรียนอย่างหนักแบบภาม ไม่มีเวลามาจับผิดเธอหรอก
ใบบัวไม่ได้อยากกลับมาที่แผ่นดินเกิดเลย เธอชอบที่นั่น ชอบความเจริญและความสะดวกสบาย แต่เมื่อฝืนความต้องการของภามไม่ได้ ใบบัวก็จำใจกลับมาพร้อมกับเขา ภามมีใบปริญญามาฝากคนที่บ้าน เป็นใบเบิกทางให้กับตัวเขาเอง
ส่วนใบบัวไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกลับมาเลย เธอมีแค่คำคุยโวเรื่องการเรียน กับอนาคตที่ไม่มีทางกลับไปยากจนอีก
“นอกจากบัว แม่ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว”
“บัวบอกไว้ก่อนนะคะแม่ หากแม่ทำแผนบัวพัง แม่กับบัวได้ขาดกันแน่” ใบบัวบอกมารดาเสียงกระด้าง หากมารดาทำให้อนาคตที่สวยหรูของเธอทลายลงมา เธอสัญญาจะไม่นับญาติกับมารดาอีก
“ยัยบัว นี่แม่นะ” ส่งศรีครางเสียงแหบ
“เพราะแม่เป็นแม่บัวไง บัวถึงยอมกลับมาเหยียบที่นี่ ไม่อย่างนั้นบัวตามคุณภามไปที่บ้านของเขาแล้วค่ะ”
“บัว!”
“แม่รีบเคลียร์ตัวเองเถอะ เร็วๆ นี้บัวจะไปเจอคุณพ่อคุณแม่ของคุณภามเขา บัวไม่อยากขายหน้าเหมือนวันนี้อีกแล้วนะคะ”
“แม่จะไปหาเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นที่ไหนได้ละ”
ใบบัวตวัดตามอง “ตอนที่แม่ไปยืมเขา แม่ได้คิดถึงตอนที่ต้องคืนหรือเปล่าละคะ”
“แม่...” ส่งศรีเม้มปาก ลำคอแห้งผากขึ้นมาดื้อๆ
“ตั้งแต่กลับมา ไม่มีสักเรื่องให้บัวสบายใจเลย บัวถึงเกลียดที่นี่ไงละคะ” ใบบัวพูดเสียงแข็งใส่หน้าส่งศรี แล้วก็กระแทกส้นเท้าเดินกลับขึ้นไปบนห้อง ส่งศรีมองไปรอบๆ ตัวอะไรทำให้เธอเดินหลงทางแบบนี้ได้นะ ความเหงาหลังจากสามีตาย หรือเพราะเธอโง่เอง