บทที่ ๔ วางแผนแต่งภรรยา(๑)

1193 คำ
ย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว สมควรเปลี่ยนชะตาชีวิตของสตรีผู้นั้นเสียที หนึ่งเดือนให้หลัง ล่วงเข้ายามจื่อสองเค่อ เงาร่างสูงใหญ่ในชุดอาภรณ์สีดำเข้มกำลังใช้ความมืดที่คลี่คลุมไปทั่วเมืองเทียนหลิว ออกจากจวนตระกูลเยว่ใช้เส้นทางลัดเลียบผ่านถนนพันบุปผาจนมาถึงถนนบูรพาเหนือถึงได้กระโจนเข้าไปยังท้ายหอคณิกาอวี้หลิง ทว่าจุดมุ่งหมายกลับไม่ใช่เรือนหลังเล็กที่เคยหลบซ่อนตัวแอบมองว่าที่ภรรยา แต่กลับเป็นเรือนอีกฝั่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน เพียงแทรกกายเข้ามาภายในเรือนพลันได้กลิ่นสมุนไพรเข้มข้นรุนแรง แม้จะรู้ว่ากลิ่นสมุนไพรเช่นนี้เป็นพิษต่อร่างกาย ทว่าเยว่หมิงเซียนหาได้อนาทรร้อนใจไม่ ชายหนุ่มทำเพียงพลิ้วกายลงมานั่งบนเก้าอี้ รินน้ำชาของผู้เฒ่าหวงซวนดื่มเท่านั้น แน่นอนว่าด้วยความสามารถของท่านผู้เฒ่าหวงซวนที่เป็นถึงเจ้าสำนักพิรุณโปรยปรายคนเก่า แถมยังหยั่งรู้ชะตาชีวิตของผู้อื่น การปรากฏตัวของเขายังจะสามารถเล็ดลอดจากสายตาของตาเฒ่าผู้นี้ได้อย่างไร ดังนั้นแทนที่จะหลบซ่อน เยว่หมิงเซียนกลับเปิดเผย อีกอย่างพิษจากสมุนไพรไม่ว่าร้ายแรงเพียงใดเขาล้วนผ่านมาหมดสิ้นแล้ว เพราะว่าทุกๆ ครึ่งเดือนล้วนแล้วแต่มีคนลอบวางยาพิษ ตอนนี้ร่างกายของเขาล้วนเป็นมิตรกับยาพิษทุกชนิดในใต้หล้า หลังจิบน้ำชา สีหน้าแววตาของเยว่หมิงเซียนสงบยิ่ง “น้ำชาของท่านผู้เฒ่าดีนัก” “คุณชายเยว่” ในที่สุดท่านผู้เฒ่าหวงซวนก็ยอมเผยตัว “ดูเหมือนคำเล่าลือที่เกี่ยวกับคุณชายจะไม่มีเรื่องจริงแม้แต่น้อย” “ท่านผู้เฒ่ากล่าวชมเกินไปแล้ว มิใช่ว่าข้ากับท่านเหมือนกันหรอกหรือ” มุมปากหยาบย่นของหวงซวนยกขึ้นเล็กน้อย ครู่เดียวก็หายไป เหลือเพียงความนิ่งสงบเฉกเช่นผู้อาวุโส “มิทราบว่า ท่านแม่ทัพผู้เฒ่าเป็นเช่นไรบ้าง” “ท่านปู่ของข้าสบายดี” “หลายปีมานี้ไม่ได้พานพบ ตาเฒ่าอย่างข้ายังจดจำท่านแม่ทัพที่กรำศึกหนักได้อย่างชัดเจน” รำพึงรำพันออกมาแล้วจึงเอ่ยในสิ่งที่ควรเอ่ย “เรื่องเซ่อเอ๋อ ไม่ทราบว่าคุณชายยินดีรับนางเป็นภรรยาเอกหรือไม่” “การปรากฏตัวของข้า คงเป็นคำตอบให้กับท่านผู้เฒ่าแล้วกระมัง” ได้ยินเช่นนี้ แววตาที่เคยนิ่งสงบของหวงซวนกลับไม่อาจเป็นเช่นเดิมได้อีกต่อไป แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีบางสิ่งเป็นกังวล “แต่น่าเสียดายที่เซ่อเอ๋อ...มิใช่สตรีเพียบพร้อมนัก เป็นเช่นนี้แล้วคงทำให้คุณชายเยว่ลำบากไม่น้อย” “เซ่อเซ่อจะเป็นเช่นใด มิใช่ท่านผู้เฒ่าแจ้งแก่ใจดีแล้วหรอกหรือ” คำพูดนี้ทำเอาแววตาของหวงซวนล้ำลึกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะมีความคิดหนึ่งกระจ่างชัดในใจ เยว่หมิงเซียนผู้นี้ล้วนรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเมิ่งถิงเซ่อจนหมดสิ้น รู้ถึงขั้นที่ว่านางไม่ได้บ้าไร้สติปัญญา แต่กลับเป็นสตรีมีความสามารถคนหนึ่ง โชคดีที่คุณชายเยว่ไม่รู้ถึงที่มาที่ไปของจิตวิญญาณที่อาศัยอยู่ในร่างเมิ่งถิงเซ่อ มิเช่นนั้นย่อมมีเรื่องให้เป็นกังวล “ถ้าเช่นนั้นคุณชายจะทำอย่างไรต่อไป” เยว่หมิงเซียนใช้ท้องนิ้วโป้งลูบขอบถ้วยชาไปมา ก่อนแววตาดำเข้มที่มองไม่เห็นก้นบึ้งนั้นจะเผยให้เห็นความหนักแน่นในบางสิ่งบางอย่าง “ในเมื่อนางเป็นคู่หมั้น ข้าย่อมแต่งนางเข้าเรือน และยังต้องทำให้นางหวนคืนสู่ฐานะคุณหนูใหญ่จวนเจิ้นหยางโหว ท่านตาว่าข้าคิดทำเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่” ครานี้หวงซวนรีบพยักหน้า ในดวงตานิ่งสงบเผยความเลื่อมใสออกมาชัดเจน “คุณชายคิดเผื่อเซ่อเอ๋อเช่นนี้ นับว่าเซ่อเอ๋อมีวาสนานัก” “นางคือภรรยาเอกของข้า ข้าย่อมต้องคิดเผื่อนางให้มาก” แน่นอนว่าเบื้องลึกเบื้องหลัง การให้นางหวนคืนสู่ฐานะคุณหนูใหญ่จวนเจิ้นหยางโหวนั้น เยว่หมิงเซียนหาได้ทำเพื่อประโยชน์ของเมิ่งถิงเซ่อฝ่ายเดียวไม่ ตัวเขาเองก็ต้องการผลประโยชน์จากฐานะของนางเช่นกัน การแต่งงานกับคุณหนูใหญ่จวนเจิ้นหยางโหว ย่อมดีกว่าการแต่งงานกับสตรีบ้าไร้ฐานะไร้บรรดาศักดิ์ อีกอย่างถ้าหากนางหวนคืนสู่ฐานะนี้แล้ว ในภายภาคหน้าไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่กล้าเอ่ยปากว่านางไม่เหมาะสมที่จะยืนเคียงข้างเขา เห็นแววตาของเยว่หมิงเซียนนิ่งขรึมแต่ในหัวกลับคิดการเอาไว้มากมายเช่นนั้น ผู้เฒ่าหวงซวนย่อมไม่กล้าดูแคลนอีก และแน่นอนว่าเพียงคุณชายเยว่กลับไป ผู้ที่ควรเปิดเผยตัวอย่างแท้จริงย่อมต้องเผยออกมา ยามนี้บนเก้าอี้ที่เยว่หมิงเซียนเคยนั่ง ปรากฏเงาร่างของคุณชายชุดสีม่วงเข้มนั่งอยู่ หยิบจอกน้ำชาที่เยว่หมิงเซียนวางทิ้งไว้พลางหรี่ตามองเนิ่นนาน ผ่านไปชั่วอึดใจหนึ่งจึงทำลายจอกน้ำชาจนกลายเป็นฝุ่นผง การกระทำเช่นนี้ทำเอาท่านผู้เฒ่าหวงซวนต้องหรี่ตาลง ปากเอ่ยถาม “คุณชายจะยินยอมให้เซ่อเอ๋อแต่งกับคนผู้นั้นหรือ” “ในเมื่อสวรรค์ลิขิตมาเช่นนั้น ข้าจะทำลายบุพเพของผู้อื่นได้เช่นไร” “แต่เซ่อเอ๋อ...” “อีกอย่าง แผนการนี้ถูกวางไว้ตั้งแต่แรกมิใช่หรือ” ได้ยินเช่นนี้ต่อให้ในปากของหวงซวนมีหมื่นคำจะคัดค้านก็หากล้าพูดออกมาสักคำไม่ ทำเพียงประสานมือรับ “บ่าวเฒ่าทราบแล้ว” “ถ้าเช่นนั้น ระหว่างนี้คงต้องรบกวนท่านตา รักษาอาการของเซ่อเซ่อให้ดีเล่า ข้าหวังว่าในวันที่หวนกลับไปจวนโหวอีกครั้ง นางจะงดงามเหนือสามัญ หามีใครกล้าเอ่ยปากต่อว่านางเป็นสตรีบ้าได้อีก” เงยหน้าขึ้นอีกที ภายในห้องกลับไร้เงาของคุณชายชุดม่วงผู้นั้น ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมบางเบาของดอกอวี้หลิงที่คล้ายมีคล้ายไม่มี บนโต๊ะไม้หนานหมู่ขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ในห้องหนังสือของเรือนช่างอิ่นพลันปรากฏรายงานลับฉบับหนึ่ง หลังอ่านรายงานลับที่วั่งจื่อโม่มอบให้สีหน้าแววตาของเยว่หมิงเซียนทอประกายล้ำลึกยิ่งกว่าครั้งไหน ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคาดการณ์เอาไว้ แต่กลับไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเปิดเผยตัวออกมาเร็วเพียงนี้ สำนักพิรุณโปรยปราย ตาเฒ่าหวงซวน เมิ่งหรูถิง หรือแม้กระทั่งเมิ่งถิงเซ่อล้วนอยู่ในการควบคุมของคุณชายชุดม่วงผู้นั้น ในมุมลับเงียบสงัดตรงชั้นวางตำรา มีเงาร่างหนึ่งยืนนิ่งคล้ายมีตัวตนและไม่มีตัวตน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม