EP.6 การพบกันครั้งแรก
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่น่าผิด” ผู้หญิงคนนี้มีเรื่องให้เขาแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่รู้จักเขาอย่างงั้นเหรอ... นี่แสดงว่าเธอยอมเป็นภรรยาของเขาทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร หน้าตาแบบไหน ผู้หญิงคนนี้หิวเงินเสียจนไม่สนใจสิ่งใด ขอเพียงเจ้าบ่าวของเธอมีเงินมากมายเธอก็พร้อมยอมพลีกายเพื่อแลกกับความสุขสบายสินะ
ชายหนุ่มยักยิ้มที่มุมปากด้วยความดูแคลน
“ฉันต้องขอฝากตัวด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรที่ฉันทำไม่ถูกไม่ควรช่วยว่ากล่าวตักเตือนได้เลย ฉันไม่รู้ว่าเจ้านายคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร จะเป็นการรบกวนไปมั้ยถ้าฉันจะสอบถามจากคุณ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความเกรงใจ เธอใช้ฝ่ามือถูไปมาที่แขนของตัวเองเพราะรู้สึกหนาว
อัศวินเห็นดังนั้นจึงถอดเสื้อนอกของตนออกแล้วห่มให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ คุณใจดีจังเลย” คราวนี้หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาจนตาเล็กหยี ทว่ารอยยิ้มของเธอกลับทำให้คนตัวโตกว่าหงุดหงิด นั่นเพราะหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะอย่างไม่อาจควบคุมอีกครั้ง
“เธอจะถามอะไรล่ะ”
“ฉันอยากรู้ว่าเจ้านายของคุณเอ่อ... เอ่อ...” หญิงสาวอึกอักไม่กล้าถาม เกรงว่าคำถามของเธอจะเป็นการไม่ให้เกียรติเจ้านายของอีกฝ่าย
“อยากรู้อะไรก็ถามมาเถอะ ถ้าฉันรู้ฉันจะบอกเธอ”
“ฉันอยากทราบว่าเจ้านายของคุณนิยมความรุนแรงหรือเปล่าคะ”
อัศวินซึ่งกำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มถึงกับแทบสำลักน้ำเมื่อได้ยินคำถามของเธอ “นี่เธอคิดว่าฉัน... เอ่ออัศวินเป็นพวกโรคจิตวิตถาร ซาดิสม์ชอบใช้ความรุนแรงอย่างงั้นเหรอ” แค่คิดว่าตนเองใส่ชุดหนังถือเทียนร้อนๆ กับแส้หนังตวัดไปมาเขาก็รู้สึกหน้ามืด เขาไม่นิยมทำให้ผู้หญิงเจ็บปวด แต่ชอบที่จะเห็นพวกหล่อนมีความสุขครวญครางอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเขามากกว่า
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” จอมขวัญรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน ใบหน้าและปลายจมูกของเธอแดงก่ำ
“แล้วเธอหมายความว่ายังไง”
“คือฉันหมายถึงการใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกาย เวลาโมโหร้ายหรือใครทำอะไรไม่ถูกใจน่ะค่ะ” หญิงสาวก้มหน้างุดจึงไม่เห็นสายตาของอีกฝ่ายที่กำลังมองเธอ มองอย่างนึกถูกชะตา
“อัศวินไม่ใช่คนที่ชอบใช้กำลังกับใคร ไม่ว่าจะในห้องนอนหรือนอกห้องนอน”
“หรือคะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาเขาด้วยดวงตาพราวระยับอย่างมีความหวัง ทำให้อัศวินอดคิดไม่ได้ว่าเธอเหมือนลูกแมวขี้อ้อนมากกว่าจะเป็นนางเสือสาวแสนเย้ายวนอย่างที่เขาวาดภาพไว้ในตอนแรก
“ถ้าแบบนั้นก็ค่อยโล่งใจหน่อยค่ะ ฉันกลัวว่าถ้าฉันทำอะไรไม่ถูกใจอาจโดนคุณอัศวินทำร้ายตบตี แต่เมื่อรู้แบบนี้แล้วฉันก็สบายใจมากๆ เลยค่ะ”
“เธอหมายถึงอะไร...เธอกลัวทำอะไรไม่ถูกใจอัศวินอย่างงั้นเหรอ”
จอมขวัญอดจะแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดผู้ชายคนนี้ถึงได้เรียกเจ้านายตัวเองว่า ‘อัศวิน’ แทนที่จะเรียกว่า ‘คุณอัศวิน’ อย่างที่พลเกียรติเรียก แต่เธอก็ปัดความสงสัยทิ้งไปเมื่อถูกเขาถามจี้ในสิ่งที่เธอหวาดกลัว
“ฉันกลัวว่า...เอ่อ” คราวนี้หญิงสาวใบหน้าแดงระเรื่อไปถึงใบหู “ฉันกลัวว่าจะทำให้คุณอัศวินไม่พอใจเรื่องอย่างว่า...” ร่างบางก้มหน้าตอบออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ถึงอย่างนั้นอัศวินกลับได้ยินชัดเจน
เขาหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน นี่ถ้าเขาไม่รู้มาก่อนว่าจอมเกล้าเป็นผู้หญิงนักเที่ยว เปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เขาต้องเข้าใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนต่อโลกไม่เคยต้องมือชายแน่ๆ “เรื่องนั้นเธอไม่ต้องเป็นห่วง อัศวินไม่สนใจหรอกว่าผู้หญิงจะลีลาเด็ดดวงหรือไม่ เพราะเขาชำนาญเรื่องนี้และพร้อมจะทำให้ผู้หญิงของเขามีความสุขอย่างที่ไม่มีผู้ชายคนไหนเคยทำได้แน่ๆ”
เมื่อจอมขวัญได้ยินดังนั้นก็หน้าแดงก่ำกว่าเดิม แต่ก็ยังกลั้นใจถามต่อไป “แล้วเอ่อ...ถ้าผู้หญิงไม่สมยอม เจ้านายของคุณจะบังคับขืนใจเธอมั้ยคะ”
อัศวินยักยิ้มที่มุมปาก ตั้งแต่เขาแตกเนื้อหนุ่มจนอายุ 35 ปี ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วขัดขืนเลยสักราย “อัศวินไม่เคยบังคับขืนใจผู้หญิงคนไหน มีแต่ร้องขอให้สัมผัสจากเขาต่างหาก”
“เอ่อ...ค่ะ” เธอใจเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดกำกวมนั้น ไม่รู้จะวางหน้าอย่างไรจึงเลือกที่จะเบือนหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่าง
“อย่ากลัวไปเลย เรื่องแบบนี้ต่างฝ่ายต่างต้องปรับเข้าหากันอยู่แล้ว”
“แล้วถ้าอีกฝ่ายปรับตัวไม่ได้ล่ะคะ อย่างเช่นอีกฝ่ายไม่ชอบเรื่องอย่างว่า...” ถามออกไปแล้วก็อายจนใบหน้าเห่อร้อนไปหมด ยิ่งเมื่อเห็นสายตากรุ้มกริ่มของผู้ชายตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ยิ่งทำให้ใจสั่น
“การเมกเลิฟเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอเพียงอีกฝ่ายใจเย็นและเข้าใจ ค่อยๆ พูดคุยปรับความเข้าใจและความต้องการให้ตรงกัน ฉันเชื่อว่าอัศวินจะเปลี่ยนอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน” แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าเหตุใดเขาจึงมานั่งตอบปัญหาเรื่องเพศราวกับเป็นอาจารย์สอนเพศศึกษาให้กับนักเรียนที่ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลยเสียอย่างนั้น ทั้งที่จอมเกล้าเองก็ช่ำชองเรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้ว
ทว่าคำถามและท่าทางเขินอายของเธอมันช่างดูไร้เดียงสา ไม่มีจริตจะก้านมารยาเลยแม้แต่น้อย นี่ถ้าเขาไม่รู้มาก่อนเขาคงหลงเชื่อหมดใจ จอมเกล้าเล่นละครเก่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก แต่...เธอจะเล่นละครกับเขาทำไมในเมื่อเธอไม่รู้ว่าเขาคืออัศวิน
หรือว่า...เธอเห็นว่าลูกน้องของอัศวินหน้าตาดีเลยคิดจะให้ท่า
เขาหรี่ตามองหญิงสาวอย่างใช้ความคิด ลองคิดไปในทางร้าย แต่เมื่อเห็นท่าทางอ่อนต่อโลกของอีกฝ่าย ก็เป็นอันต้องโยนความคิดเหล่านั้นทิ้งไป
“เอ่อ...ค่ะ” จอมขวัญพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะขืนคุยลงรายละเอียดลึกซึ้งกว่านี้ ใบหน้าเธอต้องร้อนจนระเบิดแน่ๆ “ฉันยังไม่ทราบชื่อคุณเลย”
“ฉันชื่ออัฐ เธอชื่อจอมเกล้าใช่มั้ย”
“อย่าเรียกฉันด้วยชื่อนั้นเลยค่ะ ฉันไม่อยากใช้ชื่อนั้น” หญิงสาวไม่อยากใช้ชื่อของน้องสาว แค่ต้องสวมรอยเป็นน้องสาวฝาแฝดเธอก็รู้สึกแย่พอแล้ว ดังนั้นเธอไม่อยากให้ใครเรียกเธอว่าจอมเกล้า แต่จะให้เรียกว่าจอมขวัญก็คงไม่ได้