อภิยามองจนเขาโผล่ออกมายืนภายใต้แสงสว่างแล้วก็ค่อยพบว่าคล้ายจะเมา จึงขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่กระนั้นก็ยังอุตส่าห์ส่งเสียงตอบเขาไปว่า “ค่ะ” เพียงคำเดียวเท่านั้น
พสุธาหยุดยืนมองเธอนิ่งด้วยดวงตาแดงก่ำ ก่อนจะถามเสียงห้วนห้าวออกมาว่า “ยืนทำอะไรตรงนี้”
อ้าปากจะตอบแต่เขาถามขัดเสียก่อน “หรืออยากได้งานอื่นที่ไม่ใช่งานในออฟฟิศ เลยมายืนรอท่ารอของานอยู่ตรงนี้”
แม้ว่าเธอจะไม่ได้ออกมารอท่าเขาอย่างที่อีกฝ่ายถามกลับมา แต่พอได้ยินเขาถามอย่างกับรู้เจตนารมณ์แท้จริงของเธอ ก็ยิ้ม รีบตอบรับไปว่า
“ใช่ค่ะ”
“ว่ามา ว่าอยากทำงานอะไร เผื่อจะจัดให้คืนนี้เลย” บอกจบ เขากวาดตามองเธอขึ้น ๆ ลง ๆ ราวกับกำลังตีราคาค่าตัวอยู่
แต่เจ้ากรรม อภิยาไม่เข้าใจสายตาชนิดนั้น
พอได้ยินว่าเขาจะหางานให้ทำ ก็รีบก้าวขาเข้าไปใกล้เขา อ้าปากจะขอไปทำงานในสวนเกษตรอินทรีย์ แต่แล้วกลับได้กลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้งชวนอ้วกเข้ามาเตะปลายจมูกเสียก่อน ก็ผงะแล้วกลั้นหายใจ ถามเขาไป
“คุณดื่มเหล้าอะไรมาคะเนี่ย กลิ่นแรงมากเลย”
พสุธาอึ้งกับคำถามนั่นเล็กน้อย ไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับเขาเลยสักคน อ้าปากจะตวาดใส่ แต่แล้วปากเล็ก ๆ ของอภิยาก็ขยับบอกเขาว่า
“รอเดี๋ยวนะคะ หยินไปเอาน้ำมาให้ค่ะ”
บอกจบก็วิ่งเข้าไปทางครัวทันที ไปได้ไม่นาน ก็ออกมาพร้อมกับน้ำในแก้วใสใบใหญ่ พสุธารับมามองอย่างไม่ไว้ใจ เขายกขึ้นดม ก่อนตัดสินใจจิบอึกหนึ่ง เพราะคอแห้งอยู่พอดี แล้วเอาออกห่างจากปาก ยกของเหลวในนั้นขึ้นมองพร้อมกับถามคนที่ยืนมองเขาอยู่
“น้ำอะไรของเธอ”
ปกติเวลาเขาไปดื่มกับพรรคพวกหรือคนงาน ถ้าเข้ามาเจอคนในบ้าน เขาจะได้แค่น้ำเย็น ๆ เท่านั้น ไม่มีใครเสิร์ฟของแบบนี้ให้เขามาก่อน
“เกลือแร่ผสมน้ำหวานนิดหน่อย เคยทำให้พ่อเวลาท่านเมากลับมาน่ะค่ะ”
พสุธาติดใจในความหวานของน้ำในแก้วไม่น้อย ควงแก้วน้ำพร้อมกับมองไปที่ร่างเล็ก ๆ พูดด้วยน้ำเสียงดูถูก “ที่แท้ก็มีพ่อขี้เมา เลยรู้จักทำอะไรแบบนี้”
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ เวลาท่านไปกินเลี้ยงก็ต้องดื่มกับเพื่อน ๆ ของท่านบ้าง กลับถึงบ้าน หยินกับแม่ก็จะคอยท่านแบบนี้ แม่ก็จะบอกให้ทำน้ำแก้เมาให้พ่อดื่มทุกครั้งเลยล่ะค่ะ”
น้ำแก้เมาอย่างนั้นหรือ
พสุธาทวนในใจ ฟังเงียบ ๆ
เขาเกือบคล้อยตามคำบรรยายเมื่อครู่นี้แล้ว
อดคิดไม่ได้ ว่าคงดีไม่น้อย หากมีคนมานั่งคอยเขาตอนออกไปดื่มกับพรรคพวก พอกลับเข้าบ้านแล้วก็มีคนเสิร์ฟน้ำแก้เมาให้เขาด้วย
กระแอมกลบเกลื่อนจินตนาการเพ้อเจ้อ แล้วยกที่เหลือในแก้วดื่มจนหมด ทำทีถามถึงเรื่องที่คุยค้างเอาไว้ตอนก่อนหน้านี้
“แล้วตกลงว่าอยากทำงานอะไร”
“หยินเรียนคณะ...” เกริ่นนำด้วยการบอกชื่อสาขาวิชา คณะที่เรียนมาได้เพียงปีเดียวให้เขาฟัง แล้วลดเสียงเบาลงอย่างคนไม่มั่นใจบอกต่อไปอีกว่า “หยินยังเรียนไม่จบหรอกนะคะ ถึงจะยังไม่จบ แต่หยินเคยมีประสบการณ์การทำงานมาแล้วค่ะ โชกโชนเลย”
แววตาคนฟังจุดประกายขึ้นเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ พสุธาทวนถามด้วยรอยยิ้มหมิ่นแคลนที่ผุดขึ้นตรงมุมปากนิดเดียวนั่น
“ประสบการณ์โชกโชนเลยหรือ”
อภิยายิ้มรับ พยักหน้าแล้วสาธยายความสามารถของตนเองต่อจากนั้น “อย่างพวกงานออฟฟิศหรืองานขาย หยินก็ทำได้หมดค่ะ”
เขามองจับจ้องที่ปากของเธอที่พูดอยู่ ถามเสียงหยัน
“แล้วทำอะไรได้อีก”
“ถึงหยินจะทำอะไรได้เยอะแยะ แต่ที่จริงแล้ว หยินอยากทำงานในสวนมากกว่าค่ะ”
พสุธาหยุดมองหญิงสาวคู่สนทนาด้วยสายตาสำรวจ
ขาเล็ก ๆ มือเล็ก ๆ แล้วก็ปากเล็ก ๆ นั่น สภาพแบบนี้หรือจะอยากทำงานในสวน
“สวนอะไรที่เราอยากทำ”
“สวนเกษตรอินทรีย์ค่ะ”
ได้ยินคำตอบแล้ว พสุธาก็ร้อง ‘หึ’ พร้อมกับคิดได้ว่าแม่นี่คงไปหลอกถามใครมาแล้วสินะ ถึงได้รู้ว่าเขาใส่ใจสวนเกษตรอินทรีย์ที่ด้านหลังไร่มากราวกับลูกแท้ ๆ นั่นน่ะของหวงของเขาเลยนะ
รู้ว่าเป็นพื้นที่เขตหวงห้ามก็เลยอยากเข้ามาวอแววุ่นวายด้วยน่ะสิ
พสุธาคิดอย่างหมิ่นแคลน ส่ายหัวแล้วพูดให้ความหวังไปว่า “เอาไว้ก่อนเถอะงานสวนตรงนั้นน่ะ พรุ่งนี้เธอไปช่วยงานในออฟฟิศก่อน แล้วถ้าเก่งอย่างที่ปากว่าจริง จะให้ไปทำในสวน”
เธอยิ้มดีใจ บอกเร็ว ๆ ไปว่า “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณคุณพุธมาก ๆ ค่ะ” พอเห็นว่าเขาทำท่าหันหลังจะไป ก็รีบเรียกเขาเอาไว้ “คุณพุธคะ”
พสุธาออกอาการรำคาญไม่น้อย ตวาดเสียงถามกลับ “มีอะไร”
“แล้วงานในบ้าน ให้หยินทำด้วยไหมคะ”
“อยากทำไหมเล่า”
“อยากทำค่ะ”
“อยากทำ ก็ทำ”
“เอ่อ แล้วเงิน...”
“งานยังไม่ได้เริ่มทำเลย ถามเรื่องเงินซะแล้ว” พสุธาว่าเสียงเยาะใส่ “จะเอาเงินสองที่เลยล่ะสิถึงถามแบบนี้ ไม่งกไปหน่อยหรือยังไงแม่คุณ”
“เปล่านะคะ คือหยินจะขอ...” เธอมาที่นี่เพื่อมาขอความรู้ ส่วนเงินเธอจะบอกว่าเขายังไม่ต้องจ่ายก็ได้ ให้เป็นงานเสียก่อน แล้วเขาจะให้เธอตามวุฒิการศึกษาไม่ได้ด้วย เพราะเธอยังเรียนไม่จบ แต่แล้วก็พูดไม่ทันเขา
“ได้ ไม่มีปัญหา เธอทำงานตรงไหน ก็จะจ่ายตรงนั้นให้ทั้งหมดนั่นแหละ พอใจหรือยัง” เขาพูดจบ โบกมือทำนองว่าเบื่อจะฟังเธอแล้ว เดินไปทางประตูหน้าบ้านจะเข้าไปด้านใน เธอยืนมองแล้วส่งเสียงเรียกเขาอีกครั้ง
“คุณพุธคะ”
ร่างสูงใหญ่กระแทกลมหายใจออกมา ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่ชักจะหงุดหงิดมากขึ้น “อะไรอีก”
“คือว่า ถ้ามีอะไรจะเรียกใช้ คุณพุธเรียกใช้หยินได้เลยนะคะ”
แม่นี่พูดเปิดทางให้เขาอยู่ อายุแค่นี้คิดการใหญ่ จะจับเขาทำผัวเสียแล้ว กำลังจะบอกเป็นนัยเป็นแน่ว่าอยากทำอย่างอื่นด้วย คงหมายถึงอย่างว่า ก็ถ้าคิดว่าเก่งกาจขนาดจะอ่อยเขาได้ ก็ลองดู
“อยากได้เงินมากขนาดนั้นเลยหรือ”