พิมพ์ใจค่อย ๆ ปล่อยเสื้อนักศึกษาลงบนพื้น แล้วจึงถอดเข็มขัด รูดซิปกระโปรง แล้วปล่อยให้มันร่วงไปกองที่ข้อเท้า เธอยกขาทีละข้าง ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว
บนเรือนร่างเย้ายวนเหลือเพียงชุดชั้นในลูกไม้สีดำ เข้าชุดกันทั้งบนและล่าง ขาเรียวบนรองเท้าผ้าใบสีขาวสั่นน้อย ๆ
“พอใจหรือยังคะ” พิมพ์ใจถามเสียงสั่นเจือสะอื้น น้ำตาเอ่อคลอเต็มหน่วย อดสูใจกับตัวเองเหลือเกิน
อารัญยิ้มร้าย เขาตบตักแกร่ง และบอกหญิงสาวว่า
“มานั่งตรงนี้”
พิมพ์ใจยอมจำนนต่อคำสั่งของเขา เธอเดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่ไปหยุดอยู่ใกล้เขา
“นั่งลง” อารัญสั่งอย่างเอาแต่ใจ
พิมพ์ใจก้มหน้า ไม่กล้าสบตาเขา เธอค่อย ๆ หย่อนบั้นท้ายลงบนตักแกร่ง
อารัญจับหญิงสาวนั่งหันหลังพิงอกกว้าง เขาจับขาเรียวแยกถ่าง แล้วลูบมือข้างหนึ่งผ่านหน้าท้องแบนราบ สอดหายเข้าไปในขอบกางเกงชั้นในของเธอ กระทั่งปลายนิ้วกลางสอดแทรกเข้าไปในร่องสาวแห้งผากไร้น้ำหล่อลื่น
“พี่รัญ ! พิมพ์เจ็บค่ะ”
ก็ว่าจะนั่งนิ่ง จะไม่โวยวาย จะยอมตามใจเขาทุกอย่าง แต่พอเอาเข้าจริง พอเขาแตะต้องสัดส่วนที่ไม่เคยมีชายใดแตะต้อง พิมพ์ใจก็สะดุ้งตื่นกลัว เธอเผลอเรียกเขาในแบบที่เธอเคยเรียก และใช้สองมือจับข้อมือเขาไว้แน่น
พิมพ์ใจแหงนเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาน่าสงสาร
“แค่นี้ยังน้อยไป เพราะที่เธอทำกับฉัน มันเจ็บมากกว่านี้ หลายร้อยหลายพันเท่านัก”
อารัญกัดฟันพูด ดวงตาคู่คมวาวโรจน์ด้วยความกรุ่นโกรธเคียดแค้น เขาจ้องหน้าเธอด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก แล้วกระทุ้งนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวสุดโคนข้อ
“กรี๊ด !!!” พิมพ์ใจกรีดร้อง น้ำตาไหลพราก เธอเจ็บจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว
อารัญสอดนิ้วแช่ลึก ความคับแน่นรัดรึงของเธอทำให้เขายิ้มพอใจ เขาขยับนิ้วกระทุ้งแรงแทงลึกอีกครั้ง โดยไม่สนใจอาการสะดุ้งสะท้านของหญิงสาว แล้วกระซิบบอกคนตัวเล็กว่า
“ของยังสดใหม่ ก็พอรับได้ เป็นอันว่า ฉันตกลงรับข้อเสนอของเธอก็แล้วกัน” ....
1 พี่รัญของน้องพิมพ์
4 ปีที่แล้ว
“พี่รัญ !”
เมื่อได้ยินเสียงหวานเคยคุ้นเอ่ยเรียก อารัญจึงเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ พอเห็นคนตัวเล็กโบกไม้โบกมือให้ เขาก็ยิ้มอ่อนโยน เขามองเธอไม่วางตา จนยัยตัวเล็กหอบหนังสือวิ่งมานั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับเขา
“รอนานมั้ยคะ”
“นานแค่ไหนก็รอได้”
คนน่ารักยิ้มจนตาหยี เธอวางหนังสือลงบนโต๊ะ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้
“พิมพ์หิวจังเลยค่ะ”
บอกแล้วก็ยิ้มหวาน กะพริบตาปริบ ๆ ออดอ้อน
อารัญส่ายหน้ายิ้ม ๆ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปซื้ออาหารและเครื่องดื่มมาให้น้อง
วันนี้อารัญกับพิมพ์ใจนัดกันมาอ่านหนังสือด้วยกัน ทั้งสองนัดเจอกันที่คาเฟ่หรูแห่งหนึ่งกลางเมืองกรุงเทพ ฯ
อารัญกำลังเรียนอยู่ชั้นปี 4 เขาเรียนคณะวิศวกรรม สาขาโยธา เพราะต้องสืบทอดกิจการของครอบครัวทางมารดา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นจำนวนหนึ่ง ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เขาจึงอยากเรียนให้ตรงสายงาน
ที่จริงงานบริหารควรจะเป็นหน้าที่ของบิดา แต่เพราะพ่อของเขาเป็นข้าราชการตำรวจ ท่านรักอาชีพนี้มาก แม้จะแต่งงานกับแม่ซึ่งมีฐานะร่ำรวยและมีธุรกิจมั่นคง แต่ท่านก็ยังคงทำงานที่ท่านรัก ด้วยความทุ่มเทและซื่อสัตย์ต่ออาชีพ
พิมพ์ใจเป็นนักเรียนชั้น ม. 5 เด็กสาวอาศัยอยู่กับคุณพิมพ์พร...ผู้เป็นแม่ และ คุณมานะชัย...ผู้เป็นพ่อเลี้ยง
พ่อของพิมพ์ใจเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเล็ก พอแม่แต่งงานใหม่ ท่านก็พาเธอย้ายมาอยู่กับพ่อเลี้ยง
อารัญถือถาดเครื่องดื่มและอาหารกลับมาที่โต๊ะ เขาวางมันลงตรงหน้าพิมพ์ใจ
“โกโก้ปั่นเพิ่มวิปครีม กับแซนด์วิชอุ่นร้อนพร้อมทานครับ...ยัยตัวเล็ก”
“ฮื้อ ! พิมพ์ตัวโตแล้วนะคะ พี่รัญรู้มั้ยว่า ปีนี้ พิมพ์สูงขึ้นตั้งหนึ่งเซนเชียวนะคะ”
อารัญนั่งที่เก้าอี้ข้างเด็กสาว เขาวางมือบนศีรษะของเธอแล้วยีเบา ๆ
“โอ้โห ! ตั้งหนึ่งเซน” อารัญทำสีหน้าตื่นเต้น ทว่าสายตากับล้อเลียนอย่างไม่ปิดบัง คนที่ภูมิใจกับความสูงที่เพิ่งขึ้นตั้ง 1 เซนติเมตรจึงทำหน้าบึ้งใส่เขา
“ก็พิมพ์ไม่ได้กินเสาไฟฟ้าเป็นอาหารเหมือนพี่รัญนี่คะ คนอะไรตัวสูงอย่างกับเสาไฟ”
อารัญหัวเราะในลำคอ เขาส่ายหน้ายิ้ม ๆ
“ไหน...วันนี้จะให้พี่ติววิชาอะไรให้ครับ”
เพราะกลัวว่าน้องจะงอน และทำหน้าบึ้งไปมากกว่านี้ อารัญจึงชวนน้องเปลี่ยนเรื่องคุย
พิมพ์ใจยิ้มกว้างทันที เมื่อเขาจะติวหนังสือให้เธอ
“คณิตศาสตร์ค่ะ อาจารย์สอนอะไรก็ไม่รู้ พิมพ์ไม่เข้าใจเลย พี่รัญช่วยติวให้พิมพ์หน่อยนะคะ”
พิมพ์ใจทำหน้าเศร้าน่าสงสาร
“ครับผม”
เมื่อคนเป็นพี่ตกปากรับคำ คนน้องก็ยิ้มกว้างสดใส อารัญยิ้มอบอุ่นให้น้อง ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข สุขที่เจอหน้า ได้ใกล้ชิด ได้พูดคุยกัน
อารัญกับพิมพ์ใจตกลงคบกันเป็นแฟนเมื่อปีที่แล้ว พิมพ์ใจเป็นคนเริ่มจีบอารัญตามคำท้าของเพื่อนในกลุ่ม
วันนั้น เธอกับเพื่อนมาอ่านหนังสือกันที่ร้านนี้ แล้วมาเจอพี่รัญที่มาอ่านหนังสือกับเพื่อนเหมือนกัน
พิมพ์ใจเป็นเด็กเรียบร้อย แต่ถูกเพื่อน ๆ ท้าให้เธอไปคุยกับอารัญ ตอนแรกเธอก็ไม่กล้า แต่พอพี่รัญมองมาที่เธอ พอได้สบตากัน หัวใจดวงน้อยก็รู้สึกอบอุ่นอ่อนหวาน สายตาของพี่รัญอบอุ่นอ่อนโยนและน่าค้นหา เธอนั่งทำใจอยู่ครู่หนึ่ง จึงลุกขึ้นไปทำตามคำท้าของเพื่อน