ตอนที่6. พลั้งปาก

1092 คำ
ณิชาเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าพลั้งปากไปแล้วก็ได้แต่ทำหน้านิ่งกลอกตาไปมาไม่ยอมพูดขอโทษ  ชานนท์ดูออกและพอจะเข้าใจ คนอย่างเขาก็พวกปากหนักไม่ยอมพูดขอโทษใครง่ายๆเหมือนกัน “รีบไปไหนหรือเปล่า” “เปล่า” เธอตอบแล้วสบตาอีกฝ่าย ดูเขาก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง คราวที่แล้วไม่กล้ามองหน้าตรงๆ พอได้มองเต็มตาก็รู้สึกว่า...หน้าตาหล่อเหลาใช้ได้ทีเดียว “พูดจากับผู้ใหญ่ไม่มีหางเสียงเลยนะ” ชานนท์ยิ้มๆ “จะให้พูดกับลุงยังไงละคะ” เธอเบ้ปาก   เสียงหัวเราะดังพรืดออกมา แต่ไม่ใช่ชานนท์ เป็นปกรณ์ที่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ เขายกมือทำท่าขอเวลานอก หันหน้าไปทางอื่นแล้วปล่อยเสียงหัวเราะจนตัวงอ “ลุง? มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ” เออนะ เด็กคนนี้ พอทำดีเข้าหน่อยก็ลามปามเสียแล้ว “แล้วจะให้เรียกอะไรดีล่ะ จะให้เรียกปู่หรือตาดี” ณิชาลอยหน้าลอยตาถามด้วยท่าทียียวน “อย่างฉันนี่นะ” ชานนท์ชี้นิ้วที่ตัวเอง “เรียกพี่ก็พอมั้ง” “จะดีเหรอคะคุณลุง” ณิชาขมวดคิ้ว “พ่อเธออายุเท่าไหร่มาเรียกผมว่าลุง” เขาบ่นแล้วถามกลับ “เธออายุเท่าไหร่”  “ยี่สิบแล้ว” “ฉันสามสิบ แก่กว่าสิบปี เรียกพี่ก็พอไหวอยู่นะ” ณิชากวาดสายตามองชายหนุ่มตรงหน้า ก็...จริงนะ เขาอายุน้อยกว่าพ่อของเธอจะเรียกลุงก็คงไม่ถูกนัก จะเรียกอาก็...รู้สึกเหมือนเรียกคนในครอบครัวทั้งที่เพิ่งเจอกันแค่ครั้งสองครั้ง “ก็ได้ เตยเรียกคุณว่าพี่ก็ได้” “พี่นนท์” เขาเติมให้ “ค่ะ พี่นนท์ขา” “ไม่ต้องประชด” “ไม่ได้ประชดนะเจ้าคะ” คราวนี้ปกรณ์ถึงกับกุมท้อง หัวเราะจนตัวงอไปหมด เขาดูแลชานนท์มาครึ่งปี เพิ่งเคยเจอคนที่ต่อปากต่อคำคุณชายได้ขนาดนี้ หญิงสาวเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองคงทำตัวไม่น่ารักเท่าไหร่นักเลยยอมอ่อนให้นิดนึง “พี่นนท์” “ดี” เขาพยักหน้าอย่างพอรับได้ “ถ้าไม่รีบไปไหน นั่งเล่นด้วยกันก่อนซิ” “ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะ แค่อ่านหนังสือ” เธอยักไหล่ แล้วมองซ้ายมองขวาว่าตัวเองควรจะหาที่นั่งหรือยืนค้ำหัวเขาอยู่แบบนี้ “หนังสืออะไร การ์ตูนเหรอ”  ชานนท์เคลื่อนรถเข็นตัวเองมาด้านหลังที่มีโต๊ะรับแขกนั่งใต้ต้นไม้ ณิชาเดินตามหลังเขาไป เธอเคยเห็นรถเข็นแบบนี้ในโทรทัศน์ แบบที่คนรวยเขาใช้กัน   “คุณปกรณ์ ผมรบกวนคุณบอกป้าสมใจขอน้ำหวานกับขนมให้เด็กน้อยหน่อยนะครับ” “ได้ครับคุณนนท์” “ใครคะ ใครเด็กน้อย” ณิชาหันซ้ายหันขวาหา ‘เด็กน้อย’ที่ชานนท์พูดถึง “ก็เธอนั้นแหละ” “เตยไม่ใช่เด็กแล้วนะ” เธอเบ้ปาก “นี่แหละ เด็ก” เขาย้ำ “ตกลงอ่านหนังสืออะไร” “อ่านหนังสือสอบค่ะ อาทิตย์หน้าก็จะสอบแล้ว “สอบกลางเทอม?” “ใช่ค่ะ” “เรียนคณะอะไร”  “สังคมศาสตร์ค่ะ” “ปีไหนแล้ว” “ปีสุดท้ายแล้วค่ะ” “จบแล้วจะทำอะไรล่ะ” “ก็ดูๆอยู่ค่ะ แต่เตยอยากหางานทำใกล้ๆบ้าน” “แปลกดี มีแต่คนอยากไปทำอะไรไกลๆ บ้าน” เขามองดูรอบๆ ที่นี่เงียบสงบและเรียกได้ว่าไม่มีแสงสีหรือความวุ่นวายเลย “แต่เตยรักที่นี่ รักผืนดิน รักต้นไม้ รักทุ่งนาหลังบ้าน รักทุกอย่างเลยค่ะ”  ชานนท์มองหน้าหญิงสาวแล้วนิ่งไปอึดใจใหญ่ ไม่นานป้าสมใจก็ยกขนมกับน้ำหวานมาให้ ณิชาเกรงใจรีบกุลีกุจอช่วยยก แต่แล้ว มือน้อยๆ ก็ซุ่มซ่ามทำน้ำแดงหกใส่ตักของชานนท์ “ตาย! ตายแล้ว! ตายแน่ๆ!”  ณิชาแทบจะร้องกรี๊ด หันซ้ายหันขวาเห็นผ้าขนหนูที่ป้าสมใจแหนบในกระเป๋าด้านหน้าของผ้ากันเปื้อน มือเล็กรีบคว้ามาจะเช็ดคราบน้ำออกให้ แต่มือใหญ่โบกมือห้ามไว้ก่อน “เฮ้ย! ไม่ต้อง เดี๋ยวผมทำเอง” “ได้ยังไงละ ก็เตยทำคุณเลอะ” หญิงสาวทำหน้าตาตื่น “ก็มัน...เฮ้อ! เด็กเอ๊ย!” เขาหงุดหงิด จะให้พูดยังไงว่ามือจะโดนเป้ากางเกงเขานะซิ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะของปกรณ์ ชานนท์ก็ได้หันไปทำตาเขียวใส่ “คุณปรกณ์....” “ครับๆ ผมทราบแล้ว” ปกรณ์เข้ามาห้ามณิชาเสียก่อน “ไม่เป็นครับคุณเตย ผมจัดการเอง คุณนนท์เขาไม่อยากให้ใครแตะต้องน้องชายของเขานะครับ” “น้องชาย?” หญิงสาวทำหน้างงๆ แล้วใบหน้าหวานก็เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่ออย่างเพิ่งเข้าใจความหมาย “เตย...เตย...เตยกลับบ้านก่อนนะคะ” เธอทนความเขินอายที่ทำหน้าเธอร้อนผ่าวไม่ไหว หันไปเรียกเจ้าไข่ดาวแล้วรีบยกมือไหว้ลาทุกคนรีบวิ่งออกไปทันที “เด็กคนนี้น่ารักดีนะครับคุณนนท์” ปกรณ์ชวนคุย “เด็กบ้า” ชานนท์กัดฟัน เธอทำเขาเขินไปด้วย เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆเชียว ปกรณ์หัวเราะแล้วพาชานนท์กลับมาด้านในเพื่อช่วยเปลี่ยนกางเกงให้ แต่ชานนท์ห้ามไว้ก่อน            “ไม่เป็นไร ผมจะลองลุกขึ้นเอง” “ดีครับ” ปกรณ์ยิ้มอย่างดีใจ “มีคนท้าต่อยแบบนี้ คงต้องรีบหัดเดินให้ได้เร็วๆแล้ว” ชานนท์พึมพำแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ณิชากลับจากเรียนลงรถสองแถวแล้วแวะ เอาจักรยานที่จอดไว้ที่ร้านขายของชำหน้าปากซอย เพื่อปั่นเข้าบ้าน แน่นอนว่าธอต้องผ่านบ้านหลังนั้น ดวงตาคู่สวยอดมองเข้าไปไม่ได้ แต่เพราะมัวแต่มองข้ามรั้วเตี้ยๆนั้น ไม่ได้มองทางข้างหน้า ทำให้จักรยานตกหลุมแล้วร่างเล็กก็ล้มลงไปพร้อมจักรยาน “โอ๊ย!” เพราะว่าใกล้จะถึงบ้านตัวเองอยู่แล้ว บรรดาหมาทั้งหลายได้ยินเสียงเจ้านายเลยพากันกรูวิ่งเข้ามาเห่าเรียกด้วยความเป็นห่วง แต่เสียงหมาหน้าบ้านก็ดังไปถึงในบ้าน ทำให้คนที่กำลังฝึกเดินอยู่เอี้ยวตัวมองทางต้นเสียง พอได้ยินเสียงหมาทีไร เขาจะคิดถึงเด็กดื้อที่ชอบรวบผมม้าคนนั้นทุกที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม