เด็ดปีกวาโย
(No.1 Bad Guy)
EPISODE3 จะเด็ดมาเคี้ยวเล่น
“กูว่าอีกหน่อยมึงก็เพ้อ ใครได้อยู่ใกล้ก็หลงเสน่ห์น้องโมนาทั้งนั้น ไม่งั้นน้องจะมีเอฟซีเยอะเหรอวะ” เจ๋งเอ่ยสมทบ เพราะเขาเองก็เป็นเอฟซีของน้องด้วยเช่นกัน เข้าไลฟ์ไปดูน้องเต้นดุ๊กดิ๊ก ๆ น่ารักจะตาย
“คอยดู...กูจะเด็ดเน็ตไอดอลมาเคี้ยวเล่น” วาโยลั่นเสียงขุ่น เมื่อเห็นว่าสาวน้อยโมนาเดินยิ้มร่าถือถาดข้าวมาที่โต๊ะพวกเขาแล้ว
“พวกกระผมรอดูเลยครับลูกพี่!” เจ๋งเอ่ยติดขำ ๆ
“ได้แล้วค่า! ข้าวกะเพราหมูกรอบทะเลไข่ดาวร้อน ๆ ไก่ทอดชุดเล็ก แล้วก็โคล่าเย็น ๆ นี่หนูสั่งคุณป้าให้เลือกน้ำแข็งก้อนที่เย็นที่สุดให้พี่สุดหล่อเลยนะคะ” ฉันสาธยายอาหารที่เขาสั่ง พร้อมประชดไปด้วยเลย
“ตลก?” พี่วาโยทำเสียงดุ ก่อนจะดึงถาดข้าวไปตรงหน้า
“งั้นหนูไปนะคะ” ฉันบอกลาเขา แล้วระบายยิ้มตบท้าย
“เธอไปซื้อข้าวมากินที่นี่ ภายในสองนาที พี่ต้องเห็นเธอกลับมา”
ทว่าตอนที่ฉันจะหมุนตัวกลับ เสียงของเขาก็ดังขัดขึ้น นอกจากซื้อข้าวแล้ว ฉันยังต้องมานั่งกินที่โต๊ะพวกเขาด้วยเหรอ โมนาจะบ้า!
“แต่ว่า...”
“สองนาที” พี่วาโยเอ่ยย้ำ ทำให้ฉันเดินกลับไปยังร้านข้าว แต่ว่าแถวมันโคตรยาวเลย ฉันจึงเปลี่ยนใจไปซื้อนมกับขนมปังมาประทังชีวิตแทน ถ้ารู้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ฉันซื้อข้าวไปพร้อมกันเลยก็ดี
แน่นอนว่าฉันกลับมาที่โต๊ะของเขาก่อนสองนาที นั่นทำให้พี่วาโยมองหน้าฉันนิ่ง หึ! รู้สึกผิดบาปขึ้นมาแล้วสิที่ทำให้ฉันไม่มีข้าวกิน
“ครั้งหน้าถ้าเธอให้คนอื่นซื้อ พี่จะให้เธอไปซื้อมาใหม่” เขาว่า
“แต่หนูจ่ายเงินเองทั้งนั้นเลยนะ” ฉันแย้ง
“เธอต้องไปต่อแถวด้วย” เขาบอกย้ำ ไอ้พี่บ้านี่มันเป็นอะไรมากไหม แค่มีข้าวกินก็น่าจะพอใจแล้วไม่ใช่รึไง ฉันจะซื้อยังไงก็เรื่องของฉันสิ
“นี่พี่สุดหล่อ...” ฉันส่งเสียงเรียกคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ทำให้พี่วาโยช้อนสายตามามองราวคนจ้องจะมีเรื่องได้ตลอดเวลา
“ไม่ชมสักนาทีปากจะเป็นอัมพาตรึไง” เขาย้อนถาม ทำให้ฉันระบายยิ้มหวานสู้ เชื่อเขาเลย! ทำไมปากถึงได้สวนทางกับหน้าตาแบบนี้ล่ะ พูดจาให้มันน่าฟังบ้างไม่ได้รึไง
“ทำไงได้ล่ะคะ ความหล่อมันอยู่บนหน้าพี่นี่นา พี่ก็ช่วยหล่อให้น้อยลงหน่อยสิคะ” ฉันตอบกลับ แล้วขยับยิ้มน่ารักให้พี่วาโยไปอีก นั่นทำให้เขายิ่งหน้าตึงคูณสิบทีเดียว
“เธอนี่มัน...” พี่วาโยพึมพำราวไม่สบอารมณ์
“เขินหนูล่ะซี่” ฉันแกล้งแซว และเห็นเขาทำหน้าดุมากขึ้น
“โว้ย! เป็นกูนี่เขินเอวบิดแล้วนะ มีสาวน้อยสุดน่ารักมานั่งชมซึ่งหน้าแบบนี้ กูไม่ต้องแดกข้าวไปสามวันยังได้” เสียงของพี่เจ๋งโพล่งขึ้น ทำให้ฉันหันไปยิ้มให้เขา
“จริงเหรอคะ งั้นหนู...”
“เธอควรรีบยัดไอ้ขนมปังถูก ๆ นั่นลงท้องได้แล้ว เลิกพูดมาก แล้วก็เลิกหันไปยิ้มให้ไอ้สองตัวนั้นด้วย” ยังพูดไม่ทันจบคำ เสียงดุ ๆ ของพี่วาโยก็เบรกฉันเสียหัวทิ่ม
“ก็ได้ค่ะ ว่าแต่...ข้าวอร่อยไหมคะ ข้าวที่หนูซื้อให้มักจะหวานขึ้นสองเปอร์เซ็นต์แหละ” เมื่อหยอกเพื่อนเขาไม่ได้ ฉันเลยวกกลับมาหยอกพี่วาโยแทน นั่นทำให้เขากัดกรามดังกรอดทีเดียว
“ขืนเธอยังพูดอีกคำ พี่จะจับอย่างอื่นยัดปากเธอ!”
“โอ้ว! จะว่าไปขนมปังถูก ๆ มันก็รสชาติดีเหมือนกันนะคะ กินข้าวกันต่อเลยค่ะ” ฉันแสร้งทำหน้าจ๋อย แล้วกัดขนมปังเข้าปาก บอกแล้วไงว่าคนอย่างโมนาอยู่มาได้เพราะความร่าเริง ทุกการท้าทายคือเป้าหมายของฉัน ต่อให้คนตรงหน้าจะได้ชื่อว่าอันตรายแค่ไหนก็ตาม
และหลังจากช่วงพักกลางวันผ่านไป ฉันก็ยังได้รับข้อความจากพี่วาโยว่าเย็นนี้ฉันต้องไปที่อู่ซ่อมรถกับเขา เพื่อไปฟังช่างประเมินราคาค่าซ่อมรถ รวมถึงตามไปเป็นเบ๊เขาต่อจนกว่าจะถึงสามทุ่ม นั่นทำให้ฉันถึงกับวิ่งมากรี๊ดในห้องน้ำทีเดียว เขาคิดจะใช้งานฉันถึงสามทุ่มเลยเหรอ แล้วเน็ตไอดอลอย่างฉันจะได้ขึ้นไลฟ์กี่โมง