สองทุ่ม ณ ห้องอาหารเมอร์รินริมน้ำ
หญิงสาวในชุดราตรีกระโปรงแหวกจนเห็นขาอ่อนเดินเข้ามาด้านในด้วยความมั่นอกมั่นใจ ห้องอาหารเงียบเป็นส่วนตัว มีเพียงโต๊ะเดียวที่มีคนและแน่นอนว่าคงเป็นใครไปไม่ได้นอนจากลัมบาน่า บราวน์ ผู้ชายที่นัดเธอออกมาในเวลานี้
“นั่งสิ” น้ำเสียงราบเรียบชวนให้ขนลุกเอ่ยขึ้น เขาดูสุขุมไม่แปลกเลยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดสูงสุดของคนที่น่ากลัวมากที่สุดในฮ่องกง และอีกหลาย ๆ ประเทศ
“ขอบคุณค่ะ” เธอค่อย ๆ นั่งและรักษามารยาททางสังคมอย่างดี ทุกการเคลื่อนไหวอยู่ในสายตาของชายวัยเกือบกลางคนตลอดเวลา
“แนะนำตัวเองหน่อยสิ ฉันอยากฟังจากปากของเธอ”
“ไวโอเล็ต วิลเลี่ยมค่ะ นางแบบไม่มีสังกัด”
“คิดว่าตัวเองเหมาะสมกับการโปรโมทคอนโดในเครือบราวน์?” คำถามแรกก็เล่นเอาความมั่นใจในตัวของร่างบางหายไปเกือบครึ่ง แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ยังทำทีเป็นใจดีสู้เสืออยู่ดี
“ในระดับหนึ่งค่ะ และมั่นใจว่าหากได้รับเลือกไวน์จะทำได้ดี” คำตอบของเธอเรียกรอยยิ้มของลัมบาน่าได้ไม่น้อย เขามองผู้หญิงตรงหน้าก่อนจะเรียกพนักงานเข้ามา
“อยากทานอะไรสั่งเลย”
“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ”
“ถ้าอยากร่วมงานกับฉัน อย่าเสียมารยาทจะดีกว่า” ไวโอเล็ตกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น เธออยากเล่นบทสาวใสซื่อเพื่อให้ลัมบาน่าตายใจก็แค่นั้นเอง
“ขอโทษค่ะ” เธอเอ่ยก่อนจะเริ่มเปิดเมนูอาหารดูช้า ๆ
“หากไม่เป็นการรบกวน คุณลัมบาน่าช่วยแนะนำอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ให้ไวน์หน่อยได้หรือเปล่าคะ?” เธอเงยหน้าเอ่ยพร้อมมองเขาเล็กน้อย
“ฮีสเตอร์แฮมฮันนี่มัสตาร์ดให้เธอ” ร่างหนาเอ่ยสั่งเสียงเรียบ ก่อนพนักงานจะจดและหมุนตัวเดินออกไป
“แล้วคุณทานอะไรคะ?”
“ฉันยังไม่หิว”
“ค่ะ” หญิงสาวไม่อยากเซ้าซี้มากกว่านี้จึงเลือกนั่งเงียบ ๆ และมองวิวข้างนอกไปเรื่อย ๆ เธอยอมรับเลยว่าที่นี่บรรยากาศดีไม่น้อย ติดริมแม่น้ำ แถมยังได้วิวเมืองสวย ๆ อีก ไม่แปลกเลยหากจะได้คะแนนนิยมสูงกว่าโรงแรมอื่น ๆ
“ชื่อเล่นชื่อไวน์?”
“ค่ะ”
“ชื่อเธอน่าชิมดีนะ” เขาพูดสองแง่สองง่าม กดยิ้มเล็กน้อยและยกเครื่องดื่มตรงหน้าจิบ
“คุณเป็นคนที่ค่อนข้างน่าเกรงขาม แบบนี้ภรรยาและลูกคงกลัวน่าดู” ไวโอเล็ตเพียงแค่โยนหินถามทางก็เท่านั้น เธออ่านประวัติลัมบาน่ามาแล้วว่าเขาไม่มีภรรยา แต่ในวงการแบบนี้เรื่องส่วนตัวปิดกันได้ง่ายจะตายไป บางทีคนที่ส่งเธอมาทำงานสำคัญก็อาจจะพลาดได้
“ฉันไม่มีภรรยา มีแค่สี่แฝด”
“ขอโทษที่ไวน์เสียมารยาทนะคะ ไวน์ไม่รู้ว่าคุณเลิกกับภรรยา”
“งั้นเหรอ ฮ่า ๆ ทั้งที่แค่พิมพ์ชื่อฉันลงอินเทอร์เน็ตของเธอ ข้อมูลง่าย ๆ แบบนั้นก็เด้งมาแล้วนะสาวน้อย”
“ไวน์ไม่อยากเสียมารยาท อีกอย่างมันค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ คงไม่เหมาะจริงมั้ยคะ?” เขาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่มองออกไปรอบนอกเท่านั้น
“ภรรยาฉันเสีย ไม่ได้เลิกกัน”
“อ่า งั้นไวน์คงต้องขอโทษอีกครั้งเลยค่ะ” เธอยกมือขึ้นไหว้เขาอย่างนอบน้อม
“แล้วเธอล่ะ?”
“หมายถึงอะไรเหรอคะ?” เธอแสร้งทำว่าไม่รู้
“มีครอบครัวหรือยัง?”
“ยังค่ะ” คำตอบของเธอไม่ได้ผิดจากที่เขารู้สักเท่าไหร่
“ในประวัติของเธอ ฉันเห็นนามสกุลวิลเลี่ยม เป็นลูกครึ่ง?”
“เป็นนามสกุลของคนที่รับเลี้ยงไวน์ค่ะ” เธอไม่ได้โกหก เพียงแค่บอกไม่หมดว่ามันคือนามสกุลของเมียเก็บคนที่รับเลี้ยง
“เป็นเด็กกำพร้า?” หญิงสาวเม้มปากแน่นและพยักหน้าช้า ๆ
“เธอกับฉันน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้ ไม่งั้นคนที่ได้เลี้ยงดูเธอคงเป็นฉัน” ไวน์เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบ เพราะดูเหมือนลัมบาน่ากำลังไล่ต้อนเธอทุกทางเลยในตอนนี้ ความแพรวพราวที่ตั้งใจเอามาใช้กับเขาไม่ทันได้เอ่ยขึ้นมาด้วยซ้ำ แต่กลับถูกเขาเล่นงานเสียก่อน
“แบบนั้นเราก็จะได้เป็นแค่พ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงสิคะ”
“ก็จริงของเธอ เจอตอนนี้ก็ไม่สาย หากฉันอยากได้เธอมาเป็นของฉัน ตอนไหนก็เป็นได้ทั้งนั้นจริงมั้ย” ไวโอเล็ตไม่ได้ตอบ เธอยิ้มเล็กน้อย และเหมือนโชคช่วยเมื่ออาหารที่สั่งไปถูกนำมาเสิร์ฟพอดี ความเป็นจริงแล้วทุกอย่างเป็นไปตามที่ลัมบาน่าวางไว้ทั้งหมด