เย็นของวันที่สามในฮ่องกง ลัมบาน่าเตรียมตัวเดินทางกลับพร้อมการ์ดอีกยี่สิบคนที่ได้รับการฝึกฝนจนจบหลักสูตร ที่บราวน์แข็งแกร่งได้มากขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะใช้ทหารที่ผ่านการรบจากอัฟกานิสถานเป็นครูฝึก
"ตรงไปที่บ้านใหญ่เลยมั้ยครับ?"
"ยังก่อน วันนี้แฝดไม่อยู่ฉันจะไปนอนที่เพนท์เฮ้าส์"
"ได้ครับ ผมจะให้คนที่นู่นเตรียม"
"ให้คนไปรับไวโอเล็ตพาไปเพนท์เฮ้าส์"
"นายครับ..." ไดมอนด์ไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ที่จะให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวบ่อย ๆ
"ไม่เอาหน่า นายทำอย่างกับว่าฉันยังไม่โตอีกคนแล้วนะ"
"เฮ้อ ก็ได้ครับ" ไดมอนด์เดินหายไปสักพักก่อนจะกลับมา
"นายแจ้งคุณไวโอเล็ตไว้หรือยังครับ?"
"เดี๋ยวจะส่งข้อความไปบอก"
"ไม่กลัวเขาไม่ว่างเหรอครับ?"
"ไวน์น่ะเป็นผู้หญิงที่เก็บทุกโอกาส มุ่งมั่นแต่จะตอบแทนจนลืมบางเรื่องไป เพราะฉะนั้นฉันเรียกหาเมื่อไหร่เขาก็จะมาเมื่อนั้น"
"นายน่ากลัว ผมไม่ได้พูดเล่น"
"ฉันเคยทำอะไรใครก่อนหรือไง ถ้าไม่มายุ่งกับฉันหรือครอบครัวบราวน์ก่อน" ถึงมีอำนาจมากมายในมือแต่ชายหนุ่มไม่เคยคิดจะเอามันมาใช้ในทางที่ผิดเลยสักนิด
"ไปขึ้นเครื่องกันเลยมั้ยครับ?"
"อืม ก็ดี อยากกลับไทยจะแย่"
"คิดถึงคุณแฝด?"
"คิดถึงไวโอเล็ตมั้ง" คนเป็นนายตอบทีเล่นทีจริง คงเพราะอยากต่อมุขที่เขาส่งไปให้
"ไดมอนด์"
"ครับ"
"นายไม่คิดจะมีครอบครัวบ้างหรือไง?"
"นายไงครับครอบครัวผม" คำตอบของการ์ดคนสนิทไม่ได้ผิดจากที่เขาคิดไว้สักเท่าไหร่ ตั้งแต่เริ่มทำงานด้วยกันไดมอนด์ไม่เคยเปิดใจให้ใครแม้กระทั่งแม่บ้านสาวสวยในบ้านเขาจะชอบเด็กตรงหน้าสักเท่าไหร่ แต่ไดมอนด์ไม่เคยคิดจะเปิดโอกาส
"ฉันหมายถึงเมีย"
"รอนายมีก่อนแล้วกันครับ"
"ฉันก็มีแล้ว พิมพ์พรรณไง"
"หมายถึงเมียใหม่ครับ"
"อืม รอไปแล้วกัน" การ์ดหนุ่มหลุดขำเมื่อเจ้านายตอบพร้อมเดินหนี ถึงไม่มีใครพูดเรื่องนี้แต่ไดมอนด์ที่ทำงานมานานรู้ดีว่าเจ้านายเขาไม่เคยลืมคนรักที่เสียไป
สามชั่วโมงต่อมา อีกไม่ถึงยี่สิบนาทีเครื่องก็จะถึงไทย ลัมบาน่าคิดไม่ตกกับเรื่องที่คุยเมื่อก่อนหน้าเกี่ยวกับคนรักใหม่ เขาเคยคิดเรื่องนี้ มีผู้หญิงมากมายที่อยากจะเป็นคนนั้นแต่ยังไม่มีใครเลยสักคนที่ทำให้ลัมบาน่าเปิดใจได้เต็มร้อย หากจะบอกว่าสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่เคยลองเริ่มต้นกับใครคงเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ
"นายครับ คุณไวโอเล็ตถึงเพนท์เฮ้าส์แล้วครับ"
"ให้การ์ดเฝ้าหน้าห้องพอ ในห้องไม่ต้องเฝ้า ให้เขามีอิสระ"
"ถ้าเขาติดเครื่องดักฟังล่ะครับ"
"ไดมอนด์"
"ครับนาย"
"หากเขาทำฉันจะทำให้เขารู้ว่าคิดผิด เพราะฉะนั้นทำตามที่บอก" การ์ดถอนหายใจหนึ่งครั้งและเดินออกไปสั่งตามที่ลัมบาน่าต้องการ
เพนท์เฮ้าส์ส่วนตัว
"ไง" ลัมบาน่าเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพบว่าไวโอเล็ตกกำลังทำบางอย่างในครัว
"คุณมาแล้ว"
"เรียกอย่างอื่นดีมั้ย แบบนี้ห่างเหินเกินไป"
"ไม่เป็นไรค่ะ คนอื่นได้ยินเข้าคงไม่ดี" เธอตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารต่อ
"อยากทานอะไรทำไมไม่บอก ฉันจะให้คนซื้อมาให้"
"ไวน์อยากให้คุณชิมอาหารที่ไวน์ทำเองมากกว่า"
"ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องทำ ฉันง่าย ๆ อยู่แล้ว"
"ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ช่วงนี้คิวงานไวน์ว่าง คุณมาถึงไปอาบน้ำให้เรียบร้อยดีกว่านะคะ"
"สั่งเหมือนเมีย" ลัมบาน่าพูดขึ้นลอย ๆ เหมือนบ่นเฉย ๆ พร้อมถอดเสื้อสูทตัวนอกออก
"ขอโทษที่ทำตัวแบบนั้นนะคะ"
"ฉันชอบ ไม่ต้องคิดมากพูดเฉย ๆ ไม่ได้อยากทำให้เธอน้อยใจ" ร่างหนาเดินมาหยุดด้านหลังของคนตัวเล็ก
"ไวน์ไม่ได้น้อยใจนะคะ"
"หึ! คำตอบที่เธอถามในข้อความ..." ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ หูของเธอก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวาน ๆ ด้วยสายตาที่กำลังพิจารณา
"เธอติดฉันได้ เท่าที่ต้องการ" น้ำเสียงแหบพร่าทำเอาไวโอเล็ตขนลุกแปลก ๆ
"อ่า หลบไวน์ก่อนได้มั้ยคะ จะจัดจาน"
"ไม่ชอบให้ฉันเข้าใกล้เหรอ?" เขารั้งเอวบางให้หันหน้าเข้าหาตัว ก่อนจะปัดปอยผมที่กำลังบดบังหน้าสวย ๆ ออกให้พ้นทาง
"เปล่าค่ะ"
"งั้นก็อย่าไล่สิ"
"ไวน์ไม่ได้ไล่นะ" เธอพูดและก้มหน้าลง หูแดง ๆ บ่งบอกว่าเขากำลังทำให้เธอเขินไม่น้อย
"หึ! งั้นก็ตั้งใจทำ เดี๋ยวฉันอาบน้ำแล้วจะออกมาชิม" ร่างสูงเดินหายไปในห้องนอน ไวโอเล็ตจับแก้มร้อน ๆ ของตัวเองก่อนถอนหายใจหนัก
"ใจสั่นไม่ได้นะไวน์" เหมือนเธอกำลังเตือนสติตัวเองอยู่ในตอนนี้
เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยลัมบาน่าเดินออกจากห้องด้วยกางเกงขายาวเสื้อแขนยาวสีขาว ความดูดีไม่ลดลงจากตอนแรกแม้ว่าผมจะไม่ได้เซ็ทให้เข้าที่ดีเหมือนก่อนหน้า ไวโอเล็ตจ้องมองตาไม่กะพริบ
"ไวน์"
"ค..คะ"
"ใจเย็น ๆ เหม่ออะไรหื้ม?" เขาฉวยโอกาสเดินเข้าใกล้เธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้ร่างบางรีบหยิบกระทะและเดินตรงไปยังจานอีกใบที่ว่างอยู่ ราวกับว่าหาทางเอาตัวรอด
"ไม่ได้เหม่อนะคะ แค่ไม่เคยเห็นคุณมุมนี้มาก่อน"
"แล้วชอบมั้ย?" ถึงแม้หญิงสาวจะทำให้ตัวเองอยู่ไม่เฉยยังไง แต่ชายหนุ่มก็รั้งเอวเธอเข้าหาตัวเองได้อยู่ดี
"คุณ..."
"ขอกอดหน่อยได้หรือเปล่า ฉันไม่มีที่ชาร์จแบตเป็นของตัวเอง" เธอไม่ตอบแต่ยืนนิ่ง ๆ ให้เขากอดสักพัก พอเจ้าตัวพอใจก็ผละร่างออกไปเอง
"ไปนั่งรอที่โต๊ะนะคะ เดี๋ยวไวน์ยกไปให้"
"เธอทำมากพอแล้ว เดี๋ยวฉันยกไปเอง"
"แต่..."
"ไม่ดื้อนะเด็กดี" ไวโอเล็ตรู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบ วันนี้เหมือนเธอสูญเสียตัวตนของตัวเองไป ใครจะรู้ว่าผู้ชายนิ่ง ๆ แท้จริงแล้วสามารถทำให้ใจสั่นได้มากกว่าที่คิด หากเขาไม่ได้บาดหมางกับภัคคินสันเรื่องระหว่างเขากับเธอสามารถพัฒนาไปต่อได้มากกว่าที่เป็นหรือเปล่า คนตัวเล็กคิดในใจ
"เดินไปรอที่โต๊ะสิ" ลัมบาน่าเหมือนรู้สิ่งที่เธอกำลังคิดในใจจึงเลือกตัดบทขึ้นมา ไม่อยากให้ไวโอเล็ตทบทวนอะไรในตอนนี้ เขาอยากให้ทั้งเธอและเขารู้จักกันดีมากกว่านี้เสียก่อน ไม่งั้นมันอาจจะเสียเรื่อง
"ทำอาหารอร่อยนะ"
"ไวน์ดีใจที่คุณชอบ"
"แล้วของหวานล่ะมีหรือเปล่า?"
"ขะ..ของหวานเหรอคะ ไวน์ไม่ได้ทำขอโทษด้วยค่ะ"
"ไม่ต้องขอโทษ ฉันหาของหวานจากเธอได้"
"หื้ม?" เธอไม่เข้าใจที่เขากำลังจะสื่อ และยิ่งไปกว่านั้นลัมบาน่าก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อเหมือนไม่ได้เอ่ยคำนั้นออกมา
"รีบทานสิ ฉันจะได้ทานของหวานต่อ"
"ค่ะ" ถึงไม่รู้แต่ก็ทำตามที่เขาบอก ไวน์โอเล็ตชอบเล่นกับไฟ เพราะฉะนั้นลัมบาน่าจะทำให้เธอรู้ว่าเขานะร้อน (แรง) ยิ่งกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก