กลิ่นแก้วบุษยา

EP.11 ผีด้ำ

EP.11

เข้มได้มาที่โรงพยาบาล ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เขามาธุระในครั้งนี้ก็เพื่อมาส่งเด็กวัดคนหนึ่งที่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้เด็กคนนั้นปลอดภัยแล้ว นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย สายน้ำเกลือห้อยระโยงระยาง ขณะที่เข้มรีบกลับวัดเพื่อเอาเสื้อผ้ามาผลัดเปลี่ยนให้กับเด็กวัดรุ่นน้อง

หมอบอกว่าเด็กคนนี้เป็นโรคกระเพาะ เนื่องด้วยกินอาหารไม่ตรงเวลา ทางโรงพยาบาลจึงอยากจะให้เด็กน้อยนอนพักดูอาการสักคืน

ชายหนุ่มเดินมาตามทางเท้าฟุตปาธอย่างร้อนรน ในใจคิดเป็นห่วงเจ้าเปี๊ยกเป็นอย่างมาก ถึงหมอจะบอกว่าปลอดภัยแล้วก็เถอะ เขาก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี กลัวไปทุกอย่าง กลัวว่าเด็กน้อยจะเป็นอะไรไปมากกว่านั้น

ด้วยความรีบร้อนหรือวิบากกรรมของเขาแต่หนหลังกำลังจะตามทันก็หารู้ได้ไม่ จึงทำให้เขารีบเร่งข้ามถนนไปโดยไม่ทันดูรถที่วิ่งสวนมา รถกระบะสองตอนกลางเก่ากลางใหม่ บีบแตรเสียงดังลั่น ขณะที่คนขับเหยียบเบรกจนมิด

เอี๊ยด ด ด

ชายหนุ่มตกใจยืนตะลึงอยู่กลางถนน ขณะที่รถกระบะคันนั้นพุ่งตรงเข้าสู่เป้ากลางถนนโดยที่คนขับรถไม่สามารถที่จะบังคับรถไปทางอื่นได้ทัน

โครม ม ม ม

ร่างของชายหนุ่มปลิวขึ้นสู่อากาศตามแรงชนของรถ ขณะนั้นสติที่เหลืออยู่ก็พลันดับวูบไป ก่อนที่ร่างจะตกกระแทกลงสู่พื้น เลือดสีแดงฉานไหลนองเต็มพื้นถนน

โอ้อนิจจา ชายหนุ่มไม่ทันแม้แต่จะเห็นใบหน้าของคนขับรถ เจ้าของรถก็รีบบึ่งรถจากไปด้วยความกลัวความผิดที่จะตามมา โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมในความเป็นเพื่อนมนุษย์ จอดรถมาช่วยผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ผู้คนอยู่ในอาการตกตะลึงไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะมีใครคนหนึ่งมีสติกว่าใครเพื่อนรีบเข้ามาช่วยพยุงร่างที่นอนอยู่กลางถนนพาส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ นั้นในทันที

ภิกษุชราลืมตาขึ้นในเวลานั้น ในนิมิตที่ท่านเห็นมันเด่นชัด ศิษย์รักของท่านกำลังเผชิญเคราะห์กรรมโดยไม่อาจจะหลีกพ้นได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย แต่มันคือการเริ่มต้นในการใช้หนี้กรรมที่ยากจะสิ้นสุด

หลวงตาบุญมองออกไปนอกโบสถ์อย่างไร้จุดหมาย แววตาเลื่อนลอย นานเท่านานก่อนที่หยาดน้ำตาจะไหลเอ่อล้นออกมาทั้งสองข้าง หนี้กรรมหรือชะตาลิขิตกันแน่ที่ทำให้เป็นไปเช่นนั้น ท่ามกลางสายตาของภิกษุชราที่มองออกไปนั้นได้ปรากฏเด็กวัดคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบตรงมาที่โบสถ์หลังเก่าด้วยใจที่ร้อนรน แววตาและท่าทีอันเร่งรีบนั้นบอกให้ท่านรู้ได้ว่าไม่นานจากนี้เรื่องราวที่ท่านประสบพบเห็นในนิมิตกำลังจะกลายเป็นความจริงในมิช้า

“หลวงตาครับ หลวงตา” เด็กน้อยวัยสิบขวบรีบวิ่งเข้ามาภายในโบสถ์ก่อนจะคุกเข่าก้มลงกราบพระประธานและท่าน ก่อนจะรีบรายงานข่าวกับหลวงตาเสียงรัวเร็ว

“หลวงตาครับ พี่ พี่เข้มถูกรถชนครับ ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องไอซียู” หลวงตายิ้มรับอย่างเมตตา ท่าทางของท่านสงบสุขุม เยือกเย็น หาได้แสดงความกลัวกังวลออกมาไม่

“ข้ารู้แล้ว เอ็งไม่ต้องตกใจมากหรอก ไอ้เข้มมันเป็นคนดวงแข็งมันไม่เป็นอะไรหรอก” หลวงตาเน้นน้ำเสียงอย่างสงบ พยายามไม่แสดงกิริยาที่กังวลออกมา

“เอ็งช่วยไปตามโยมคำมาหาข้าเดี๋ยวนี้ ไป้” เด็กน้อยรับคำก่อนจะรีบออกไปตามคำของหลวงตาในทันที

ภิกษุชราหลับตาลงอีกครั้งสำรวมจิตเข้าสู่ห้วงสมาธิ รวบรวมบุญกุศลที่ตนสั่งสมไว้ช่วยแผ่เมตตาไปช่วยศิษย์รักที่ขณะนี้ดวงจิตกำลังว้าวุ่นไร้หนทางออกจากบ่วงกรรม

งานบวงสรวงละครเรื่องใหม่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ที่ลานหน้าบริษัทของสุรชัย ในงานเต็มไปด้วยบรรดาดารานักแสดงอีกมากมาย อีกทั้งสื่อสารมวลชนจากค่ายต่างๆ ที่เตรียมตัวมาทำข่าวและสัมภาษณ์ดารานักแสดงที่มาเล่นละครเรื่องนี้

ในเวลาเก้าโมงเก้านาทีเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะได้เริ่มพิธีบวงสรวงเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกทั่วหัวระแหง บนปะรำพิธีตั้งโต๊ะตัวใหญ่เต็มไปด้วยเครื่องเซ่นสังเวย ทั้งหัวหมูต้ม ไก่ต้ม ไข่ต้ม และผลไม้หลากหลายชนิดที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ

นักแสดงและทีมงานพากันมาจนครบกันหมดทุกคนจะมีคนเดียวเท่านั้นคือนางเอกของเรื่องอย่าง ดารารัตน์ เพราะเธอต้องเดินทางเพื่อไปเยี่ยมน้องสาวที่ต่างจังหวัด แต่งานนี้ถ้าขาดดารารัตน์สักคนก็ไม่เป็นไรเพราะบทบาทที่เด่นในเรื่องนี้ไม่ใช่นางเอกแต่เป็นนางร้าย อย่างนิรัชฌา

พิธีเริ่มขึ้นอย่างราบเรียบ ไม่มีอุปสรรคอะไร ควันธูปลอยคละคลุ้งทั่วลานพิธี เสียงพราหมณ์สาธยายคำโองการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กระหึ่มไปทั่วงาน เหล่าดารานักแสดงและทีมงานทั้งหลายต่างเงียบฟังอย่างตั้งใจ จึงยิ่งทำให้บริเวณนั้นยิ่งดูเข้มขลังมากยิ่งขึ้น

งานพิธีเสร็จสิ้นไปแล้ว

นักแสดงหลายคนต่างแยกย้ายกันกลับ บางคนมีคิวแสดงต่อของอีกเรื่อง บางคนต้องไปธุระต่อและบางคนก็กลับบ้านไปพักผ่อน นิรัชฌาและกรวิชญ์พระเอกหนุ่มคนใหม่ถูกรุมล้อมด้วยนักข่าวที่พากันมาสัมภาษณ์ ทั้งสองคนในวันนี้เป็นจุดเด่นที่สุดของงานก็ว่าได้

เมื่อเห็นดาราหนุ่มสาวในสังกัดมีแต่นักข่าวรุมล้อม สุรชัยก็ออกมายืนยิ้มแป้นอยู่ห่างๆ เฝ้านึกวาดฝันถึงรายได้และ เรตติ้งที่กระฉูดพุ่งแรงแซงละครอีกหลายเรื่องที่ออนแอร์อยู่ในช่วงเดียวกัน เพราะดารานักแสดงนำของเรื่องทั้งสองกำลังเป็นขวัญใจของประชาชนทั่วประเทศ

ทั้งสองเป็นดาราแถวหน้าในวงการบันเทิงไม่แพ้อีกหลายคน โดยเฉพาะกรวิชญ์ที่กำลังพุ่งแรงแซงรุ่นพี่อีกหลายคนเข้ามาแบบไม่ยั้ง เขาได้เข้ามาในวงการบันเทิงเมื่อไม่นานมานี้โดยผ่านเวทีการประกวดของปีที่ผ่านมา

หลังจากที่ได้สัมภาษณ์นักแสดงนำทั้งสองจนเต็มที่เหล่าผู้สื่อข่าวจึงยอมให้ทั้งสองได้ปลีกตัวออกมา สุรชัยจึงได้ดึงตัวของทั้งสองออกมาเลี้ยงฉลองล่วงหน้า โดยมีทัศทระนงและดีไซเนอร์อย่างเจซี่ติดตามไปด้วย

ร้านอาหารภายในโรงแรมชื่อดัง ทั้งห้าชีวิตได้สั่งอาหารกันมาจนเต็มโต๊ะ และทานกันอย่างสนุกปากอิ่มท้องกันทั่วหน้า กรวิชญ์หันมาทางสุรชัยกล่าวขอบคุณเขาเป็นการใหญ่

“เจซี่ว่า ละครเรื่องนี้มีหวังเรตติ้งกระฉูดแน่เลยค่า”

ดีไซเนอร์กระเทยสาวจีบปากจีบคอพูดขึ้น ถึงแม้คุณเธอจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการจัดการใดๆ มากนัก แต่ก็ขอตามไปด้วยในฐานะดูแลเรื่องเสื้อผ้าและชุดแสงต่างๆ เพราะแต่ละชุดนั้นราคาก็แพงแสนแพง ดังนั้นคุณเธอจึงหาเรื่องที่จะตามไปดูแลชุดในอาณัติของตนเองได้ในที่สุด

“ขอบคุณครับคุณเจซี่ที่อุตส่าห์เข้ามาช่วยงานในครั้งนี้” สุรชัยกล่าวขอบคุณ กระเทยสาวอมยิ้มก่อนจะพูดอีกว่า

“ไม่เป็นไรค่ะคุณชัยขา ถึงแม้จะไม่ใช่งานของเจซี่โดยตรง แต่เจซี่เต็มใจช่วยค่ะ เพราะคุณสุรชัยและเจซี่ก็รู้จักกันมานาน ร่วมงานกันก็หลายครั้ง แถมครั้งนี้คุณยังใช้บริการบรรดาเสื้อผ้าของเจซี่อีก ดอฉันภูมิใจ้ภูมิใจค่ะ”

“ยินดีต้อนรับคุณกรวิชญ์เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้นะครับ”

“ฮะ ผมก็ดีใจที่ได้มาร่วมงานกับพี่สุรชัย คุณทัศทระนงและคุณนิรัชฌาด้วยครับ” ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมสัน มองมาทางหญิงสาวอย่างชื่นชม หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มยิ้มทำท่าเขินอายเมื่อเจอคำหวานและสายตาที่เขาส่งมาให้

“เจซี่ด้วยซิคะ คุณกรวิชญ์” เจซี่แทรกขึ้นในที่สุด

“นิก็ยินดีค่ะ ที่ได้ร่วมงานกับคุณกรวิชญ์” หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงอ่อนหวาน

วงสนทนายังคงดำเนินต่อไปจนช่วงหนึ่งทัศทระนงได้หันมาทางหญิงสาวคนเดียวภายในกลุ่ม เขาได้เอ่ยขึ้นเป็นเชิงขอร้องกับนิรัชฌา

“เอ่อ คุณนิรัชฌาครับ”

“เรียกนิเฉยๆ ก็ได้ค่ะ คนกันเองทั้งนั้น” นิรัชฌาเอ่ยแทรกขึ้น เธอชอบเป็นคนกันเองมากกว่าจะต้องมาสร้างภาพเป็นผู้ดี ซึ่งนิสัยของนางเอกสาวคนนี้ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว

“ครับ คุณนิ คือผมมีเรื่องขอร้องคุณสักเรื่องสองเรื่องจะได้มั้ยครับ”

“ว่าแต่ เรื่องอะไรคะ ที่คุณทัศทระนงจะให้นิช่วย” ในแววตาคู่สวยนั้นก่อเกิดคำถามอีกมากมาย

“คืองี้ครับ ในฐานะที่คุณนิเป็นตัวแสดงเอกของเรื่อง” เขาเกริ่นนำเพื่อให้หญิงสาวและทุกๆ คนที่ตั้งหน้าตั้งตาฟังได้เข้าใจ “กองถ่ายของเราเรื่องนี้ได้ยกไปถ่ายทำกันถึงที่บ้านเกิดของผม ซึ่งผมอยากจะบอกทุกๆ คนว่าตระกูลของผมมีเชื้อสายมาจากเมืองเชียงตุง ตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าจะมีประเพณีหนึ่งที่จะจัดมาตลอดคือการรำบูชาผีด้ำ และในงานบวงสรวงในวันนั้นผมอยากจะให้คุณนิรำเพื่อบูชาผีด้ำให้ด้วยครับ”

“ผีด้ำ”