พิมพ์นาราจดๆ จ้องๆ รวบรวมกำลังใจให้ตนเองว่าจะเข้าไปทักทายคนในโรงครัวดีไหม ในที่สุดเธอก็สาวเท้าช้าๆ ทว่ามั่นคงเข้าไปที่โรงครัว แม้จะจำได้ดีถึงพิษโกรธของคนในเกาะที่มีต่อเธอ แต่หญิงสาวก็ยังรวบรวมความกล้าเข้าไปทักทายคนในโรงครัวจนได้ “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้นาราช่วย...ไหมคะ” พิมพ์นาราแทนชื่อตัวเองว่านารา อย่างที่นายหัวราเมศวร์ได้เอ่ยเรียก จากตอนแรกหญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงสดใส แต่พอเห็นคนงานในโรงครัวได้หันมามองด้วยสีหน้าเฉยเมย บางคนเผยอาการโกรธเคืองให้เห็นอย่างชัดเจนโดยไม่คิดปิดบัง น้ำเสียงที่ทักทาในตอนท้ายก็เลยแผ่วเบา ใบหน้างามถอดสีเผือดทันที แม้จะได้รับปฎิกิริยาต่อต้านจากคนงานซึ่งสาละวนอยู่กับหน้าที่ของตนเอง ซึ่งกำลังเตรียมมือเที่ยงรอคนงานผู้หิวโซ ที่จะพักมาทานมื้อเที่ยงในอีกไม่กี่สิบนาทีข้างหน้า แต่พิมพ์นาราก็ไม่ยอมแพ้ รีบเข้าไปช่วยคนงานสาวคนหนึ่ง ที่กำลังยกน้ำพริกไตปลามาตั้ง