บทที่ ๑ ข้าคือหญิงบ้า(๒)

1047 คำ
เสียงแอดจากการเปิดประตูเรือนทำให้นิ่งงันไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับเต้นแรงนัก เหงื่อกาฬแห่งความหวาดหวั่นไหลอาบร่างกายจนชื้นเหงื่อไปหมด แต่เสียงเรียกที่หลุดเข้ามาคล้ายจะทำให้ใจที่เต้นรัวด้วยความหวาดกลัวปนตื่นตระหนกสงบลง “เซ่อเอ๋อ” “ท่านตา” ปากเอ่ยเรียกตามสัญชาตญาณ แต่น่าแปลกที่น้ำเสียงช่างนุ่มนวล ผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนท่านผู้เฒ่าที่ก้าวเข้ามาในเรือนชิงเถาหลังนี้ไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด เอาแต่ลูบเคราสีดอกเลา พยักหน้าครางอืมอาอยู่ในลำคอ วราลีจึงอดมองผู้แก่ชราแต่ดูภูมิฐานให้มากหน่อยไม่ได้ แววตาอารีที่ปิดครึ่งหนึ่งด้วยเปลือกตาหยาบย่น ร่างกายไม่ได้สูงมากเท่าไร ค่อนข้างท้วมอยู่สักหน่อย สวมอาภรณ์สีน้ำเงินตัวใหญ่คลุมจนถึงปลายเท้า เวลานี้กำลังหรี่ตามองถาดน้ำที่นางเพิ่งส่องดูหน้าตาตนเอง ชั่วครู่มีการนับนิ้วและสูดหายใจยาว “ในเมื่อมาแล้ว แม่นางก็อยู่ที่นี่ดีๆ เถิด” แววตาที่มองไปยังท่านผู้เฒ่าจึงฉายแววตื่นตะลึงอยู่บ้าง กำลังจะอ้าปากถามแต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะเสียงดังลั่นเสียก่อน คิ้วโก่งโค้งราวคันศรจึงได้แต่ขมวดมุ่น “ท่านตา” เรียกอีกหน หวงซวนหรี่ตาลง นักพรตเฒ่าที่หายสาบสูญไปจากความทรงจำของใครหลายคนมาหลายปีบัดนี้กลับคล้ายคืนสู่ยุทธภพ มือข้างหนึ่งยังคงลูบเคราไปมา “หนึ่งซ่อนหนึ่งเปิดเผยนั่นคือสิ่งที่เจ้าทำได้...เซ่อเอ๋อ” หนึ่งซ่อนหนึ่งเปิดเผยอันใดกัน วราลีในร่างเมิ่งถิงเซ่อขมวดคิ้วอย่างพินิจพิเคราะห์ ชั่วถ้วยชาหนึ่งถึงได้เบิกตากว้าง หรือความหมายของท่านตาผู้นี้คือให้นางอยู่ในฐานะหญิงบ้าต่อไปในขณะเดียวกันก็ให้นางเป็นวราลีด้วย แล้วนางจะเป็น วราลีได้อย่างไรเล่า “รักษาตัวอีกหน่อย เจ้าก็จะไม่เป็นไรแล้ว” “รักษาตัว?” กำลังจะถามว่าตนเองเจ็บป่วยที่ใด ทว่าเพียงแค่คิดร่างกายภายในของร่างนี้คล้ายจะร้อนวูบวาบ จนต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มือที่วางนิ่งๆ อยู่ข้างตัวเมื่อสักครู่หันมาดึงทึ้งจนผมหยาบสากอยู่แล้วพัวพันกันจนแยกเส้นสายไม่ออก หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งถ้วยชาก็หัวเราะปะปนกับร้องไห้ไม่หยุด โอ๊ย! นี่มันอะไรกัน ผู้อื่นทะลุมิติมาเป็นโฉมสะคราญงามล่มเมืองไม่ใช่หรือ ต่อให้ไม่ฉลาดแต่ก็คงพอสู้รบตบมือกับคนอื่นได้กระมัง เหตุใดนักแสดงมากความสามารถอย่างนางถึงกลายเป็นหญิงบ้าในชั่วพริบตาเช่นนี้เล่า สิ่งที่ทำได้นอกจากตัดพ้อต่อโชคชะตาแล้วก็มีแต่ด่าทอสวรรค์ซึ่งเล่นตลกกับชีวิตจนพลิกคว่ำคะมำหงาย ดูเหมือนคนจะช่วยได้กลับเอาแต่หัวเราะฮ่าๆ แล้วจับตัวนางที่กำลังฟุบหน้ากรีดร้อง ปลายนิ้วจิ้มตรงหัวไหล่กับแผ่นหลังไม่กี่ที ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนตามร่างพลันค่อยๆ ทุเลาลง มีแค่เพียงความเย็นแผ่วเบาแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเท่านั้น ความรู้สึกร้อนหนาวแม้จะแผ่วเบาลงไปแล้ว แต่ร่างกายนี้ดูคล้ายจะบอบบางนัก เรียวแขนทั้งสองข้างเอาแต่โอบกอดร่างสั่นเทาเอาไว้ อยากจะพูดอยากจะถามอะไรมากมายแต่กลับมีเพียงฟันซี่เล็กกระทบกันดังกึกกัก “ทะ...ท่านตา” หวงซวนรู้สึกเวทนาเมิ่งถิงเซ่อยิ่งนัก นับตั้งแต่รับมาดูแลเมื่อหลายปีก่อน เด็กคนนี้ก็มาพร้อมกับกำลังภายในแตกซ่าน คงเป็นเพราะรับกำลังภายในล้ำเลิศมาโดยที่ร่างกายไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย ถ้าหากอายุสักสิบแปดสิบเก้า ความทุกข์ทรมานเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น “เซ่อเอ๋อ ลุกไหวหรือไม่” วราลีรู้สึกว่าร่างกายนี้แทบขยับเขยื้อนไม่ได้ แต่พอเค้นแรงทั้งหมดที่มีจริงๆ กลับสามารถหยัดยืนขึ้น นางค่อยๆ เดินไปยังเตียงแล้วรั้งผ้าห่มมาคลุมกายเอาไว้ ดวงตาสั่นระริกเอาแต่มองท่านผู้เฒ่าตาไม่วาง “หลับเถิด ผ่านพ้นไปอีกสักครึ่งเดือน เจ้าก็จะไม่ทรมานแล้ว” เหตุใดต้องทนถึงครึ่งเดือน เหตุใดต้องทรมานขนาดนี้ ปากของเมิ่งถิงเซ่อไม่สามารถซักถามออกมาได้สักคำ ทำเพียงทิ้งสายตามองชายชุดสีน้ำเงินหม่นซีดของท่านตาหวงซวนไปเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นอีกถึงยอมข่มตาหลับ หวังแค่เพียงว่ายามรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความเจ็บปวดตามร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้านี้จะหายไป พร้อมกับสติปัญญาพร่าเลือนค่อยๆ แจ่มชัดขึ้น ถ้าหากนางไม่กลับมาเป็นปกติละก็การใช้ชีวิตเป็นเมิ่งถิงเซ่อคงเป็นเรื่องยากลำบากแล้ว ความเจ็บปวดนี้คล้ายจะอยู่นานชั่วกัปชั่วกัลป์เหลือเกิน เลยผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้วทว่าวราลีในร่างเมิ่งถิงเซ่อกลับไม่เคยลืมเลือนช่วงเวลาเป็นตายเหล่านั้น ทุกชั่วยามราวกับมีมีดร้อยพันเล่มปาดเฉือนเนื้อหนัง หลังจากนั้นก็มีเหยี่ยวเกือบสิบตัวร่วมกันฉีกทึ้งเนื้อของนางจนเลือดสีแดงข้นไหลทะลักล้น รวมถึงความรู้สึกราวกับถูกหนอนตัวอ้วนกลมนับพันตัวค่อยๆ กัดกินเนื้อ สูบทุกอย่างออกจากร่างกาย แม้ว่าจะกรีดร้องโหยหวนสักปานใดก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาแม้สักครึ่งคำ กระทั่งผ้าเย็นถูกเช็ดลงกับฝ่ามือบางนุ่มเบาๆ ความเย็นนั้นทำให้ดวงตากลมหรี่ลงเล็กน้อยแล้วเพ่งมองหญิงคนหนึ่งอายุราวสี่สิบต้นๆ คนผู้นี้ดูเหมือนจะดูแลนางตั้งแต่เกิดอาการเจ็บปวดทรมานเมื่อสิบกว่าวันก่อน ตลอดเวลาจำได้เพียงว่าอีกฝ่ายคอยเรียกนางว่าคุณหนู ปรนนิบัติพัดวีราวกับตนยังคงมีฐานะสูงส่ง หาได้เป็นเพียงหญิงบ้าที่ถูกขายให้กับหอคณิกาไม่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม