EP.7 อัศวิน
“แล้วจะให้ฉันเรียกเธอว่าอะไรล่ะ”
“โรสก็แล้วกันค่ะ ฉันชอบกุหลาบ”
“ได้สิโรส ถึงเวลาที่เราต้องลงจากรถแล้ว” อัศวินส่งยิ้มให้เธอแล้วก้าวลงจากรถ โดยส่งมือช่วยประคองหญิงสาว
ทว่าเธอกลับไม่รับน้ำใจของเขาเพราะไม่อยากถูกเนื้อต้องตัวเขา แต่รองเท้าส้นสูงปรี๊ดกอปรกับหญิงสาวพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้จังหวะที่เธอก้าวลงจากรถเท้าพลิกแล้วล้มลง โชคดีที่อัศวินคว้าร่างบางเอาไว้ได้ทัน
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอโทษด้วยความตกใจ แต่เมื่อระลึกได้ว่าเธออยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของอีกฝ่าย เธอก็ตกใจรีบผลักเขาอย่างแรง
“ผมช่วยคุณไม่ให้ล้มแต่คุณกลับผลักผม”
“เอ่อฉันขอโทษค่ะ” จอมขวัญสั่นไปหมดทั้งตัวเมื่อต้องใกล้ชิดถึงขั้นกอดรัดกับผู้ชายแปลกหน้า แต่มันเป็นความกลัวที่ต่างไปจากทุกครั้ง เพราะมันไม่มีความรังเกียจสะอิดสะเอียนอยู่ในความกลัวเลยแม้แต่น้อย
อัศวินเห็นหญิงสาวตัวสั่นด้วยความตกใจจริงๆ เขาจึงไม่ได้ถือสา
“คุณจอมเกล้าเป็นอย่างไรบ้างครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” พลเกียรติปราดเข้ามาซักถามด้วยความเป็นห่วง แอบอมยิ้มที่เห็นเจ้านายกับว่าที่ภรรยาสาวพูดคุยกะหนุงกะหนิงอยู่ในรถเป็นนานสองนาน แม้ตอนแรกเขาจะไม่เห็นด้วยกับการเลือกผู้หญิงใจแตกมาเป็นภรรยา แต่เมื่อได้พบตัวจริงของเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าจอมเกล้าไม่ได้ดูร้าย แรง เหวี่ยงอย่างในประวัติที่จ้างคนไปสืบเลยสักนิด
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณพลเกียรติกรุณาเรียกฉันว่าโรสนะคะ อย่าเรียกฉันว่าจอมเกล้าเลยค่ะ”
“ครับคุณโรส” พลเกียรติโค้งรับอย่างนอบน้อมก่อนจะหันไปหาเจ้านายหนุ่ม “เชิญคุณอัศวินเข้าไปนั่งพักในเลานจ์ก่อนเถอะครับ เดี๋ยวถึงเวลาขึ้นเครื่องผมจะมาเรียนให้ทราบ”
“คุณอัศวินเหรอคะ!” จอมขวัญถึงกับตะลึงงันเมื่อได้ยินพลเกียรติเรียกผู้ชายตรงหน้าว่าคุณอัศวิน นี่แสดงว่าเธอเซ่อจนไม่รู้ว่าผู้ชายที่นั่งข้างๆ เธอคือว่าที่สามี เท่านั้นยังไม่พอเธอยังพูดเรื่องความรุนแรง และการตอบสนองบนเตียงกับเขาโดยไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร
อัฐ หรือ อัศวิน เป็นคนเดียวกัน!
หญิงสาวตกใจจนแทบล้มทั้งยืน รู้สึกวิงเวียนมองชายตรงหน้าอย่างเลือนราง ก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบไป
“โรส!”
“โรส...เธอเป็นยังไงบ้าง” อัศวินเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวฟื้นคืนสติ ทว่าทันทีที่เธอลืมตาเห็นเขา ใบหน้าของเธอที่ทำท่าว่าจะดีขึ้นกลับซีดเผือดราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน
“ฉันขอโทษค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอโทษด้วยความสำนึกผิด ก็ใครจะคิดเล่าว่า ‘คุณอัศวิน’ จะมีหน้าตาหล่อเหลาราวกับหลุดออกมาจากหน้าปกนิตยสาร เธอเองก็จินตนาการถึงอัศวินไม่ต่างจากน้องสาว คิดว่าเขาคงเป็นชายแก่ที่มีความบกพร่องอะไรสักอย่างจึงไม่อาจหาภรรยาเองได้ จำต้องมาบีบบังคับให้ผู้หญิงที่ไม่รู้จักมักคุ้นแต่งงานด้วย เหตุผลเพียงเพราะเขาอยากมีทายาทสืบสกุล
“ฉันไม่ถือสาหรอก ฉันเองต่างหากที่ไม่บอกเธอว่าฉันเป็นใคร ปล่อยให้เธอเข้าใจผิดว่าฉันเป็นลูกน้องของตัวเอง ว่าแต่อาการเป็นยังไงบ้าง ถ้าไม่ดีขึ้นฉันจะพาไปหาหมอ” อัศวินยังคงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะถึงอย่างไรเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเขา
“ดีขึ้นแล้วค่ะ เป็นเพราะเมื่อคืนฉันไม่ได้นอนทั้งคืน วันนี้ก็เลยหน้ามืดจนเป็นลม” จอมขวัญเพิ่งจะนึกออกว่าเธอยังไม่ได้รับประทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า เพราะมัวกังวลกับการปลอมตัวเป็นจอมเกล้า แต่ดูเอาเถิด...แม้จะแต่งตัวให้รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนจอมเกล้ามากสักเพียงใด แต่เนื้อในก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลง เธอยังคงเปิ่นและเซ่อซ่าได้อย่างน่าอาย
“คงเที่ยวดึกล่ะสิ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างไม่สบอารมณ์นัก
“คะ?” หญิงสาวกำลังจะทวนถามด้วยไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ทว่าจังหวะนั้นพลเกียรติก็ปราดเข้ามาบอกว่าได้เวลาขึ้นเครื่องบินแล้ว เธอจึงไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูดอีกต่อไป
เจ้าของดวงตาคมปลาบเหลือบมองคนตัวเล็กข้างกายที่กำลังจัดการกับอาหารบนเครื่องบินด้วยท่าทางหิวโหย ‘สงสัยจะหิวมาก นี่เที่ยวจนเช้าไม่กินข้าวกินปลาเลยหรือไงนะ’ ชายหนุ่มลอบมองอย่างสำรวจ ทว่าเนื้อตัวของเธอกลับไม่มีกลิ่นสุราเลยแม้แต่น้อย จะว่าเธอฉีดน้ำหอมกลบก็ไม่น่าจะใช่ เพราะตอนที่เขาช่วยเธอเอาไว้ก่อนจะล้มลง เนื้อตัวของเธอหอมอ่อนๆ เหมือนกลิ่นแป้งเด็กแทบไม่มีกลิ่นน้ำหอมฉุนอย่างผู้หญิงทั่วไป
เที่ยวยังไงไม่ดื่มเหล้า หรือว่า...เธอจะเล่นยา!
เมื่อเกิดความสงสัยเขาก็ตั้งใจว่าจะต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา ถ้าเธอแอบเสพยาเสพติดระหว่างที่อยู่กับเขา เขาคงต้องจับเธอส่งเข้าสถานบำบัด หรือไม่ก็ส่งคืนให้บิดาของเธอแล้วจึงหาผู้หญิงคนใหม่มาเป็นภรรยาและให้กำเนิดทายาทของเขาต่อไป
“เอานี่มั้ย” ชายหนุ่มส่งครัวซองค์ให้หญิงสาว เมื่อเห็นว่าเธอจัดการอาหารในถาดจนเกลี้ยง ส่งสายตาละห้อยมองมายังอาหารของเขาหลายครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอปฏิเสธทั้งที่ยังไม่อิ่มท้อง แต่ถ้ารับประทานเยอะก็กลัวเขาจะหาว่าเธอตะกละ
“ฉันไม่หิว ถ้าเธอหิวก็กินเถอะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างก่อนจะรับครัวซองค์มาด้วยท่าทางดีใจ ไม่ถึงสองนาทีครัวซองค์ขนาดใหญ่ก็หายวับไปในพริบตา
ปกติเขาเห็นแต่ผู้หญิงรับประทานอาหารครั้งละน้อยๆ เพราะกลัวจะอ้วน รูปร่างไม่สวย แต่ดูเหมือนว่าที่ภรรยาของเขาจะไม่คิดเช่นนั้น เธอรับประทานเยอะราวกับว่ากระเพาะของเธอนั้นไม่มีที่สิ้นสุด แล้วดูเอาเถอะกินเลอะเทอะเหมือนเด็กๆ ไม่มีผิด
อัศวินยื่นมือไปปัดเศษขนมปังที่ข้างแก้มของเธอออก ทว่า...
“ว้าย!”
หญิงสาวกลับร้องเสียงดังด้วยความตกใจ ผงะถอยจนแผ่นหลังติดหน้าต่างเครื่องบิน ใบหน้าซีดขาวมองชายหนุ่มด้วยความหวาดระแวง
“อะไรกันฉันแค่จะปัดเศษขนมปังออกให้ ไม่เห็นต้องทำท่าทางรังเกียจฉันถึงขนาดนั้นเลย ลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอต้องทำหน้าที่ภรรยาให้กับฉัน” ชายหนุ่มเค้นเสียงลอดไรฟันด้วยความไม่พอใจ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนรังเกียจสัมผัสของเขามาก่อน ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็หลงใหลอยากให้เขาสัมผัสพวกเธอแทบทุกตารางนิ้ว ทว่าหญิงสาวตรงหน้ากลับมีท่าทางรังเกียจและหวาดผวาสัมผัสจากเขา