ตอนที่ 12 : แค่คนหน้าคล้าย

1778 คำ
หลังจากทริปเขาใหญ่ จบพวกเราก็กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม คือพี่ไม้ยังคงไปส่งฉันที่บ้าน เกือบทุกวัน และคอยรายงานตัวให้ทราบอยู่ตลอดเวลา ว่าไปไหน ทำอะไรต่อ… แต่อาการที่หนักกว่า คือตัวฉันเองนี่หละ ที่คลั่งรักไม่ไหว ตอนนี้ในสายตาของฉันมันมีไว้มองแค่ผู้ชายคนเดียวเท่านั้น ไม่เคยได้รับความสุขเท่านี้มาก่อนเลยจากพ่อแม่ หรือเพื่อนก็ตามการเป็นคนที่ถูกรักมันดีแบบนี้นี่เอง ยิ่งเรามีอะไรกันแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกผูกพันกับแฟนมากขึ้น เดินด้วยกัน ไหล่เกยกันตลอดเวลา คนมองจากทางที่ไกล ๆ ก็คงจะดูออกว่าไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วแน่ ๆ จะให้ทำไงได้ คนแรก รักแรก และอะไรทุกอย่างก็ใช่ไปหมด แฟนก็หล่อมากซะด้วยซิ! ------------------------- ณ มหาวิทยาลัย T “นี่ไง มันมาแล้ว โผล่หัวมาได้ซักทีนะ!” ยัยตาต้า ตะโกนเสียงดัง ทักมาแต่ไกล “อะไร!?!?” เสียงดังโหวกเหวกมากตรงนี้ "พราว ถามจริง ถ้าไม่มีเช็คชื่อวันนี้ แกจะเข้ามาไหมเนี่ย?” เสียงแทนใจถามด้วยความเป็นห่วง เข้าใจหละเพราะตั้งแต่เล่าให้กลุ่มเพื่อนฟัง เรื่องทริปเขาใหญ่ที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากเจอกันคราวนั้น ฉันก็ไม่ค่อยได้เข้าเรียนวิชา เดียวกับแทนใจเท่าไหร่ มัวแต่ไปขลุกอยู่กับพี่ไม้ ที่คณะบ้าง ที่คอนโดบ้าง พึ่งจะมีวันนี้ที่มันโทรจิกให้มา เพราะอาจารย์ต้องแจกแจงงานแบ่งกลุ่มไม่งั้นไม่เห็นหัวฉันแน่นอน “ก็ถ้าไม่มีอะไรก็คงไม่เข้าอะ” ทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อนรัก ;p “ให้มันน้อย ๆ หน่อย หลังจากกินกันแล้ว เสียผู้เสียคนไม่ได้นะ ขอเตือน” ตัวแม่ประจำกลุ่มอย่างแอนนี่ถึงกับออกปากทัก “อ่าว… แกไปเรียนกับพี่เขาเหรอ หรือว่าไม่เรียนกันทั้งคู่” เมลนาน ๆ จะพูดทีก็ยังตั้งคำถามเลย “ป่าว ๆ มาเรียนละ แต่ไม่เข้าแค่นั้น อยู่แถวนี้” “อย่าให้มันมากเกินไป พราวแกดูหลงเขามากนะ” เพื่อนอย่างแอนนี่มองตาฉันอย่างจริงจัง เหมือนมีแม่อีกคนเลยให้ตายเถอะ! “ขอพูดหน่อยเถอะ ความรัก มันดีเว้ย… แต่แกต้องเผื่อใจไว้บ้างนะ อย่าพึ่งไปทุ่มสุดตัว ชีวิตแกต้องเรียนหนังสือก่อน ฉันเป็นห่วงแกมากนะพราว แกเล่นไม่เข้าเรียน ฉันรู้ว่าแกมาเรียน แกเรียนดี แต่แกก็ต้องมีเวลาเข้าเรียน เพื่อเก็บคะแนนเข้าสอบอีกนะ อย่าปล่อยให้ความรัก มันทำให้เราหลงลืมสิ่งสำคัญไปซิ ถ้ารักกันแล้วต้องพากันไปทางที่ดี เข้าใจไหมพราว” ยัยแทนใจร่ายยาวมากด้วยความที่มันเป็นคนเรียบร้อยที่สุดในกลุ่มนี้ คำพูดคำจามันเลยวิชาการนิดนึง “เข้าใจแล้ว ค่ะ คุณแม่ แม่ ทั้งหลาย” ตอบรับพวกมันไปก่อน ฉันไม่โกรธเพื่อนหรอกนะที่พวกมันพูดกับฉันแบบนี้ เพราะรู้ว่าจริง ๆ แล้วพวกมันเป็นห่วงฉันมาก “วันนี้จะเข้าเรียนทุกวิชา ตั้งใจเรียน เสร็จแล้วก็ไปตี้ชาบูกัน โอเคไหม?” “เยี่ยมค่ะ! งั้นเย็นนี้เราไปกินที่ร้านหน้ามอแล้วกัน” เมลคือตัวตั้งตัวตีตลอด ถ้าเป็นเรื่องของกินยกให้เลย “ยี่หว่า ไม่อยู่เหรอ ไม่ชวนมันไปด้วยกันอะ” ตาต้าถามขึ้นมากลางวง “แชต ถามมันเลย” “โอ๊ะ มันตอบว่าไม่ว่าง วันนี้มันไปกับคู่หมั้นมันวะ” เย็นนี้เลยเหลือแค่เรา 5 สาวออกไปกินชาบูกันอย่างเฮฮา บุฟเฟ่ต์จัดเต็ม กว่าจะได้ทานก็ปาเข้าไปตอนสองทุ่มแล้ว ไม่ได้ออกมาสังสรรค์กับเพื่อน ๆ เลยตั้งแต่ติดแฟน วันนี้พี่ไม้บอกกว่ามีเตะบอลกับเพื่อนที่คณะ เลิกค่ำ ฉันเลยแยกกลับเองไม่ย้อนกลับไปรอที่มหาลัยอีก ------------------------------ Line Chat ตึง ตึง ตึง~ เสียงแชต ไลน์กลุ่ม (หอยหลอด) Whawah: พวกแกยังอยู่แถว หน้า มอ ป่าวว Whawah: พราวอยู่ด้วยไหม? Whawah: @PPRAW แกกลับบ้านไปยัง? TANjai: @Whawah ยังนะ พึ่งได้กินกันเองคิวเยอะ ว่าไง จะตามมาไหม? Whawah: ไอ้พราวก็ยังอยู่ที่ร้านเหรอ? TANjai: @all ใช่อยู่ครบเลยยกเว้นหว่าไง Whawah: @PPRAW แฟนแกอยู่ไหนวะ พอดีฉันเจอพี่ไม้ที่มออยู่เลย ไม่ได้มารับแกเหรอ… o_O” PPRAW: ป่าว ๆ วันนี้ อิสระเดย์ แยกกัน ทำไมมีไรป่าว ถามถึงทำไมวะ???? Whawah: จะว่ามีมันก็มีนะ DATATA: @Whawah โอ้ยไม่มา...แล้วมาพูดเกริ่นทิ้งไว้ นิสัย ;( Annie: อยากเสือกเลยพิมพ์มาตอนนี้ได้ไหม! @Whawah Whawah: เอาเป็นว่า...เดี๋ยวค่อยคุยคืนนี้ละกัน กินข้าวก่อนไว้เมาส์กันยะเดี๋ยวกินไม่อร่อย Whawah: @PPRAW ทำไรเสร็จแล้วคอลมาหน่อยดิ คิดถึงอยากคุยกับเพื่อน :) DATATA: กินไม่อร่อยแล้วค่ะ ต่อมเผือกทำงาน @Annie Email: รวมสายเลยตอนนี้ได้ไหมวิดีโอคอล Whawah: @All รีบ ๆ กินเถอะยะ เดี๋ยวเวลาหมด... :p PPRAW: @Whawah OK รู้เรื่องค่ะ! ... ถึงบ้าน หลังอาบน้ำทำอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็กลับมาเช็คโทรศัพท์ มีสายไม่ได้รับของพี่ไม้ 2 สาย แต่พอโทรกลับไปตอนนี้กลับไม่รับสาย พึ่งจะสี่ทุ่มครึ่งเอง ว่างแล้วก็เลยคอล Line ไปหายี่หว่าสักหน่อย มีอะไรอัปเดตบ้าง… รอสักพัก นางก็กดรับสายด้วยเสียงค่อนข้างจริงจังจนฉันแปลกใจ “(ฮัลโหล พราวทำไรเสร็จแล้วเหรอ คุยได้นานไหม?)” “คุยได้ พอดีพี่ไม้ไม่รับสายว่างอยู่ มีเวลาให้แกเต็มที่ จะเมาส์อะไรยะ ถ้าจะอวดผัวไม่ต้องนะ รำ” “(ไม่มีผัวให้อวดยะ แค่คู่หมั้นโว๊ย ไม่ใช่ผัว)” “(เข้าเรื่องก่อน แกกับพี่ไม้ คบกันมีปัญหาอะไรบ้างป่าว?)” “ปัญหาอะไรวะ ไม่มีนะ แฮปปี้มากกกก” “(เหรอ… พี่เขาดีกับแกป่าวช่วงนี้ เจอกันบ่อยใช่ไหม?)” “ก็ดีนะ ทำไมวะ แปลก ๆ มีอะไร ถึงถามแบบนี้” “(ไม่อยากจะเสือก แต่ก็ต้องเสือก ไม่เชื่อไม่เป็นไร)” “อ่าว มีอะไรก็พูดมา เวิ่นอะไรของแกเนี่ย” “(วันนี้ฉันไปหาไอ้นั่นมา แล้วเจอแฟนแกที่สนามบอลฝั่งวิศวะ)” “ไอ้นั่นคือใคร? ผัวแก?” “(คือคู่หมั้นฉันนี่ละ อยู่วิศวะ เรียกไอ้นั่นนะ ไม่อยากเอ่ยชื่อ)” “อือหึ แล้ว…ยังไงอะ?” “(แกก็รู้ว่าฉันปิดเรื่องหมั้นเป็นความลับ ไม่ได้บอกใคร มีเรื่องฉุกเฉินจำเป็นต้องไปที่นั่นวันนี้ ต้องเอาของจำเป็นไปให้ก่อนที่จะไปเจอครอบครัวฉันไง และทีนี้… ฉันเลยต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากเด็กคณะนั้นเหมือนกัน มายืนแอบหลบมุมอยู่ตรงใกล้ลานจอดรถของสนามใช่มะ มันก็จะมีพวกผู้หญิง แวะเวียนเดินมาส่องหนุ่มคณะนี้อยู่แล้ว ฉันเลยเลือกที่จะเดินย้อนออกมารอที่ลานจอดรถ ตอนเลิกแข่งช่วงเกือบสามทุ่มได้ เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่า ใครเดินมาขึ้นรถ ฉันเลยต้องรอจนกว่าคนจะออกไปกันเกือบหมด ก็เลยได้เห็นช็อตเด็ด แล้วแฟนแกบอกไหมว่าไปทำอะไรที่ไหน ต่อ?)” “อ่อ พี่ไม้บอกว่าไปเตะบอลกับเพื่อนที่คณะ ไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้ มะกี้ก็โทรมาแต่ฉันไม่ได้รับสายอะ” “(อืมมมม แล้วแกรู้ไหมว่าฉันเห็นอะไร… ฉันเห็นแฟนแก เดินออกมาที่ลานจอดรถ กับผู้หญิงผมสั้น)” “ฮ่ะ! ใช่แน่เหรอ?” “(พราว ฟังนะ ฉันเห็นเต็มสองตาที่ลานจอดรถ)” “แกจำผิดคนรึป่าว แกเห็นรถ (พราว) /เห็นหน้า (ยี่หว่า)” “(ฉันส่งรูปให้แกดูแล้วในแชต ดูเอง!)” “แกไม่มีรูปชัดกว่านี้แล้วเหรอ นี่มันข้างหลัง และมันก็มืดมากเห็นป้ายทะเบียนรถไหม” “(ไม่ใช่ รถพี่ไม้ คันสีดำหรอก ฉันว่าเป็นรถผู้หญิง)” “(พราวฉันไม่ได้ขอให้แกเชื่อหรอกนะ แค่แกเป็นเพื่อนฉันมันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเพื่อนหวังดีกับเพื่อนเสมอ เอาเป็นว่าฟังหูไว้หู แล้วเก็บไปพิจารณาเอาเองแล้วกัน เล่าตามที่เห็นวะ!)” “….” “(เงียบทำไม แกเชื่อรึป่าวถามจริง?)” “ไม่รู้วะ แค่ช็อก” ตามจริงฉันรู้สึกไม่เชื่อสิ่งที่ยี่หว่าพูดเลยซักนิดนะ เพราะอะไรนะเหรอ? เพราะว่าพี่ไม้ดีกับฉันมาก ไม่มีช่องว่างให้เราห่างกันด้วยซ้ำ มือถือ พาสเวิร์ด ทุกอย่าง ฉันรู้หมด มันจะเอาเวลาที่ไหนไปนอกใจ ฉันไม่เคยรู้สึกขาดความรักความอบอุ่น หรือมีเรื่องระเคะระคายใจเลย “แค่คนหน้าคล้ายรึป่าว? ไม่ได้ไม่เชื่อนะ ขอคุยกับพี่ไม้คืนนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เล่าให้ฟังอีกที แค่นี้ก่อนนะแก” “(โอเคบาย ห้ามโกรธกัน มีอะไรพูดตรง ๆ โอเคไหม!)” รู้หละว่ายี่หว่ากลัวว่าฉันไม่เชื่อเลยพูดแบบนี้ แต่ฉันก็จะไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปนะ “ไม่โกรธ ขอบใจที่บอกนะ บายฝันดีแก” หลังจากวางสายยี่หว่าได้สักพัก ประมาณเที่ยงคืนกว่า ๆ พี่ไม้ก็ไลน์มาบอกว่าถึงบ้านแล้ว นอนทำใจคิดอยู่นาน ว่าจะโทรกลับไปดีไหม… หรือแกล้งหลับไปเลย แต่จิตใจมันว้าวุ่นมาก เลยตัดสินใจโทรคุยดีกว่า พี่เขาบอกว่าวันนี้เลิกประมาณสามสี่ทุ่มได้ เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวต้ม รวมแก็งกันหลายคนเลยกินเบียร์ต่อยาว พึ่งจะถึงบ้าน เห็นว่าที่ไม่ได้รับสาย เพราะเผลอปิดเสียงไว้ตั้งแต่เตะบอล เอาเป็นว่าฉันเลือกเชื่อแฟนกว่า 80% เหตุผลจากระยะเวลา ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกหรือน่าสงสัย รวมถึงเรื่องรถ แฟนฉันบอกว่าเพื่อนมาส่งเพราะรถจอดไว้ที่ตึกคณะขี้เกียจ วนรถกลับมาอีกรอบเลยไปกลับพร้อมกับเพื่อน แต่อีก 20% ในใจ… ฉันก็แอบเซฟรูปนั้นเก็บไว้เหมือนกัน…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม