ตอนที่ 3

1316 คำ
สาวใช้วัยสาวใหญ่ขมวดคิ้วก่อนเอ่ยถามชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนของลูกชายเจ้าของบ้าน “เรื่องอะไรล่ะคะถ้าพี่ช่วยเหลือได้ ก็จะช่วยเหลือ แต่ต้องไม่เหลือบ่ากว่าแรงนะคะ ของเล็กๆน้อยๆพอจะทำได้ แต่อย่าให้ออกไปข้างนอกนะคะ คุณโป วันนี้ พี่ไม่ว่างจริงๆค่ะ งานบ้าน งานครัว” เขาพอจะเข้าใจ ว่ามะยมมีฝีมือในด้านการทำอาหาร เขาไม่ได้ว่าจ้างให้พี่มะยมออกไปข้างนอกเกี่ยวกับการทำอาหารหรอก “ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ” “แล้วเรื่องอะไรกันล่ะคะ ที่คุณโปจะมาให้พี่เป็นธุระให้ พี่นึกไม่ออกจริง” มะยมเอ่ย ที่เพื่อนของคุณวิทูเจ้านายของมะยมจะไหว้วานให้ช่วยในเรื่องอะไร โปฏกเงียบไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ย “ผมอยากให้พี่มะยมช่วยหาคนใช้สักคน เด็กแถวบ้านพี่นะครับ พอมีมั๊ย ที่เอ้อ พอไว้ใจได้ มาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ให้เจ้าหนูมิน หลานของผมเอง ลูกของน้าสาวกับน้าเขย” สิ่งที่ชายหนุ่มขอนั้น นางสาวมะยมสาวใหญ่ทำท่าอึกอัก “คุณโป จะมาขอให้พี่ช่วยหาคนให้ไปเลี้ยงเด็ก แต่เอ๊ มันก็ยากเหมือนกันนะคะ ใช่ว่าจะเอามากันง่ายๆ” มะยมเอ่ย เหมือนจะปฏิเสธ เพราะไม่ค่อยจะไว้ใจญาติพี่น้องของตัวเองสักหน่อย และอีกอย่างเด็กสมัยนี้ติดความสนุกสนานสะดวกสบาย ติดทีวีละคร ขนาดอยู่ที่บ้านนอกแท้ๆ แค่พ่อแม่ใช้ให้ไปเลี้ยงควาย และรับฝูงควายกลับบ้านเข้าคอกยังเกียจคร้านขี้บ่น ผิดไปจากเด็กสาวๆสมัยก่อนโน้นอย่างมะยม ที่สาวๆเอาการเอางานดี เชื่อฟังพ่อแม่ นั่นเพราะความ สะดวกสบายต่างๆยังไม่เข้ามาถึงหมู่บ้าน ถ้าเป็นเด็กสาวสมัยนี้ มะยมไม่มั่นใจ จึงให้คำตอบแก่โปฏกไม่ได้ เพราะกลัวจะเอาเด็กมาแล้ว ทำเสื่อมเสีย แล้วชื่อของนางสาวมะยมจะพลอยอับอายเจ้านายไปด้วย “ไม่มีหรอกค่ะ เด็กมันกำลังเรียนหนังสือ กำลังสนุกสนาน ดูแล้ว ไม่มีใครรักเด็กเลยค่ะ หลานๆของพี่ที่ บ้านนอก มันจะไปรังแกเด็กนะสิคะ คุณโป” แสดงว่าเขาจะต้องผิดหวัง เมื่อได้ยินคำตอบจากมะยม และสีหน้าของโปฏกเปลี่ยนสีไปจริงๆ เขาซ่อนหน้าที่ผิดหวังของตนเองเบือนไปทางด้านอื่น “ไม่เป็นไร ครับ พี่มะยม ผมจะลองไปพึ่งทางอื่นดู” “ทางไหนค่ะ คุณโป” มะยมถามด้วยความรู้สึกสงสารชายหนุ่ม “ที่สำนักงานจัดหางานไงครับ” เมื่อได้ยินแล้ว มะยมเอ่ยบอกกับเขาว่า “อย่าเอาพวกต่างด้าวมานะคะ คนพวกนี้ประวัติทำเรื่องแสบๆร้ายๆโหดๆกับคนไทยเราเยอะ พอเกิดเรื่อง มันก็หนีกลับไปบ้านมัน ขอให้เป็นคนไทยแท้นะคะคุณโป พี่เอาใจช่วยคุณด้วย” มะยมตอบเขาด้วยความหวังดี ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ หล่อนได้เข้ามาสู่กรุงเทพมหานครแล้ว ทำไม ใหญ่โตอย่างนี้หนอ เมืองหลวงของประเทศไทย อิฐศอรแทบจะยิ้มร่าเลย สุภาทำอะไรไม่ถูก กว่าจะรู้ว่าน้องสาวขึ้นมากรุงเทพ แอบตามมา และนั่งอยู่ในตอนท้าย กว่าจะมารู้ ก็เมื่อรถถึงปากช่อง นครราชสีมา พักรับประทานอาหาร ก็เลยปล่อยเลยตามเลย แล้วต่อไป หล่อนก็จะต้องรับผิดชอบชีวิตของน้องสาวด้วยสิ แย่จริง ยายอิฐ น้องสาวหาเรื่องให้หล่อนยุ่งเสียแล้ว “สัญญากับพี่นะว่าอยู่ให้ครบเปิดเทอม แล้วแกจะกลับบ้าน ไปเรียนหนังสือ” “ค่ะ อิฐ ให้สัญญาขอให้อิฐได้อยู่กรุงเทพ ได้ทำงาน เห็นผู้คน มีเงินเก็บกลับบ้านก็พอ” อิฐศอรให้คำมั่นสัญญากับพี่สาว “ บ้านของเรา ใช่ว่าจะยากจนนะ พ่อมีนาตั้งพันๆไร่ ทำไม แกต้องดิ้นรนมาหางานทำหาเงินเองล่ะ อยู่ที่บ้านสบายออกเยอะ อยากได้อะไรกินอะไรก็ตามใจชอบ” “ต่างกันคะ เพราะอยู่ที่โน่น ต้องแบมือขอ แต่นี่เงินของอิฐที่จะได้ คือความสามารถของตัวเองทั้งดุ้นๆเลย และอีกอย่าง คือ อยากจะรู้ว่า ความลำบากน่ะมันเป็นยังไง เผื่อว่า ในอนาคต อิฐ ลำบากบ้าง ต่อไปจะได้รับสภาพเหล่านั้นได้” ที่น้องสาวพูดขึ้นมามันก็มีเหตุผล จนสุภาไม่ว่าอะไร ไปเถียงน้องสาวที่มีความชาญฉลาดคนนี้ไม่ได้หรอก เพราะอิฐศอร แทบจะรู้ไปหมดทุกอย่าง “แล้ว นี่พี่สุจะพาอิฐนั่งรถแท็กซี่ไปไหนค่ะ” “ไปบ้านเจ้านายเก่าของพี่ เผื่อเกิดมีงานรับเลี้ยงเด็ก เขาจะได้รับแกไปเลย ทำให้พี่หายห่วง เพราะเจ้านายสามารถไว้ใจได้” อิฐศอรดีใจ ที่จะได้ทำงานแล้ว ในวันแรก พอมาถึงปุ๊บ ก็จะได้งานปั๊บ แหม ดีใจอะไรอย่างนี้ ถือว่ามา กรุงเทพ แล้วไม่ตกงาน โชคช่วย ไม่เหมือน หลายคนที่บอกว่า ตกงานเป็นแถว ไม่รู้เป็นเพราะเนื่องจากสาเหตุอะไร อิฐศอรก็ไม่อยากจะสนใจใคร่รู้ด้วย เอ๊ะ ถ้าจะให้คาดเดา เป็นเพราะว่าเลือกงาน กรุงเทพมหานครที่เมื่อก่อนอยู่ไกลในความคำนึงของอิฐศอร บัดนี้หญิงสาวได้มาพบเห็นด้วยตา มันแตกต่างจากชนบทบ้านของเธออย่างสิ้นเชิง อยู่ที่โน่นมีแต่ไร่นาสุดลูกหูลูกตา ทางเกวียน ทางลูกรัง ทางลาดยาง จะมีเป็นถนนราดซีเมนต์ก็เฉพาะในตัวอำเภอ แต่กรุงเทพมหานครถนนกว้างถึงหกเจ็ดเลน เพราะรถมาก ขวักไขว่กันทั้งสองฟากถนน เห็นหมู่ตึกสวยงามโอ่โถง ทั้งสองฟากถนน บางตึกคล้อยตามกันเลยอย่างที่เขาว่า ตึกระฟ้า เพราะสูงกว่าสามสิบชั้นขึ้นไป มันมีมนต์เสน่ห์ขนาดไหน อิฐศอร ไม่รู้หรอก จึงต้องมาเผชิญด้วยตัวเอง ไหนก็เลยตามเลยแล้ว ลงเรือลำเดียวกัน สุภาไม่กล้าทิ้งน้องไว้ที่ไหน หล่อนต้องรับผิดชอบ ชีวิตของอิฐศอร พร้อมด้วยตัวเอง ต้องดูแลชีวิตน้องให้ดีที่สุด ยิ่งถ้าพ่อทราบข่าวว่า อิฐศอรตามเข้ามาถึงกรุงเทพ คนที่รับโทษหนักคือตัวสุภา ท่านไม่ฟังเหตุผลอะไร? แม้ว่าน้องสาวอยากจะขึ้นมาหางานในกรุงเทพ ท่านไม่ฟัง คงจะอ้างว่า ถ้าไม่เป็นเพราะสุภา ไหนเลย น้องถึงจะแอบตามขึ้นไปกรุงเทพได้ สุภาไม่ได้ถามน้องเลยว่า พ่อกับแม่รู้เรื่องแล้วหรือยัง กำลังจะขยับปากถาม ขณะที่นั่งเงียบกันไป บนรถแท็กซี่ กำลังจะเอ่ยปากถาม “นี่พ่อกับแม่ รู้แล้วหรือยังว่า อิฐตามพี่เข้ามากรุงเทพ” อิฐศอรเงียบไปครู่ จึงตอบ “คงไม่รู้ หรอกค่ะ ขืนรู้สิ อิฐ คงไม่ได้มา” นึกมาถึงตรงนี้แล้ว สุภาระอาใจเหลือเกิน น้องของหล่อน “ก็ แก นะแก ทำเรื่องแบบนี้ ฉันเป็นพี่แกน่ะสิ จะซวย” อิฐศอร ได้แต่ขอโทษพี่สาว เสียงเบาๆ “ก็อิฐ อยากจะเข้ามาดูกรุงเทพว่าเป็นยังไงนี่ ชาตินี้ทั้งชีวิตยังไม่เคยมาเจอ” “ขอบอกแก อย่างเดียวว่า ลำบากมาก” พี่สาวพูดไปยังงั้น “ค่ะ ลำบาก ยังไง อิฐก็ขอทนด้วย เพราะยังไงก็มาแล้ว ลูกชาวนานะคะ ทนไม่ได้ก็ให้มันรู้ไปสิว่าไม่ใช่อิฐ ลูกพ่อยศ แม่ยิ้ม” ฟังน้องสาวพูดอย่างนั้น พอทำให้สุภานึกภูมิใจอยู่บ้าง ถ้าเลือดพ่อเลือดแม่จริงๆก็แข็งแกร่ง เงียบไปสักพัก อิฐจึงถามพี่สาวอีกว่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม