“เธอ...” เขาเปิดประตูออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาฉันผงะถอยหลังทันที เขาดูตกใจมากที่เห็นฉันอยู่ตรงนี้ ส่วนฉันก็ตกใจมากที่เห็นเขาเปิดหน้าผาก หล่อกว่าตอนเอาผมลงซะอีก
“ทำไมเธออยู่ที่นี่” เขาหันซ้ายแลขวาด้วยความสงสัย ฉันก็เลยฉีกยิ้มให้เขา
“ฉันอยู่ห้องนี้น่ะ”
“ไรวะ ทำไมเธอ” เขาตกใจมาก ไม่แปลกหรอกใครจะไปคิดว่าอยู่ ๆ เราจะได้เป็นเพื่อนบ้านกัน “โรคจิตชะมัด”
“อ้าว...” ฉันโดนด่าอีกแล้ว “ฉันแค่เช่าห้องอยู่ตรงข้ามกับนายนะ ไม่ใช่โรคจิต”
“นั่นแหละที่เรียกว่าโรคจิต”
“ชิ! ด่าอยู่ได้ ผู้ชายอะไรปากจัด” เขามองหน้าฉัน ก่อนจะรีบเดินกลับเข้าห้อง ทว่า
หมับ!
แคว่ก!
ให้ตายสิ มือฉันไวกว่าความคิด
“เธอ...” ฉันมองฝ่ามือตัวเองที่ดึงเสื้อของเขาไว้ และมันก็ขาดด้วย “เชี่ย...เสื้อกู”
“แฮะ ๆ ดึงเบา ๆ เองมันขาดได้ไงเนอะ” เสื้อยืดสีขาวของเขาตรงแขนมันขาดเพราะฉันกระชากไว้เมื่อครู่ ทำไมฉันถึงเป็นตัวซวยของเขาแบบนี้
“ปล่อย” ว่าเสียงลอดไรฟันด้วยความโมโห ทว่าขณะนั้นเองที่ฉันรู้สึกแปลก ๆ ตรงหัวนม
“อ๊ะ...”
“ไรวะ”
“กรี๊ดดด!!” ฉันส่งเสียงกรีดร้องออกมาพร้อมกับยื่นฝ่าเท้าไปเหยียบที่แปะจุกนมของฉันที่มันร่วงลง ซึ่งรอบแรกร่วงแค่ข้างเดียวแต่พอฉันขยับตัวแรง ๆ อีกข้างก็ร่วงตามมา
“เธอ...” แทนไทอ้าปากเหวอทันที เขากะพริบเปลือกตาถี่ ๆ ราวกับว่าสมองเริ่มประมวลผลได้แล้วว่าที่เห็นเมื่อครู่นั่นคืออะไร ก่อนที่เขาจะเลื่อนสายตามามองหน้าอกของฉัน
“มะมองอะไร!” ฉันอยากจะวิ่งไปกรี๊ด ๆ เมื่อเห็นว่าคนตัวโตมองหน้าอกของฉันที่ไม่มีที่แปะจุกและหัวนมฉันก็ออกมาทักทายเขา! ทว่า
“เชี่ย...กูมาเจออะไรวะเนี่ย”
“เดี๋ยว เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ มาเจออะไรวะเนี่ย หมายความว่าไง” ฉันยกมือขึ้นเท้าเอวทันที เขาพูดเหมือนกับมาเจอของไม่ดี
“เธอช่วยขยับออกแล้วไปหาไรมาปิดที”
“ทำไม ก็แค่หัวนมแล้วก็มีเสื้อปิดด้วยไม่ได้เปลือยสักหน่อย”
“แต่ฉันเป็นผู้ชายไง”
“แล้ว?” คราวนี้เขาไม่ตอบ แทนไทจ้องตาฉันนิ่ง ก่อนที่ฉันจะกลืนน้ำลายลงคอเมื่อรับรู้ว่านี่...ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
“เอ่อ...กะก็ได้” ฉันเห็นใบหูของเขาแดง และฉันที่กำลังรู้ตัวว่าไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้ให้ผู้ชายเห็น
“หึ...หรือที่เธอมาที่นี่...” เขาว่าก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ทำให้ฉันก้าวขาถอยหลังจนแผ่นหลังชิดกับประตูห้องของตัวเอง
“ทะทำอะไร”
“เธอมาอ่อยฉันเหรอ” เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แทนไทเดินเข้าหาฉันจนตัวเราสองคนห่างกันไม่ถึงคืบ
“อึก...” ฉันหายใจไม่ทั่วท้อง อยู่ ๆ ก็มีก้อนน้ำลายมาจุกอยู่ที่คอ ใจของฉันเต้นตึกตัก และกลิ่นน้ำหอมโคโลญจน์จากตัวเขา
หอมมากให้ตายสิ
“ฉันไม่ได้มาอ่อยนายแค่ แค่...” ฉันพูดไม่ออกแล้ว ก็เลยอาศัยจังหวะนี้เปิดประตูห้องของตัวเอง ก่อนจะเข้าห้องไป ทว่า
“มาเอาไอ้นี่ของเธอไปด้วย!”
“จริงด้วย” ฉันรีบเปิดประตูออกก่อนจะก้มลงเก็บที่ปิดจุกโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเขาอีกเลย แต่ก่อนจะปิดประตูสนิทฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา
“ฮ่า ๆ” เขาหัวเราะเป็นด้วย ฉันเผลอยิ้มออกมาเมื่อทำให้เขาหัวเราะได้ นึกว่าหน้าตายเป็นอย่างเดียว
...แม้จะผ่านมานานแล้วแต่พอขึ้นเตียงนอนฉันกลับนอนไม่หลับ อย่างกับละครแหนะที่อยู่ ๆ รุ่นน้องของเขาก็เป็นลูกของน้านภาแฟนพ่อบุญธรรมของฉัน แต่ว่าพอนึกถึงเรื่องนี้เสียงหัวเราะของแทนไทก็ดังเข้ามาในหัว เขาหัวเราะแล้วมันน่ารักหนุบหนับหัวใจมาก ให้ตายสิฉันคิดถึงเขาไม่หยุดเลย
วันต่อมา...
[เรามาคุยกันก่อนดีไหมว่าจะเอายังไง ถ้าลูกไม่สบายใจพ่อก็จะได้บอกกับนภา]
ตื่นมาฉันก็เห็นข้อความนี้แล้ว ฉันไม่ได้อยากขัดขวางความรักของพ่อ เพียงแค่รู้สึกเหมือนกับถูกแย่งความรักประมาณนั้น อาจจะฟังดูงี่เง่าแต่ฉันไม่เหลือใครแล้ว
ทว่า
ติ๊ง!
[อยู่ไหน! ไม่เข้าเรียนหรือไงอาจารย์เช็กชื่อ!] ฉันเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นข้อความจากนัตตี้ รีบดีดตัวลงจากเตียงนอนไปอาบน้ำ ให้ตายสิลืมไปเลยว่าวันนี้มีเรียนเช้าแล้วอาจารย์ที่สอนคาบแรกก็โหดมาก
“โอ๊ย! ไม่มีชุด” ฉันยกมือขึ้นกุมขมับ หันไปเห็นเสื้อยืดเมื่อวานที่ซื้อมาใหม่ ดีที่ทางคณะฉันให้ใส่ไปรเวตไปเรียนได้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ซับในฉัน เพราะตอนซื้อฉันไม่ได้ซื้อซับในมาด้วย
“จริงด้วย แทนไท” แต่แล้วฟ้าก็มาโปรดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่จะช่วยฉันได้คือผู้ชายห้องตรงข้ามฉันนี่เอง