EP.04 ลองชุด

1056 คำ
EP.04 หลังจากที่ได้ลองชุดเรียบร้อยแล้วผู้กำกับหนุ่มใหญ่จึงเรียกตัวนักแสดงให้มาลองเล่นบทบาทของแต่ละคนและถ่ายภาพเพื่อโปรโมตละคร ปรากฏว่าการทำงานในวันนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยที่บรรดาทีมงานและนักแสดงทุกคนต่างทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสมัครสามัคคีกันดี โดยเฉพาะนิรัชฌาที่สามารถเข้ากับทุกคนได้ง่ายประกอบกับเธอเป็นคนที่มีอัธยาศรัยดีไม่ถือตัวทุกคนจึงรักและให้เกียรติเธอเสมอ จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ยอมจะสุงสิงกับใครและคอยจะแขวะคนโน้นทีคนนี้ที ซึ่งการกระทำนี้มันเป็นนิสัยติดตัวหล่อนมาตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นผลจึงออกมาโดยที่ไม่มีใครจะพูดคุยและคบกับเธอเลยสักคน เธอคนนั้นคือ ดารารัตน์ แม่นางแบบสาวสุดเซ็กซี่หรือตอนนี้ได้พลิกบทบาทมาเป็นนางเอกของละครเรื่องนี้นั่นเอง โดยละครฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ต่างก็ตกลงกันว่าจะยกกองถ่ายขึ้นเหนือไปถ่ายทำกันที่เรือนไทยของทัศทระนง บ้านหลังนี้คือมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าของเขา โดยที่เขาเคยไปพักที่นั่นเพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น เพราะเนื้อเรื่องในละครที่กำลังจะสร้างมีฉากที่จะต้องใช้เรือนไทยเป็นธีมหลัก ดังนั้นเขาจึงเสนอบ้านของเขาเสียเองเพื่อจะได้ไม่ต้องเปลืองงบในการเช่าบ้าน ซึ่งสุรชัยผู้กำกับหนุ่มใหญ่ก็เห็นด้วยในทันทีและรับไว้คล้ายมีบางอย่างมาดลใจให้เขาสนใจและขวนขวายที่จะไปที่นั่น ดารารัตน์เดินเชิดหน้าเข้ามากอดแขนของสุรชัยอีกครั้ง “คุณชัยคะ แล้วพระเอกล่ะคะใครกันเอ่ย” ถามด้วยความอยากรู้แฝงไว้ด้วยมารยาชนิดหนึ่ง “เอาไว้เซอร์ไพรส์ครับคุณดาด้า ในงานบวงสรวงผมจะได้เปิดตัวเขาให้สื่อมวลชน จะเป็นใครนั้นอีกสองวันคุณดาด้าก็รู้เองครับ” ต้นโพธิ์สูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในวัดแผ่กิ่งก้านสาขาอันร่มครึ้ม นกน้อยใหญ่สารพัดชนิดที่อาศัยอยู่บนต้นโพธิ์ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวเมื่อพากันออกหากินในตอนเช้าเช่นทุกวัน เสียงมอเตอร์ไซต์ดังขึ้นที่หน้าวัด เด็กวัดก้นกุฏิสี่ห้าคนที่กำลังกวาดลานวัดอย่างขะมักเขม้นพากันหันไปมองกันจนตาโต เพราะเด็กวัดบ้านนอกบ้านป่าน้อยครั้งนักที่จะได้เห็นรถมอเตอร์ไซต์รุ่นใหม่เข้ามาสักครั้ง รถจอดสนิทใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ ขณะที่เด็กวัดพวกนั้นพากันมาล้อมหน้าล้อมหลังด้วยความสนใจ “โห สวยจัง” “รุ่นใหม่ซะด้วย ข้าเพิ่งเห็นออกทีวีที่บ้านลุงผู้ใหญ่เมื่อวานนี้เอง” เสียงเด็กวัดต่างเอ็ดตะโรกันตามประสา ส่วนมือนั้นก็ลูบไล้บนผิวรถกันด้วยอาการที่ตื่นเต้น “เบาๆ หน่อยก็ได้เดี๋ยวสีรถของพี่ก็ซีดหมดหรอก พากันขูดยังกับหาเลขเลยนะ” เสียงนุ่มทุ้มดังออกมาจากเจ้าของเสียงที่สวมหมวกกันน็อคอยู่ ชายหนุ่มคนนั้นอยู่ในชุดที่ทะมัดทะแมงเสื้อยืดสีดำสนิทคลุมทับด้วยเสื้อยีนต์แขนยาวเข้ากับกางเกงยีนสีเดียวกัน เมื่อเขาถอดหมวกกันน็อคออก ใบหน้าคมเข้มก็ปรากฏต่อสายตาของเหล่าศิษย์วัดทั้งหลายให้ต้องร้องออกมาพร้อมกัน “พี่เข้ม” “ก็พี่นะสิ จะใครซะอีกวะ” ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มสมกับชื่อเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ยิ้มให้กับเด็กรุ่นน้องที่ต่างดีใจกันสุดขีด “ดีใจจัง พี่เข้มมาแล้ว” เปี๊ยก เด็กวัดตัวน้อยวัยแปดขวบซึ่งตัวเล็กกว่าใครเพื่อนกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ ชายหนุ่มเข้าไปรับขึ้นมาอุ้มอย่างเอ็นดู “เป็นไงบ้างไอ้เปี๊ยก โตขึ้นเยอะเลยนะ” เขาทักทายเด็กทุกคนที่รายล้อมอย่างดีใจ เด็กทุกคนเป็นเด็กวัดที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความยากลำบาก พ่อแม่ยากจนจึงพาเอามาฝากกับวัด เพราะหมดหนทางเลี้ยงดู ส่วนเจ้าเปี๊ยกเด็กน้อยที่เขาอุ้มอยู่นี้ กลับมีอดีตที่แตกต่างกับชีวิตอีกหลายชีวิตในที่นี้ เพราะเด็กคนนี้เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่เป็นใคร มาจากที่ไหน ชีวิตตั้งแต่เกิดมาจนปัจจุบันมันจึงมีเพียงหลวงตาบุญที่โอบอุ้มอุปการะมันเอาไว้ เข้มเป็นเด็กบ้านป่าไม่รู้แม้กระทั่งพ่อแม่เป็นใคร ไม่เคยเห็นหน้าตา เขาถูกทิ้งไว้ในป่า เมื่อครั้งที่หลวงตาออกธุดงค์ไปแถวป่า ในจังหวัดเชียงใหม่ท่านจึงรับอุปการะเลี้ยงดูจนเติบโต จนคุณนายขนิษฐามารดาเลี้ยงของเขาได้ขอไปเลี้ยงด้วยเพราะท่านไม่มีบุตร “หลวงตาล่ะเจ้าเปี๊ยก ท่านอยู่ไหน” “อยู่บนกุฏิครับ พี่เข้ม” ตัวกุฏิเป็นไม้ทั้งหมด ใต้ถุนสูง ด้านบนเป็นห้องโล่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งเป็นประธานอยู่ด้านใน ตั้งแท่นธูปเทียนบูชา บรรยากาศร่มเย็น เงียบสงบ ไม่มีผู้คนพลุกพล่านเหมือนในเมือง ถัดออกไปทางด้านข้างเป็นห้องต่างๆ ซึ่งเป็นที่พำนักของพระคุณเจ้า เจ้าเปี๊ยกอาสาไปรายงานเรื่องของเขาให้ท่านทราบ ชายหนุ่มก้มลงกราบองค์พระประธานด้วยศรัทธาเหมือนเช่นที่เคยทำ ครั้งนี้เขาได้กลับบ้านอีกครั้งแล้ว กระแสความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านมาในอณูอากาศ ในขณะที่เข้มกราบพระเสร็จเงยหน้าขึ้นมา ความปีติก่อเกิดมาจากหัวใจ เมื่อเห็นจีวรเหลืองๆ ลอยมาพร้อมกับภิกษุชรารูปหนึ่ง “หลวงตา” ชายหนุ่มก้มลงกราบท่าน ขณะที่ท่านนั่งอยู่บนอาสนะเรียบร้อยแล้ว ท่านยิ้มที่มุมปากอย่างเมตตา จ้องมาทางชายหนุ่มที่ก้มกราบอยู่เบื้องหน้า “หลวงตาสบายดีนะครับ” เขาถามอย่างเป็นห่วง “ข้าสบายดี แล้วถ้าไม่สบายจะมานั่งให้เอ็งเห็นเรอะไอ้เข้ม” หลวงตาท่านยังพูดจาโผงผางเหมือนเดิม เข้มมองหน้าท่าน เขาสัมผัสกระแสแห่งความเมตตาที่แผ่ออกมา “ผมมาเยี่ยมครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม