Ep2 (3) by...kanokrot

2132 คำ
สิริสรยืนมองผักสดตรงหน้าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรกับมันดี เลยใช้ปลายมีดในมือเขี่ยผักเหล่านั้นเล่นอย่างสบายอารมณ์มากกว่าเป็นทุกข์ร้อนใจ เธอบอกเขาแล้วว่าเธอทำอาหารไม่เป็น เขาอยากดึงดันบังคับให้เธอทำเองนี่นา ปล่อยให้เขาหิ้วท้องรอจนหิวตายไปเลยยิ่งดี “สรุปวันนี้ผมจะได้ทานอาหารฝีมือคุณหรือเปล่าล่ะนั่น...”  เจ้าของห้องชุดสุดหรูชะโงกใบหน้าคมคายผ่านประตูห้องครัวเข้ามารอดูผลงาน ก่อนหัวคิ้วเข้มจะเลิกขึ้นสูง เมื่อบรรดาเครื่องปรุงต่างๆนาๆที่เขาหยิบวางส่งให้เจ้าหล่อนจัดการ ทุกอย่างยังไม่ถูกแปรสภาพเป็นอาหารสักอย่างเลย มันยังคงนอนแอ้งแม้งสภาพเดิมอยู่ทุกชิ้น “เฮ้อ!...ผมไม่น่าหวังอะไรจากตัวคุณได้จริงๆสินะ” อสุเรศถอนหายใจเสียงดังเพื่อต้องการให้หญิงสาวได้ยินด้วยนั่นเอง... “แล้วใครบอกคุณว่าฉันทำอาหารเป็น” คนทำอาหารไม่เป็นย้อนถามเสียงเข้ม พลางวางมีดในมือลงกระแทกกระทั้น พลางหมุนกายทิ้งสะโพกพิงกับขอบโต๊ะสี่เหลี่ยม ส่งนัยน์ตาเจือตำหนิมองคนจอมบงการ    “แค่ผัดผักธรรมดามันยากตรงไหนกันครับคุณหนูน้ำผึ้ง” อสุเรศส่ายหัวเอือมระอา เขารู้สมัยก่อนสิริสรทำเป็นอยู่สองอย่าง นั่นคือสั่งให้คนทำกับนั่งรอกินเฉยๆ ทว่าเวลาผ่านมานานหลายปีนี้เจ้าหล่อนไม่คิดจะหัดทำงานครัวเล็กๆน้อยๆบ้างเลยหรือไง หัดทำให้เป็นเสน่ห์ปลายจวักไว้บ้างก็ยังดี เวลาเขากลับจากทำงานมาเหนื่อยๆถ้าได้กินอาหารฝีมือเมียคงทำให้หายเหนื่อยดีมิใช่น้อย อสุเรศอมยิ้มเมื่อนึกถึงอนาคตในวันข้างหน้า “คุณก็รู้...ไม่สิ...คุณไม่รู้อะไรเลยต่างหาก” สิริสรรีบกลับคำพูดในทันที แม้เธอจะสะดุดหูกับคำเรียกแทนตัวเธอว่าคุณหนูน้ำผึ้งของเขาเมื่อสักครู่นี้ก็ตาม เพราะนายไม้มักเรียกเธอด้วยคำนี้เช่นกัน... “ถ้าคุณจะบังคับฉันเพื่อมาทำอาหารให้คุณทาน ฉันว่าคุณกำลังคิดผิดมหันต์เชียวละ” “นั่นสินะ คุณหนูบ้านรวยอย่างคุณจะทำเรื่องง่ายเท่าขี้เล็บอะไรเป็น นอกจากชี้นิ้วสั่งกับนั่งรอกินอย่างเดียว” คำปรามาสของคนเจ้าเล่ห์ทำเอาคุณหนูบ้านรวยตวัดสายตาเขียวขุ่นตอบโต้ได้เท่านั้น ในเมื่อเขาพูดเรื่องจริงทุกคำ ทุกวันนี้ถึงนิสัยเธอจะเปลี่ยนแต่ในเรื่องงานบ้านงานเรือนเธอยังเหมือนเดิมทุกประการ “ถ้าคุณหิวมากนัก นั้นก็เชิญคุณลงมาทำเองเลยสิค่ะ ฉันไม่ถนัดเรื่องทำ ถนัดแต่เรื่องกินอย่างที่คุณพูดนั่นแหละ ฉันไม่ปฏิเสธ” สิริสรเบี่ยงสายตามองรอบตัว เครื่องครัวใหม่เอี่ยมกับห้องโล่งตาที่มีเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น ทำให้สิริสรรู้ทันที อสุเรศเพิ่งซื้อห้องชุดนี้มาไม่นาน ชายหนุ่มเดินลากเท้าเข้ามาใกล้จงใจยืนชิดร่างหอม สิริสรเลยหนีขยับถอยห่างจากเขาเมื่ออสุเรศแกล้งยืนเบียด เขาหยิบหัวผักกาดขึ้นมาถือไว้  ก่อนลงมือหั่นมันอย่างคล่องตัว  สิริสรปรายตามองชายหนุ่มอย่างสนเท่ห์ ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ เวลาหยิบจับทำอาหารก็ดูเพลินตาดีไม่เบา หญิงสาวเลยเปลี่ยนใจที่คิดในตอนแรกกะว่าเธอจะเดินเลี่ยงออกมานั่งคอยเขาด้านนอกห้องครัว แต่สิริสรกลับเดินย้อนเลี้ยวมายังมุมขอบโต๊ะทรงสี่เหลี่ยม พร้อมจัดการลากเก้าอี้ไม้ขัดเงา นั่งลงฝั่งตรงข้าม ทอดสายตาสดใสมองพ่อครัวจำเป็น อสุเรศเงยหน้าจากผักบนเขียง แลเห็นดวงตาดำขลับมองเขาด้วยความสนใจ เลยอดคลี่ยิ้มส่งให้ไม่ได้ ยามเห็นหญิงสาวไม่พยศเอาแต่ใจ ก็น่ารักดีไปอีกแบบ... “ผมจะผัดผัก แล้วก็ทอดไข่เจียว คุณคงทานได้นะ อาหารพื้นๆรสชาติธรรมดา” “ฉันไม่หิว เชิญคุณทานคนเดียวเถอะค่ะ อิ่มแล้วจะได้ขับรถพาฉันไปส่งบ้านเสียที”  หญิงสาวไม่ได้นึกรังเกียจอาหารฝีเขาหลอก เธอไม่ใช่คนเลือกทาน แต่ไม่ไหวแล้วจริงๆเพราะเธอเพิ่งทานข้าวเย็นมากับมารดาแล้วก็กับคชาจนอิ่มตื้อ ก่อนจะถูกเขาฉุดกระชากมาที่นี่ “อิ่มแล้วผมอยากดูหนังต่อ ซื้อแผ่นทิ้งไว้หลายเรื่องยังไม่มีโอกาสได้ดูเลย ยังไงคุณก็ดูเป็นเพื่อนผมให้จบสักเรื่องสองเรื่องแล้วกันนะ แล้วคุณค่อยกลับบ้าน” แน่นอนเขาไม่ได้ขอความคิดเห็นจากเธอ เขาเพียงแค่บอก แล้วเธอต้องทำตาม สิริสรอ่อนใจที่จะโต้เถียง ทำได้เพียงส่งค้อนกับเม้มริมฝีปากเข้าหากันเพื่อระงับอารมณ์โมโห “แต่ก่อนอื่น คุณมานี่กับผมหน่อย ผมอยากให้คุณช่วย...”   อสุเรศเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนเขาก้าวเพียงสองสามก้าวก็ถึงตัวหญิงสาว พร้อมฉวยเอาข้อมือน้อยมายึดไว้ รั้งร่างเล็กกว่าให้เดินตามเขาออกมาจากภายในห้องครัว ต่อจากนั้นเขาเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องหนึ่งก่อนผลักบานประตูเปิดอ้ากว้างจนแลเห็นภายใน สิริสรหันขวับชักสีหน้าไม่พอใจแล้วก้าวเท้าถอยห่าง เตรียมพร้อมสู้ยิบตาถ้าหากเขาคิดไม่ซื่อทำมิดีมิร้ายกับเธอ “อ้าว...แล้วนั่นจะเดินไปไหน เข้ามาข้างในห้องก่อนสิคุณ” “ฉันไม่เข้าไปข้างในห้องนั้น แล้วนี่คุณคิดจะทำบ้าอะไร? บอกก่อนเลยนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายอย่างที่คุณเข้าใจ” คนถูกกล่าวหาว่าเข้าใจหรี่ตาพราวเสน่ห์มองคนตัวเล็ก ชายหนุ่มพอเข้าใจอะไรขึ้นมาได้บ้าง มุมปากจึงยกสูง พลางขยับถอยหลังมาหนึ่งก้าวเพื่อให้หยุดยืนเคียงข้างกับสาวเจ้า ออกแรงเพียงน้อยนิดจัดการดันร่างเล็กบังคับให้เดินเข้ามาด้านใน แววตาของเขาพราวระยิบระยับอย่างไม่น่าไว้วางใจ เลยยิ่งทำให้คนตัวเล็กว่าหัวใจเต้นโครมคราม “นี่คุณจะทำบ้าอะไร ก็บอกว่าไม่เข้าไปไง หูแตกหรือฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องกันแน่หะ! ทำไมถึงได้ชอบบังคับจิตใจกันอยู่เรื่อย ทั้งที่ฉันไม่ใช่ลูกน้องคุณสักหน่อย” “จะทำอะไรล่ะ ถามแปลกจริงคุณนี่...