วันต่อมา
ตุลย์ขับรถมาส่งวันใหม่ที่โรงเรียนเหมือนทุกวันทำให้วายุแอบขับตามมาจนถึงโรงเรียนอนุบาล วายุมองดูวันใหม่ที่ดูสดใสร่าเริงเหมือนเอวาตอนเข้าวงการใหม่ๆเลย รอยยิ้มของเธอมันดูมีมนต์สะกดจัง
ด้านเอวาตอนนี้เธอก็เริ่มเก็บของบางส่วนเอาไว้เพราะวาริสจะมารับเธอในตอนเย็นอย่างน้อยวันใหม่ก็ได้มีที่อยู่ที่ดีกว่านี้ ได้เรียนโรงเรียนที่มีสังคมดีๆ
//วายุ//
ผมให้ลูกน้องมาติดต่อในการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กเล็กแน่นอนว่าทางโรงเรียนยินดีและต้อนรับวายุราวกลับเจ้าชายจนแทบจะปูพรมแดงให้เดินเลยทีเดียว
“นั่นคนไม่ดีนี่หน่า”
“อะไรเหรอวันใหม่” ปูเป้ถามเพื่อนรักที่ชี้หน้าวายุอยู่ในห้องเรียน
“แม่เราบอกว่าเขาคือคนไม่ดีไม่ควรเข้าใกล้ อันตรายสงสัยพ่อแม่ไม่สั่งสอน!!”
“งั้นแบบนี้พวกเราต้องอยู่ให้ห่างผู้ชายคนนั้นแล้วล่ะ”
เด็กๆต่างวางแผนกันจนกระทั้งคุณครูเดินมาตามให้ออกไปเข้าแถว วายุจึงหันมายิ้มให้วันใหม่แต่วันใหม่กับสะบัดหน้าหนีอย่างเดียว
“วันใหม่เจอกันอีกแล้วนะ” ผมเดินเข้ามาทักวันใหม่แต่กับมีบอดี้การ์ดตัวเล็กกันเอาไว้
“อย่ามายุ่งกับแฟนผมนะ!!”
โอ้โห เต็มปากเต็มคำวายุถึงกับมองหน้าวันใหม่แต่เธอไม่สนใจวายุเลย แบบนี้คงโดนเอวาสอนมาแล้วแน่นอน
“วันใหม่ขา ไปกินขนมกันไหมคะ”
“ไม่ค่ะ ไม่คบกันหน้าแปลก”
“แปลกหน้าไหมคะ” เฮ้ออ งานยากแล้วสิ ผมเดินกลับมาเพื่อรอแจกขนมให้เด็กๆบอกเลยว่าผมพร้อมที่จะหิ้วลูกผมมาก หลังจากที่เด็กๆนั่งทานขนมวายุก็พยายามเดินเข้าไปคุยกับวันใหม่แต่ก็ถูกลูกเขยตัวเล็กกันไว้ มันน่าตบนัก
“วันใหม่มาคุยกันหน่อยไหม”
“ไม่ค่ะ!!”
ด้านครูประจำชั้นตอนนี้ก็กำลังถ่ายรูปกิจกรรมและการทานอาหารของเด็กๆลงในไลน์กลุ่มผู้ปกครองทำให้เอวาหัวใจตกไปอยูที่ตาตุ่ม เพราะในรูปดูก็รู้ว่าวายุกำลังเข้าหาวันใหม่ เธอจึงรีบโทรหาคุณวาริสให้ทราบเรื่อง หลังจากที่วาริสรู้เรื่องแล้วเธอก็รีบส่งคนไปดูแลวันใหม่เพื่อป้องกันวายุเอาตัววันใหม่ไป
//เอวา//
ไม่ใช่ว่าคุณวายุรู้แล้วนะว่าวันใหม่เป็นลูกของเขา แบบนี้ฉันจะทำยังไงลูกจะได้อยู่กับฉันไหม สติของฉันเริ่มไม่อยู่กับตัวจนตุลย์ต้องรีบกลับมาหาฉันทันทีที่รู้เรื่องเราสองคนเลยเลือกที่จะไปรับวันใหม่จากโรงเรียนและหนีไปอยู่คอนโดของคุณวาริสที่จัดเตรียมเอาไว้ให้แล้ว
“เขาจะสะกดรอยตามเราไหมตุลย์”
“ตอนนี้ไม่นะ เขายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเราแอบไปรับวันใหม่มาแล้ว วันใหม่คะมีใครทำอะไรวันใหม่หรือเปล่า” ผมมองกระจกหลังเพื่อดูวันใหม่ละดูว่ามีใครตามผมมาไหม
“มีคนไม่ดีคนนั้นพยายามชวนคุยค่ะแต่ปูเป้กับฮาร์ทกันไว้”
“ดีมากลูก จำไว้นะผู้ชายคนนั้นทำลายอนาคตของเราสองคน”
“เอวาสอนลูกแบบนี้จะดีเหรอ”
“ตุลย์เค้าทำให้เอวาต้องเป็นแบบนี้ เค้าทำให้เอวาหมดสิ้นทุกอย่างในชีวิต ถ้าวันนั้นไม่มีตุลย์เอวาอาจจะทนไม่ได้ อาจจะกระโดดตึกตายไปแล้ว!!” ฉันถึงกับฟิวส์ขาดจนตุลย์ต้องดึงฉันไปซบไหล่ ฉันไม่ได้อยากอ่อนแอต่อหน้าลูกเลยแต่ครั้งนี้มันสุดทนจริงๆ
“ไม่เป็นไรเอวา ตุลย์จะอยู่กับเอวาเอง ไม่ว่าจะฐานะอะไรตุลย์ก็จะไม่ทิ้งเอวากับวันใหม่ อย่าคิดมากเลยนะ”
คอนโดวาริส
ตอนนี้วาริสรออยู่ที่ล็อบบี้จากนั้นก็รีบพาทั้งสามขึ้นมายังชั้น40เพื่อดูห้องพักของทุกคน เอวาไม่รู้จะขอบคุณวาริสยังไงเธอได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณจนวาริสต้องเบรกเอาไว้
“ไม่ต้องขอบคุณขนาดนี้หรอก หลังจากนี้เธอกับลูกอยู่ภายใต้การดูแลของฉัน ไม่ว่าไอ้น้องชายฉันมันจะอยากได้ตัวเธอขนาดไหนแต่คนของฉันจะจับมันออกไปโยนไว้หน้าคอนโดเอง”
“คนไม่ดีคนนั้นทำมี๊หนูร้องไห้ค่ะ!!” เด็กขี้ฟ้องรีบผสมโรงจนวาริสต้องย่อตัวลงมาคุยด้วย
“หลังจากนี้ไม่ต้องกลัวนะ ป้าวาริสจะปกป้องหนูเอง ใครที่มันทำให้หนูกับมี๊ต้องเสียใจป้าจะจัดการตีมันด้วยก้านมะยมเลยดีไหมคะ”
“ดีค่ะ ตีแรงๆเลยนะคะ”
วายุเมื่อรู้ว่าวันใหม่กลับไปแล้วก็รีบให้คนออกตามหาแต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ววายุจึงมาดูที่หอ สภาพภายในหลังจากที่พังประตูเข้าไปข้างของถูกเก็บเพื่อเตรียมย้าย เธอจะพาลูกฉันไหมไหนเอวา!!
“ออกตามหาให้ทั่ว วันนี้คงยังไม่ไปไหนไกลหรอก หาให้เจอไม่เจอก็อย่ามาเสนอหน้าให้กูเห็นอีก!!!”
“ครับนาย”
ผมเดินเข้ามาดูของใช้ ของเล่นของวันใหม่มันเป็นของที่ถูกซ่อมแล้วซ่อมอีก ตุ๊กตาหมีก็เย็บจนไม่มีที่จะเย็บอยู่แล้ว การเป็นอยู่ของลูกผมมันไม่ดีเลย ผมจะเห็นแก่ตัวเกินไปไหมถ้าจะเอาลูกมาอยู่กับผม
“นายครับ มีคนเห็นลูกน้องของคุณวาริสมาจอดรถอยู่ที่หน้าหอครับ”
“อืม พวกมึงไปหาต่อเถอะเดี๋ยวกูจะไปคุยกับพี่กูเอง”
ผมขับรถมาที่บ้านหลังใหญ่ตอนนี้พ่อผมกำลังคุยงานกับลูกพรรคส่วนผมก็ระเบิดลงใส่พี่สาวทันที
“วันใหม่อยู่ไหน!!”
“จะรู้ไหม?”
“ผมไม่ตลกกับพี่นะ อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าส่งคนไปแอบดูเอวากับลูก ไหนจะเรื่องที่แอบไปหาอาหมออีก!!”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก ทำไมขึ้นเหรอโกรธมากไหม กรี๊ดออกมาสิ!!”
“บอกมาว่าเอวากับวันใหม่อยู่ที่ไหน!!!!”
“มีเรื่องอะไรกัน!!”
เสียงทะเลาะกันของพี่น้องทำให้ผู้เป็นพ่อต้องออกมาห้ามปราม นานแล้วที่วาริสไม่เคยโมโหขนาดนี้ ทั้งสองคนรีบถอยออกจากกันไม่มีใครมองหน้ากันจนผู้เป็นพ่อต้องเรียกทั้งสองคนเข้ามาคุย