“เดี๋ยว!”
พสุธาส่งเสียงเรียกออกมาคำเดียว แต่ดังลั่นบ้าน หญิงสาวที่คุณน้อมสั่งให้ยกอาหารออกมาวางที่โต๊ะตัวสั่นเล็กน้อย จนเกือบทำถาดใส่อาหารหลุดออกจากมือ จึงรีบวางที่โต๊ะเสียก่อน แล้วถอยหลังไปยืนรอว่าเขาจะเอาอะไร
อ้าปากจะถามเขา แต่แล้วเสียงเข้มก็สั่งขัดขึ้นเสียก่อน
“ไปตามคนที่ชื่อหยินมา”
“ค่ะ” หญิงคนนั้นรับคำสั่งอย่างไว แล้วรีบออกไปตามหาอภิยาอย่างรวดเร็ว ไปที่ในครัว หาไม่เจอ วิ่งไปทางหลังบ้าน ก็ค่อยเห็นว่ากำลังถากหญ้าที่ด้านหลังอยู่ เลยทำหน้าไม่พอใจใส่
ทุกทีก็เห็นไปยืนสะเหล่อ เสนอหน้ากับเจ้านายตลอด แล้วทำไมเวลานี้ไม่ไปเล่า นี่คงอ่อยจนนายติดกับจนต้องร้องหา แล้วก็หลบมาอยู่แถวนี้ล่ะสิ คิดอย่างหมั่นไส้
เดินไปตะโกนสั่งอีกทีว่า “นี่! คุณพุธเรียก”
อภิยายกแขนเสื้อปาดเหงื่อ เห็นคนมาเรียกก็ร้องถามกลับไปว่า “เรียกหยินหรือ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
ได้ยินว่าเขาเรียก สายตาคนอื่น ๆ แถวนั้นก็หันมามองที่เธอกันเกือบหมด อภิยาห้ามสายตา ห้ามความคิดของใครไม่ได้อยู่แล้วจึงวางงานที่ทำอยู่ เลี่ยงไปล้างมือแล้วค่อยตรงไปหาเขา
งานที่คุณน้อมสั่งยังไม่เสร็จ และนี่ก็คงจะเลยมื้ออาหารของพสุธามาแล้ว แต่คุณน้อมก็น่าจะจัดการให้คนอื่นยกไปตั้งโต๊ะแล้วนี่นา คิดขณะเดินตรงไปยังห้องรับประทานอาหาร
เห็นหัวดำ ๆ เด่นมาแต่ไกล พสุธานั่งตักอาหารกินเงียบ ๆ ไม่มองเธอแม้แต่หางตา
ไปถึงแล้ว ยืนห่างจากเขาพอสมควร เพราะเนื้อตัวค่อนข้างสกปรกแล้วเอ่ยถามเขา “คุณพุธจะรับอะไรเพิ่มหรือคะ”
เขามองเธอนิ่ง ๆ เห็นเนื้อตัวมอมแมมก็ถามขึ้นว่า
“ไปช่วยป้าใจมาอีกหรือไง”
“ค่ะ”
“หน้าที่หรือไง แล้วทำไมไม่มายกอาหารตั้งโต๊ะ”
“คือ...”
“กินข้าวหรือยัง”
เธอยังไม่ได้กินหรอก แต่แล้วก็ตอบไปสั้น ๆ แค่ “ค่ะ”
“เจ้านายยังไม่กิน ก็กินก่อนได้เลยหรือไง”
เธอเงียบไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไปอีก พสุธาก็ค่อยบอกขึ้นว่า “เดี๋ยววันเสาร์กลางเดือนหน้า ไปช่วยงานที่ข้างนอกหน่อย”
เงียบไปอึดใจเดียว ถามเขากลับว่า “ช่วยงานที่ไหนคะ”
“ที่...” พสุธาเอ่ยชื่อโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในอำเภอออกไป แล้วขยายความต่อ “ไปช่วยยกของลงรถ แล้วถ้าเขามีงานอะไรให้ช่วย ก็ไปช่วยเขา บ่าย ๆ ก็น่าจะเสร็จ”
“ได้ค่ะ” ตอบรับง่าย ๆ แล้วยืนรอห่างเขาเป็นโยชน์
พสุธานั่งรอให้เธอพูดอะไรออกมาบ้าง เห็นเอาแต่ยืนเงียบ ก็หงุดหงิดใจจนสุดท้ายโบกมือให้ออกไปเสีย แล้วตักข้าวกินต่อหลังจากนั้น แต่ก็แทบไม่รู้รสชาติเท่าไรนัก ครุ่นคิดเงียบ ๆ ที่โต๊ะอาหารในตอนนั้นเอง
ผู้หญิงคนนั้นพูดจากล่าวหาว่าเขาหัวงู แล้วยังมาทำตัวห่างเหินให้เขาโหยหาอีกด้วย
เดี๋ยวก่อน! นี่เขาโหยหาแม่นั่นอีกแล้วหรือไง
สองรอบแล้วนะที่เขาคิดว่าตัวเองโหยหาผู้หญิงคนนั้น
พสุธาส่ายหัวแรง ๆ ปฏิเสธกับตัวเองไปว่าไม่หรอก ไม่น่าจะใช่
คิดทบทวนก่อนจะวางช้อนกินข้าวลง ยกมือขึ้นประสานกัน พร้อมกับคำถามผุดขึ้นในหัว ก็แล้วตอนที่ผู้หญิงคนนั้นไม่สบาย ตอนนั้นทำไมหัวใจของเขามันต้องกระวนกระวายด้วยเล่า
อ้อ คงเพราะว่ากลัวแม่นั่นจะมานอนตายในไร่ของเขาน่ะสิ
ก็แล้วตอนที่ไปถามว่าหายหรือยัง ผู้หญิงคนนั้นทำตัวรังเกียจใส่ด้วยการขยับหนี ทำไมจะต้องหงุดหงิดด้วย
ก็เพราะเขาเกลียดคนจองหองพองขนไงเล่า
มึงกำลังแก้ตัวใช่ไหมพุธ
เสียงหนึ่งในหัวถามพร้อมกับเสียงขำขันอย่างจงใจยั่วยุ
ไม่ใช่!
มึงชอบแม่นั่นแล้วล่ะพุธ
ไม่ใช่โว้ย!
ไปดีกว่า เขาคงว่างงานมากจนคิดฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้
บอกตัวเองไปแบบนั้นแล้วก็รีบลุกหนีออกจากโต๊ะอาหารไป
คนงานในบ้านที่ยืนคอยรับคำสั่งของพสุธามีสีหน้าชอบกล เมื่อครู่นี้เจ้าของไร่เทียมพสุธาเป็นอะไร เห็นสะบัดหัวไปมาจนแทบหลุดออกจากคอ แล้วก็เอียงซ้ายทีขวาที พึมพำอะไรอยู่คนเดียวตั้งเป็นนาน ไม่ใช่ถูกเสน่ห์ของคนงานใหม่เข้าเล่นงานแล้วหรือ ต้องใช่แน่ ๆ คิดพร้อมกับได้เรื่องนินทาเรื่องใหม่ให้คนอื่น ๆ ในบ้านได้ฟังกัน
พสุธาเดินออกจากบ้าน เดินไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมายเป็นครั้งแรกของชีวิตจนไปเจอศักดิ์ ลูกน้องคนสนิทกำลังนั่งปาก้อนหินลงในสระน้ำ ก็ให้นึกขึ้นได้ว่าเขาสั่งงานอีกฝ่ายเอาไว้นี่นา แล้วเลยตรงไปสมทบกับทางนั้น ถามขึ้นว่า
“เรื่องที่กูสั่ง เรียบร้อยหรือยัง”
ศักดิ์ตอบเสียงเอื่อยเฉื่อยกลับมา “เรียบร้อยแล้วครับ ขอโทษด้วยนะครับคุณพุธ ตอนนี้ผมกำลังเครียด ถ้าทำอะไรหรือพูดอะไรไม่ดีออกไปอย่าไล่ผมออกนะครับ”
“เครียดอะไรของมึง”
พอได้ที่ระบาย ศักดิ์ก็พูดโพล่งขึ้น “ผมนะ ไม่เข้าใจผู้หญิงแม่งเลย”
“...” พสุธาเงียบรอฟังลูกน้องตัวดี ศักดิ์ทำหน้าตาบิดเบ้ราวกับเจ็บปวดหนักหนาก่อนออกปากเล่าต่อ “ชอบมาทำให้เราใจสั่น มาทำเล่น ๆ หยอก ๆ กับเรา แล้วพอเราจะเอาจริง จะเล่นด้วย แม่งก็หนีเราไปเฉย”
ได้ยินลูกน้องบ่น อดขมวดคิ้วมองไปที่มันไม่ได้
ทำไมลูกน้องตัวแสบของเขา พูดเหมือนกับมันเข้ามานั่งอยู่ในใจของเขาเลยวะ ถามด้วยความสงสัยปนระแวง
“แล้วทำไมเขาจะต้องทำแบบนั้นด้วยวะ”
ศักดิ์มองที่นายก่อนจะเผยรอยยิ้มแบบซังกะตาย “คุณพุธไม่ต้องช่วยอินกับผมขนาดนั้นหรอกครับ”
“กูไม่ได้อิน” พสุธาบอกอย่างหงุดหงิด ถามต่อด้วยความอยากรู้ “แล้วสรุปว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องทำแบบนั้นด้วยเล่า”
“บางทีเขาอาจจะลองใจเราอยู่ ผมว่า ผมจะบอกเธอคนนั้นไปตามตรงเลยดีกว่าว่าผมชอบเธอ”
เขามองลูกน้องตัวดีด้วยสายตาสงสัย
“แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่ามึงชอบเขา”