“ขวัญข้าวไม่ได้เสียเงินซื้อสักบาท คุณลุงจำไม่ได้หรือคะที่กัปตันบอกว่าจะซื้อปืนให้ขวัญข้าว เป็นของขวัญที่ขวัญข้าวเรียนจบปริญญา และได้เกียรตินิยมด้วย ขวัญข้าวไม่ได้ขอมากเลยนะคะ แค่ขอเป็นปืนแบบเก็บเสียง เอาแบบที่ดีที่สุด และเบามือที่สุด เหมาะสำหรับสุภาพสตรีตัวเล็กๆ ที่แสนอ่อนแอเหมือนขวัญข้าว”
“ขวัญข้าว ทำไมถึงไปรบกวนกัปตันแบบนั้นล่ะ”
ลุกซ์เอ็ดหลานสาวเบาๆ แต่ไม่ทันได้เอ่ยพูดอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงกัปตันหนุ่มได้เอ่ยให้ท้ายขวัญข้าว ทำเอาเขาต้องลอบถอนหายใจยาว เมื่อไม่สามารถเอ็ดหลานสาวได้อีก
“ไม่เป็นไรหรอกลุกซ์ เราสัญญากับขวัญข้าวแล้วว่าจะซื้อให้เป็นของขวัญ และเราก็สั่งซื้อไปแล้วด้วย ทางบริษัทผลิตปืนที่อเมริกาก็ส่งมาให้แล้ว คงมาถึงเร็วๆ นี้แหละ”
คำตอบของกัปตันบารอน ช่วยเรียกรอยยิ้มแป้นได้จากใบหน้ารูปไข่งดงามของขวัญข้าว ซึ่งเจ้าตัวได้คลานเข่าไปนั่งอยู่ใกล้ๆ กับกัปตันผู้องอาจแถมยังใจดีเป็นที่หนึ่ง จากนั้นก็บรรจงยกมือไหว้ขอบคุณอย่างสวยงาม โดยไม่ลืมเปล่งวาจาออกมาด้วย
“ขอบคุณกัปตันมากๆ เลยนะคะ ที่มอบของขวัญสุดวิเศษให้กับขวัญข้าว”
กัปตันบารอนคลี่ยิ้มบางๆ พลางหันไปยักคิ้วให้กับนันท์นลินผู้เป็นภรรยาอย่างรู้กัน จากนั้นก็ได้เอ่ยถามสาวน้อยที่นั่งอยู่ตรงหน้าตนเอง
“ขวัญข้าว พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า”
ผู้ที่ถูกเอ่ยถามได้ตีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบออกมา “ถ้าไม่นับหน้าที่ในการอยู่ดูแล พาเล่นและก็เอ่อ...แกล้งคุณหนูอารอนในบางครั้งบางครา ขวัญข้าวก็ว่างตลอดทั้งวันตามประสาคนว่างงานนะคะ”
สาวน้อยจอมแก่น ไม่รู้เลยว่าคำตอบของเธอกำลังเข้าทางของกัปตันบารอนและนันท์นลิน ที่กำลังทำตัวเป็นพ่อสื่อแม่ชักให้กับขวัญข้าวและเพื่อนรักของตนเอง เพราะเกรงว่าสองคนนี้จะแข่งกันเป็นโสดไปจนวันตาย จึงต้องรีบจับทั้งสองคนให้โคจรมาพบกันโดยเร็ววัน
“ขวัญข้าวไม่ต้องเป็นห่วงอารอนหรอก พี่ดูอารอนได้ อีกอย่างมีบรรดาคุณลุง คุณน้าอีกเป็นสิบ ที่รอคิวมาพากัปตันน้อยไปเล่นด้วย”
นันท์นลินเอ่ยบอกยิ้มๆ กัปตันน้อยอารอน ดี ทีสต์ นอกจากจะเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพ่อแม่แล้ว กัปตันน้อยยังเป็นที่รัก เป็นดั่งดวงแก้วของลูกเรือเดอะ รอยัล อาดามัส ด้วย เรียกว่าลูกเรือทุกคนทั้งรักทั้งหลงกัปตันน้อย ทุกคนพร้อมที่จะเลี้ยงดู พร้อมที่จะปกป้อง ไม่ให้ภยันตรายใดๆ ได้มาแผ้วพานในตัวของกัปตันน้อยอารอน ดี ทีสต์
ขวัญข้าวทำหน้ายุ่ง ขมวดคิ้วเข้าหากัน หันไปมองนันท์นลินที มองกัปตันบารอนที ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามออกมา
“กัปตันมีงานให้ขวัญข้าวทำหรือเปล่าคะ”
“อืม...พรุ่งนี้เพื่อนรักของกัปตันจะเดินทางมาถึงประเทศไทย กัปตันอยากไหว้วานให้ขวัญข้าวไปรับเรนย์ เจรามี่ ที่สนามบิน”
กัปตันบารอนเอ่ยบอกเสียงราบเรียบ พอหันไปมองต้นหนเรือวัยเฒ่า ที่ได้มองมาทางเขาด้วยสายตาที่บ่งบอกให้รู้ว่าไม่เห็นด้วยสักเท่าไร กับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ และเมื่อลุกซ์ทำท่าจะอ้าปากเอ่ยค้าน ก็ขึงตาจ้องมองเขม็งเป็นการห้าม ไม่ให้ต้นหนเรือได้พูดอะไรออกมา
‘เฉยไว้ลุกซ์ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง’
เจ้าของเรือสำราญเดอะ รอยัล อาดามัส คิดว่าหากมีโอกาสได้อยู่กันตามลำพักับต้นหนเรือผู้เป็นลุงของขวัญข้าว เขาจะเอ่ยบอกกับอีกฝ่ายเช่นนี้ และที่ขาดไม่ได้เขาจะบอกลุกซ์ว่าที่เขาทำเช่นนี้ ก็เพราะรักและหวังดีในตัวขวัญข้าว เด็กสาวที่เขาเอ็นดูไม่ต่างจากลูกหลาน
“เพื่อนรักของกัปตันจะมาถึงเมื่อไรคะ”
ขวัญข้าวเอ่ยถาม ยังไม่รับปากกัปตันบารอน ว่าตนเองจะไปทำงานนี้ให้กัปตันหรือเปล่า
“เครื่องบินลงตอนห้าโมงเย็น ขวัญข้าวไปรอรับที่สนามบินสุวรรณภูมินะ กัปตันบอกเรนย์ไว้แล้วว่าขวัญข้าวจะไปรับเขาถึงที่สนามบิน”
กัปตันบารอนบอกเวลาที่เครื่องบินจะลงจอดที่รันเวย์ ตามกำหนดเวลาที่ตนเองได้รับจากเรนย์ ซึ่งอีกฝ่ายได้โทรมาบอกให้ทราบก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน อีกทั้งยังย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ต้องส่งคนมารับ เดี๋ยวจะเรียกรถจากสนามบินให้มาส่งที่เกาะส่วนตัวของเขาเอง
แต่...ทำไมเขาจะต้องเชื่อฟังเรนย์ เจรามี่ ด้วย ยิ่งอีกฝ่ายไม่ให้ไปรับ เขาก็ยิ่งอยากส่งสารถีสาวจอมแก่นแก้วให้ไปรับถึงสนามบิน!
ขวัญข้าวทำหน้ามุ่ย เมื่อได้ยินระยะเวลาที่กัปตันได้เอ่ยออกมา “เครื่องมาถึงห้าโมงเย็น ก็ต้องออกจากเกาะตั้งแต่บ่ายสอง กว่าจะไปถึง กว่าจะได้รับเพื่อนรักของกัปตันกลับเกาะ ก็ปาไปเกือบหนึ่งวัน เฮ้อ...งานนี้ขวัญข้าวก็ไม่ได้แกล้งกัปตันน้อยตั้งหลายชั่วโมง”
เจ้าของนัยน์ตากลมโตแสร้งบ่นกับตัวเอง มากกว่าจะบ่นกับกัปตันบารอน แต่กระนั้นน้ำเสียงที่เปล่งออกมาไม่ได้เบาเสียงเลยแม้แต่นิดเดียว เรียกว่าลูกเรือหลายสิบคน ที่กำลังจัดสถานที่แต่งงานอยู่ด้านนอกคฤหาสน์ ยังได้ยินเสียงบ่นของขวัญข้าวเลย
“เอาน่าขวัญข้าว...แค่วันเดียวเท่านั้นเอง อีกอย่างขวัญข้าวไม่ต้องออกไปตั้งแต่บ่ายสองโมงก็ได้ ระดับขวัญข้าวเคยเหยียบคันเร่งรถ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมาแล้ว ออกจากเกาะสักสี่โมงเย็นก็ยังไปทันเลย”
ขวัญข้าวตีหน้ามุ่ย ทำตัวลีบทันที เมื่อกัปตันบารอนได้เผยความลับ ที่ตนเองนั้นอุตส่าห์ปกปิดไว้เสียนาน เพื่อไม่ให้ผู้เป็นลุงได้รับรู้ และนาทีต่อมาก็ต้องทำตัวลีบยิ่งกว่า
เดิม พร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ เมื่อถูกผู้เป็นลุงเค้นเสียงเรียกเสียงดังจนถึงกับสะดุ้งโหยง
“ขวัญข้าว!!!”
ผู้เป็นลุงได้ถลึงตาเขม็ง เค้นเสียงเรียกชื่อหลานสาวด้วยความโมโห เมื่อได้ล่วงรู้ความลับว่าหลานกำลังเป็นพวกตีนผี! เหยียบคันเร่งเสียเกือบมิดเท้า
“กัปตันคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ขวัญข้าวไปรับคุณเรนย์ให้นะคะ แต่ตอนนี้ขวัญข้าวขอตัวก่อนนะคะ”
ขวัญข้าวเอ่ยบอกรัวเร็วแทบไม่ได้หายใจ พร้อมกันนั้นก็กระโจนออกจากห้องนั่งเล่นแทบจะทันที เมื่อได้ยินเสียงห้าวดุห้วนจัดของผู้เป็นลุง ได้เค้นเสียงลอดไรฟันเรียกชื่อของตนอีกครั้ง
“ขวัญข้าว! จะไปไหนมาให้ลุงซักฟอกก่อน”
ลุกซ์ตะโกนไล่หลังตามหลานสาวจอมแก่นแก้ว ที่ได้วิ่งแนบเผ่นหนีออกไปจากคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว เมื่อจำเลยไม่อยู่ให้ซักฟอกแล้ว เขาก็ได้หันมามองผู้เป็นเจ้านาย ที่ได้หัวเราะร่วนผสมโรงกับเสียงหัวเราะของผู้เป็นภรรยา จากนั้นก็ได้เอ่ยถามถึงเรื่องที่ตนเองนั้นยังแคลงใจอยู่
“กัปตันจะจับคู่ขวัญข้าวกับคุณเรนย์จริงหรือครับ”
กัปตันบารอนพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะเอ่ยขยายความต่อ “จริงสิลุกซ์ เราจะหาเจ้าสาวให้เรนย์...เรนย์จะได้แต่งงานมีครอบครัวเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ สักที”
ลุกซ์ถอนหายใจยาว ราวกับไม่เห็นด้วยสักเท่าไร และก็อดไม่ได้ที่จะเผยความในใจออกมาให้ผู้เป็นเจ้านายได้รับรู้
“ผมเกรงว่าสองคนนี้จะไปด้วยกันไม่รอดนะสิครับกัปตัน คนของเรานะแสบใช่ย่อยซะที่ไหน กัปตันก็รู้นี้ครับ”
“เชื่อเราเถอะลุกซ์ ขวัญข้าว พาเรลส์กับเรนย์ เจรามี่ เป็นมวยที่ถูกคู่แล้ว”
กัปตันบารอนหัวเราะร่วนเสียงดัง ขณะเอ่ยบอกด้วยความมั่นใจอย่างยิ่งยวด เขารู้ว่าเพื่อนรักไม่ชอบหญิงสาวที่แก่นแก้วดีดกะโหลกเหมือนที่ขวัญข้าวเป็นอยู่ ยิ่งเรนย์ไม่ชอบคนแบบขวัญข้าว เขาก็ยิ่งอยากจับให้คนทั้งสองได้โคจรมาพบกัน และเขาจะทำทุกวิถีทางให้เรนย์ เจรามี่ เจ้าของคฤหาสน์เดอะ บลู เฮ้าส์ ได้ร่วมหอลงโรงกับขวัญข้าวให้จงได้