ตอนเช้า
มาริน’ s Part
ฉันสายแล้ว! เพราะพี่เพทายคนเดียว!!
ตอนเช้าฉันโทรหาเขาตั้งไม่รู้กี่สาย แต่ก็ไร้วี่แววว่าพี่เพทายจะรับสายของฉันเลย มันน่าโมโหนัก… ถ้าไม่ว่างหรือจะเทกันอย่างน้อยก็ส่งข้อความมาบอกฉันหน่อยก็ได้ ไม่ใช่เงียบหายไปแบบนี้!
สุดท้ายฉันก็ต้องมาที่บริษัทเองเหมือนเมื่อวาน ไม่ใช่สิ… วันนี้ฉันนั่งวินจากหน้าคอนโดยาวมาจนถึงบริษัทเลย เพราะว่าถ้ามัวไปขึ้นรถไฟฟ้าอีกกลัวว่าจะสายไปมากกว่านี้
นี่ยังดีที่พี่อาทิตย์ให้คนมาเอารถของฉันไปซ่อมให้แล้ว คิดว่าอีกไม่กี่วันก็คงได้ ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้ไม่ต้องรอพึ่งคนอื่นอีก
“ยัยริน!” เสียงของชมพู่เรียกชื่อฉันด้วยความตกใจทันทีที่ฉันเข้ามาในบริษัท “ทำไมสภาพเธอเป็นแบบนี้เนี่ย? หัวกระเซอะกระเซิงไปหมด”
“ฉันนิ่งวินมา…” ฉันตอบกลับไปเสียงเนือยๆ
“แฟนเธอไม่ว่างอีกแล้วเหรอ?”
“ประมาณนั้นแหละ” ฉันตอบกลับแบบไม่เต็มเสียงนัก ก็ฉันไม่รู้ว่าเขาติดงานหรือติดอะไรกันแน่
“บอสยังไม่มา ไปๆ ไปจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเถอะแก” ชมพู่พูดพร้อมกับตบบ่าเหมือนกับจะให้กำลังใจฉัน
“มาริน…” แล้วเสียงที่ฉันไม่อยากได้ยินในตอนนี้ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“บะ บอสส!”
ฉันหันไปพร้อมกับสีหน้าไม่สู้ดีนัก ส่วนบอสเองก็มองจ้องฉันอย่างยากที่จะเดาจากสายตานั้น
“ตามผมเข้ามาในห้อง” เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะเดินนำไปยังห้องทำงาน
“จะมีอะไรอีกหรือเปล่านะ ก็เห็นอยู่ว่าสภาพเธอไม่ค่อยโอเค น่าจะปล่อยให้ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อน ไม่รู้รีบอะไรนักหนา” ชมพู่รีบกระซิบกับฉันทันทีที่บอสเดินไป
“ไม่เป็นไร คงมีเรื่องด่วนแหละ” ฉันตอบเพื่อนไปแบบนั้นแต่ความจริงแล้วฉันพอจะรู้อยู่ว่าที่บอสเรียกไปคงไม่ใช่เรื่องงาน แต่เป็นเรื่องของฉันมากกว่า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แกร๊ก~
ฉันเปิดประตูห้องทำงานและเดินเข้ามาในห้องที่มีบอสยืนอยู่ด้วยใบหน้าขรึม ฉันเหลือบมองไปยังพี่อคิณที่ยืนอยู่ไม่ห่างออกไปมากนักอย่างขอความช่วยเหลือ แต่พี่อคิณก็ส่ายหน้าเพื่อสื่อความหมายว่า ตัวใครตัวมัน!
“อคิณออกไปก่อน แล้วอย่าให้ใครเข้ามา”
“ครับบอส…”
พี่อคิณเดินออกไปแล้ว ตอนนี้ในห้องเหลือแค่ฉันกับบอสแค่สองคน ทั้งห้องเงียบจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศดังชัดเจน ฉันได้แต่ยืนก้มหน้าตัวลีบอยู่ที่เดิมอย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันเพราะฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
“เมื่อเช้ามายังไง” นั่นไง! คำถามที่ไม่อยากตอบ
“วินค่ะ…” แต่ฉันก็โกหกเขาไม่ได้หรอก เพราะสภาพมันทนโท่อยู่อย่างนี้ ก็ได้แต่บอกไปตามความจริง
“แฟนเธอล่ะ?”
“…” ฉันไม่รู้จะบอกยังไงดีเหมือนกัน
“แล้วทำไมไม่โทรมาบอก จะได้ไปรับ”
“ไม่เป็นไรค่ะบอส มาแบบนี้ถึงเร็วกว่าตั้งเยอะนะคะ” ฉันบอกพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เพื่อหวังว่ารอยยิ้มของฉันจะทำให้คนตรงหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“เห้อ~ เรานี่น้า”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วรินขอตัวไปจัดแจงตัวเองก่อนนะคะ” ฉันพูดพร้อมกับทำท่าจะเดินออกไปแต่ก็โดนคนตัวโตเรียกเอาไว้เสียก่อน
“ริน…” เขาทำท่าทางคิดหนัก “เรากับแฟนยังรักกันดีอยู่ใช่มั้ย ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันใช่หรือเปล่า”
ทำไมจู่ๆ พี่อาทิตย์ถึงได้ถามเรื่องนี้กับฉันกันนะ แต่ว่าคำถามของพี่อาทิตย์ก็ทำให้ฉันเองนิ่งคิดไปอยู่เหมือนกัน
นั่นสินะ… ตอนนี้ฉันกับพี่เพทายยังรักกันดีอยู่หรือเปล่า
“เอ่อ รินว่านี่เป็นเวลางาน เราอย่าคุยเรื่องส่วนตัวกันเลยนะคะ” ฉันตัดสินใจตอบออกไปแบบนั้น ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะเลี่ยงอะไรแต่แค่ว่าฉันเองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
“อืม… งั้นก็ออกไปทำงานเถอะ”
พี่อาทิตย์ไม่เซ้าซี้ฉันอีก ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้วเพราะฉันยังไม่อยากคิดมากเรื่องพี่เพทายตอนนี้ หลังจากนั้นฉันก็เดินออกจากห้องทำงานมาแล้วมานั่งทำงานที่โต๊ะประจำตามเดิม
.
.
อาทิตย์’ s Part
ตอนที่ผมมาถึงบริษัทแล้วกำลังจะเดินเข้าห้องทำงานผมเห็นสภาพของมารินเมื่อเช้านี้ก็รู้ได้ทันทีว่าคนตัวเล็กคงจะต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์มาอีกแล้ว และผมก็พอจะเดาได้ว่าไอ้เพทายนั่นคงจะไม่มารับรินอย่างที่บอกไว้เพราะดูจากที่ผมเจอเมื่อคืน ถ้ามันไม่เมาจนตื่นไม่ไหวก็คงจะนอนกกกับผู้หญิงที่ควงไปเมื่อคืนจนไม่สนใจแฟนตัวเองเป็นแน่
นึกแล้วก็โมโหมัน! ที่มาทำกับคนตัวเล็กของผมแบบนี้ ยังไม่นับเรื่องที่มันนอกใจไปมีความสุขกับคนอื่นแล้วปล่อยให้แฟนตัวเองต้องลำบากอีกนะ มารินไม่ควรจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้เลย
“อคิณ นายไปสืบเรื่องแฟนมารินให้ฉันหน่อย” ผมพูดกับคนสนิททันทีที่อคิณเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานหลังจากที่มารินเดินออกไป
“บอสก็เคยสืบเรื่องนี้ไปแล้วนี่ ก็รู้ทั้งรู้ว่าหมอนั่นเป็นยังไงแต่ก็ยังปล่อยมาจนถึงตอนนี้ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วผมขอพูดหน่อยละกัน บอสนะโคตรของโคตรจะอดทนเลยเป็นผมนะแย่งมาตั้งแต่แรกแล้วไม่ปล่อยให้ผ่านมาขนาดนี้หรอก จะเสียใจตอนนั้นหรือตอนนี้ยังไงมารินก็ต้องเสียใจอยู่ดี” ได้ทีหมอนี่ก็ใส่ผมทันที
อคิณก็เป็นอีกคนที่รู้เรื่องความรู้สึกที่ผมมีต่อมาริน ตั้งแต่ตอนที่ผมให้ไปสืบเรื่องของเพทายเมื่อ 2 ปีก่อน แล้วเขาก็เป็นอีกคนที่มักจะแซะผมเรื่องที่ผมปล่อยมารินให้อยู่ข้างกายโดยที่ไม่คิดจะทำอะไร
แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ปล่อยให้เป็นแบบที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว
ผมจะต้องรุก!
“ฉันไม่อยากเป็นคนทำให้มารินต้องเสียใจเพราะฉัน ถ้าฉันไปแย่งมาตั้งแต่ตอนนั้นฉันจะต่างอะไรกับมือที่สามที่เป็นคนทำให้ความรักของมารินต้องพังลงด้วยมือของฉันเองกันล่ะ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้วเพราะงั้นฉันเลยอยากให้นายสืบเรื่องไอ้เพทายตอนปัจจุบันนี้ ขอเร็วที่สุดด้วย”
ผมบอกอคิณพร้อมกับเล่าเรื่องที่ได้เจอเมื่อคืนให้หมอนี่ฟังด้วย หลังจากฟังจบแม้แต่อคิณเองก็โกรธแทนมารินไม่น้อยไปกว่าผม หรืออาจจะมากกว่าจนผมต้องเอ่ยปากให้เบาได้เบา
“ผมว่านะบอสควรพามารินให้ไปเห็นกับตาจะดีกว่า ถึงอาจจะต้องเสียใจแต่มันก็ครั้งเดียวจบไม่ต้องมานั่งสืบสาวราวเรื่องกันต่อ คนอย่างเพทายลองมันได้กลับมาทำนิสัยแบบเดิมมันก็คงจะทำแบบนั้นอีกแน่ๆ”
“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะไปที่นั่นอีกเมื่อไร หรือมันอาจจะเปลี่ยนที่ไป”
“เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอคิณคนนี้เถอะครับ แต่ถ้าให้ผมเดานะคืนนี้มันก็คงจะไปที่เดิมอีกนั่นแหละ” อคิณพูดซึ่งผมก็เห็นด้วยว่ายังไงเพทายก็คงจะมาที่เดิมอีกเป็นแน่ ผมควรจะพามารินไปให้เห็นกับตา ถึงเวลาที่เรื่องของเธอกับหมอนั่นควรจบลงได้แล้ว
-------------------------------------
-------------------------------------
อีพี่อาทิตย์ของเราจะรุกน้องแล้ว สักที! หลังจากที่ชะล่าใจมานาน