ไม่ต้องกลัวผมจะทำอะไรสัปดนกับคุณนักหรอกน่า ผมเคยบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ ผมไม่นิยมของมือสองต่อจากใคร มันกินไม่อร่อย เพราะมันไม่สดแถมยังรู้สึกคาวปากอีกต่างหาก” ปากหรือนั้น สิริสรกำมือแน่นตวัดสายตาดุกร้าวใส่คนปากเสีย ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงมือสองมือสาม รสชาติคาวไม่หวานหอมเหมือนสาววัยแรกรุ่น แล้วมันไปหนักส่วนไหนบนศีรษะเขาด้วยไม่ทราบยะ นี่ถ้าหากเป็นสมัยแต่ก่อน รับรองอสุเรศไม่มีทางรอดพ้นฝ่ามือพิฆาตของเธอไปได้สบายอย่างนี้แน่นอน เขาคงถูกเธอตบให้สักทีสองที หรือไม่ก็ถูกเธอระเบิดอารมณ์ร้อนเข้าใส่จนลืมบ้านเกิดไปเลยทีเดียว   “ไว้ใจผมได้น่าคุณหนูน้ำผึ้งคนสวย เพราะผมเองก็ไม่ได้นึกพิศวาสอะไรในตัวคุณอยู่แล้ว และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญเลยนะ ตัวผมก็ไม่ได้อดยากถึงขั้นต้องเปลืองแรงบังคับขืนใจคุณให้มานอนกับผม ผมมีเงิน มีหน้ามีตาทางสังคม ผู้หญิงคนไหนที่ผมสนใจเห็นมีแต่สมยอมให้กันทั้งนั้น หรือว่าคุณจะเถียงว่าผมพูดไม่จริง...” คนโอ้อวดเลิกคิ้วถาม สิริสรย่นหน้ามอง มันก็จริงของเขา แต่ทำไมเขาต้องพูดกดเธอให้ดูต่ำต้อยด้อยค่า ทำราวกับว่าเธอเป็นดอกหญ้าริมทางไม่คู่ควรกับเขาแบบนั้นด้วยเล่า เขามีเงินเธอเองก็มีเงิน ใช่จะด้อยค่าไร้ราคา ถ้าจะพูดกันตามตรง ทุกวันนี้เธอมีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาคอยขายขนมจีบ เดือดร้อนต้องคอยบอกปัดปฏิเสธว่าเธอไม่สนใจ แล้วเรื่องอะไรเขาต้องคอยมาหยามเหยียด พูดจากระแนะกระแหนให้เธอต้องระคายหู  เธอนั้นเป็นถึงทายาทเพียงคนเดียวของเสี่ยมนัส มหาเศรษฐีอันดับต้นๆของตัวจังหวัดลำปางเชียวนะ มันเลยทำให้ตลอดระยะเวลาในช่วงวัยสาวแรกรุ่น เคยเผลอทำตัวหยิ่งผยอง จนเธอเสียนิสัยไม่เคยเห็นหัวใครหน้าไหนทั้งนั้น อะไรที่เธออยากได้ก็ต้องได้ แม้แต่เคยสั่งคนของบิดาให้จัดการกำจัดเพื่อนรักเพียงคนเดียว เธอยังเคยลงมือทำมาแล้วเลย...    “เข้ามาเถอะคุณ ผมอยากให้คุณช่วยเหลือจริงๆนะ ถือว่าผมขอร้องก็ได้...” อสุเรศเลือกใช้น้ำเสียงอ่อนลง พร้อมยืนยันคำพูดของตัวเองด้วยการยอมขยับเท้าถอยห่างจากร่างหอมละมุน แล้วผายมือเชื้อเชิญหญิงสาวดวงตาละห้อยแทน ในใจนั้นแอบคิด เฉพาะตอนนี้เท่านั้นแหละนะที่เขาไม่คิดอยากหักหาญน้ำใจของหญิงสาว แต่ต่อไปในอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน ของเคยค้าม้าเคยขี่กันมาก่อน มันทำให้ตัวเขาหักห้ามใจลำบาก แม้ว่าเขากลับมาครั้งนี้ จะมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง อยากทำทุกอย่างให้มันถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เข้าตามตรอกออกตามประตู ให้สมเกียรติสมฐานะแก่สิริสรตามคำแนะนำของพี่ฟ้ากระจ่างก็ตาม หากในบางครั้ง มันช่างยากเย็นเหลือเกินกับการหักห้ามตัวเองไม่ให้คิดอะไรเกินเลยกับหญิงสาวอันเป็นดวงใจของเขา “แต่นี่มันเป็นห้องนอนส่วนตัวของคุณ คุณหวังจะให้ฉันเชื่อคำพูดของคุณอย่างนั้นนะหรอ เหอะ...ให้ฉันไปเชื่อเด็กสามขวบพูดเสียยังจะดีกว่า ถ้าหากคุณมีอะไรต้องการให้ฉันช่วยจริง นั้นให้เอาออกมาข้างนอกนี้ก็แล้วกันนะ ฉันจะไปนั่งรอที่โซฟาตรงนั้น แล้วก็อย่าช้า ฉันมีเวลาให้คุณไม่มาก” หญิงสาวยังไม่ยอมไว้ใจชายหนุ่มเสียทีเดียว การพาตัวเองให้ตกอยู่ในพื้นที่เสี่ยงมันดูไม่ฉลาดนัก ลำพังแค่เขาหน้าด้านกล้าฉุดคร่าเธอมาทั้งที่เป็นบริเวณหน้าบ้านของเธอแท้ๆ โดยไม่ถามหาความสมัครใจสักคำเดียว เขายังกล้าทำ คนแบบนี้จะให้เธอกล้าไว้ใจเขาลงคอได้ยังไงไหว  “อยู่ข้างนอกห้องจะทำได้ยังไง มันต้องข้างในนี้สิ บนเตียงนุ่มๆพร้อมด้วยบรรยากาศสุดแสนจะดีเยี่ยม ไม่อย่างนั้นผมก็คงจะเสร็จช้า ไม่ทันใจ ผมอยากทำให้มันเสร็จเร็วๆนะคุณ ถ้าได้คุณช่วยอีกแรง ผมคงจะเสร็จเร็วขึ้น...” “ยี้!อีตาบ้า พูดจาทุเรศ น่าเกลียดชะมัด อยากจะเสร็จเร็วก็ช่วยตัวเองไปคนเดียวเลยนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายยอมนอนแบให้ใครฟรีๆเสียหน่อย จะมาให้ฉันช่วยเรื่องทำนองอุบาทว์มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ คิดว่าคุณเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหนกันหะ!...”  อสุเรศกะพริบตาปริบ เริ่มเกิดอาการงุนงงในคำพูดของสาวเจ้า  “ฉันอยากจะฆ่าคุณนัก อีกอย่างตัวของฉันเองก็ไม่ใช่ลูกตาสีตาสามาจากไหน คุณพ่อคุณแม่พวกท่านมีหน้ามีตามีชื่อเสียงในสังคมไม่น้อยกว่าคุณเหมือนกัน...”  สองซีกแก้มแดงแจ๋ด้วยทั้งโกรธทั้งอาย รู้สึกคันไม้คันมือจนอยากยกมันฟาดปากคนตรงหน้ามันเสียเดี๋ยวนี้ มีอย่างที่ไหนมาให้เธอช่วยทำให้เขาสำเร็จความใคร่ สิริสรถลึงตาดุให้เจ้าของความคิดทุเรศ เตรียมสะบัดใบหน้างามเด่น หวังเดินหนีเขาไปยังโซฟาสีขาวเนื้อดี เฟอร์นิเจอร์สุดหรูเพียงไม่กี่ชิ้นในห้องชุดราคาหลายสิบล้านนี้ “อ้าวแล้วกัน...คิดไปถึงไหนแล้วนั่นคุณน้ำผึ้ง ผมไม่ได้คิดให้คุณช่วยผมทำเรื่องสัปดนเสียหน่อย อะไรของคุณหนู ผมงงไปหมดแล้ว...” คนงงปล่อยเสียงหัวเราะตามหลัง แววตาทอดสีอ่อน แล้วส่ายหน้าให้กับเจ้าของความคิดไปไกลเลยเถิดนั่น...                                                                                           **********************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม