บทที่ 6

1255 คำ
“เป็นไปได้หรือครับที่คุณน้ารวิชผู้ที่ชาญฉลาด เป็นถึงนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย จะบริหารงานผิดพลาดจนมีหนี้สินล้นพ้นตัวเช่นนี้” ราล์ฟเกิดอาการเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งในสิ่งที่มารดาได้เอ่ยบอกมา เพราะเขาเคยติดตามและได้ข่าวของคุณรวิชเมื่อ 5-6 ปีก่อน ตอนที่ขึ้นปกนิตยสารเกี่ยวกับนักธุรกิจชั้นนำ ซึ่งคุณรวิชก็เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์อันก้าวไกล ขับเคลื่อนนำพาธุรกิจของครอบครัว ภายใต้การกุมบังเ**ยนของเขาทำกำรี่กำไรได้เป็นอย่างมาก แล้วจู่ๆ มารดาก็มาบอกว่าคุณรวิชกำลังจะล้มละลาย แถมยังมีหนี้สินพ้นตัวถึงสิบล้านบาท จึงทำให้เขางุนงงเป็นอย่างมาก “แม่ไม่รู้รายละเอียดหรอกว่า พ่อแม่ของหนูต้นหยกบริหารงานยังไง ถึงได้เกิดความผิดพลาดใหญ่หลวงเช่นนี้ แต่สิ่งที่แม่รู้คือแม่และราล์ฟต้องยื่นมือไปช่วยเหลือคนในครอบครัวนี้เป็นการด่วน” ขณะเอ่ยบอกลูกชาย มาดามก็แสร้งทำเป็นหันไปมองบรรยากาศอันแสนรื่นร่ม เต็มไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ ที่นางเป็นคนลงมือปลูกรอบๆ คฤหาสน์ ซึ่งกินพื้นที่เกือบยี่สิบไร่ เพื่อไม่ให้ลูกชายจับผิดในดวงตาของนางได้ “มาดามช่วยครอบครัวของคุณน้ารวิชได้เลยครับ ผมไม่มีปัญหาเรื่องนี้หรอกครับ” เจ้าของนัยน์ตาสีทองเพลิงเข้าใจผิด คิดว่าการที่มารดาร้องห่มร้องไห้นั้น เป็นเพราะกลัวว่าเขาจะทักท้วงเรื่องการนำเงินสิบล้านบาทไปช่วยเหลือเพื่อนรักของท่าน จึงได้เอ่ยอนุญาตออกไปเช่นนั้น “ทางเรานะไม่มีปัญหาหรอกราล์ฟ แต่ทางโน้นสิที่มีปัญหา” ขณะเอ่ยบอก น้ำเสียงและสีหน้าของมาดามแคทลีนเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด “ทำไมหรือครับมาดาม หรือว่าเงินสิบล้านจะไม่พอใช้หนี้” ราล์ฟเข้าใจว่าต้องเป็นเช่นนั้น คิดว่าครอบครัวของคุณน้ารวิชคงมีหนี้สินเล็กๆ น้อยๆ ที่อื่นรวมอยู่ด้วย จึงทำให้เงินจำนวนสิบล้านบาท ที่ครอบครัวเขากำลังยื่นมือไปช่วยนั้นจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้หนี้ แต่เมื่อได้ยินคำตอบที่มารดาได้เอ่ยออกมาอีกครั้ง ก็ถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ ที่ยังคงหลั่งไหลเข้าสู่กายเขาอย่างไม่รู้จบ “ที่แม่บอกว่าฝ่ายโน้นมีปัญหา ก็คือพวกเขาจะไม่ยอมรับเงินช่วยเหลือจากพวกเราง่ายๆ” “ถ้าหากคุณน้ารวิชไม่สบายใจเรื่องการรับเงินจากพวกเรา มาดามก็ทำสัญญากู้ยืมไว้เป็นหลักฐานก็ได้นี่ครับ จะได้สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย” ราล์ฟเสนอแนวทางสำหรับการกู้ยืมเงินกันในครั้งนี้ ซึ่งเขาพร้อมที่จะทำสัญญาให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าหากฝ่ายของคุณน้ารวิชไม่พร้อมที่จะทำสัญญา ตัวเขานั้นก็ไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่คิดเร่งรัดเอาเงินคืนภายในสองสามปีนี้ เขาต้องรอให้ทางฝ่ายโน้นฟื้นตัวลุกขึ้นยืนได้ด้วยความมั่นคงเสียก่อน จึงจะติดตามทวงถามเรื่องเงินทองที่ได้หยิบยืมไป มาดามแคทลีนโบกมือว่อน ก่อนจะเอ่ยบอกเหตุผลว่าทำไมผู้ที่กำลังประสบเคราะห์ปัญหาทางด้านการเงิน ถึงไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากครอบครัวของเธอง่ายๆ “เอ่อ...คือทางโน้นไม่อยากรับเงินของพวกเราไปเฉยๆ เพราะเกรงว่าจะเป็นที่ครหาของคนอื่น แม่กับคุณรวิชและคุณมนรดาจึงปรึกษากันว่าจะให้ราล์ฟกับหนูต้นหยกแต่งงานกันนะลูก” “อะไรน่ะครับ แต่งงาน!” ราล์ฟตะโกนถามมารดาเสียงดังลั่นทั่วบริเวณ ใบหน้าคมเข้มเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งทันที เมื่อได้ยินเงื่อนไขที่มารดาของตนและเพื่อนรักของท่านได้เสนอร่วมกัน “ไม่มีทางครับมาดาม ยังไงผมก็ไม่ยอมแต่งงานกับยายต้นหยกอย่างแน่นอน” เจ้าพ่อแห่งเดริโก้ร์กรุ๊ปปฏิเสธเสียงแข็ง หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมแต่งงานกับยายตัวตัวตุ่นเตี้ยม่อต้อ คนที่เขาเคยปรามาสไว้ตั้งแต่เด็ก “ราล์ฟ ถ้าลูกไม่ยอมแต่งงาน ครอบครัวโน้นก็จะกลายเป็นคนไม่มีที่ซุกหัวนอนนะลูก ราล์ฟไม่สงสารต้นหยกหรือลูก หากเธอต้องระหกระเหินไปอยู่ห้องแคบๆ เท่าแมวดิ้นตาย” มาดามแคทลีนพยายามหวานล้อมให้ลูกชายได้เห็นใจครอบครัวของเพื่อนรักของตนเอง แต่ผู้ที่เป็นลูกก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็งเช่นเดิม “ก็ช่างเขาปะไรครับ ผมจะให้ยืมเงินฟรีๆ ไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว ทำไมพวกเขาไม่รับเงินไป ทำไมต้องมาสร้างเงื่อนไขบ้าบอคอแตกแบบนี้ด้วย” “คุณรวิชเขาไม่สบายใจที่ต้องรับเงินของเราไปฟรีๆ พวกเขาก็เลยคิดว่าจะให้ราล์ฟกับหนูต้นหยกแต่งงานกัน ส่วนเงินที่พวกเราช่วยเหลือเขา ก็ถือเสียว่าเป็นค่าสินสอดทองหมั้น มันจะได้ไม่ดูน่าเกลียดเกินไปนะลูก” มาดามแคทลีนชักแม่น้ำทั้งห้า ให้ลูกชายได้ยอมรับเงื่อนไขที่นางและเพื่อนรักทั้งสองได้ผูกเข้าร่วมกัน “ฮึ! พวกเขาจะสนใจขี้ปากชาวบ้านทำไมกันครับ พวกเขาควรสนใจเรื่องปากเรื่องท้องความเป็นอยู่ของครอบครัวตัวเองถึงจะถูก” เจ้าพ่อเดริโก้ร์กรุ๊ปกระแทกเสียงต่อว่าครอบครัวของมธุริน ซึ่งกำลังนำความวุ่นวายมาให้กับชีวิตของเขาด้วยความหงุดหงิดระคนโมโห ยิ่งได้นึกถึงคำพูดที่ตนเองเคยปรามาสสาวน้อยไว้เมื่อสมัยเด็กๆ ยิ่งทำให้โมโหเข้าไปใหญ่ ‘ยายตัวตุ่น ยายหมูอ้วน โตขึ้นอย่าหวังว่าจะได้เป็นเจ้าสาวของนายราล์ฟนะ’ คำพูดของตนเองเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่สะท้อนก้องอยู่ในโสตประสาท ทำเอาเจ้าของนัยน์ตาสีทองเพลิงต้องยกมือเสยผม หลุดเสียงต่อว่าตัวต้นเหตุ ที่กำลังจะทำให้ชีวิตโสดของเขาเดินทางมาถึงที่สิ้นสุดด้วยความโมโหเหลือกำลัง “ยังไงผมก็ไม่แต่งงานกับเธอหรอกยายตัวตุ่น” ผู้เป็นมารดาตีสีหน้าไม่สบายใจ ตอนที่ได้ยินเสียงพึมพำเอ่ยพูดของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า นางเอื้อมมือไปจับต้นแขนสีแทนแข็งแกร่งของลูกชายไว้ ก่อนจะเอ่ยขอร้องเสียงปนสะอื้น “ราล์ฟ ถือเสียว่าทำเพื่อแม่ได้ไหมลูก แต่งงานกับหนูต้นหยก แล้วแม่จะได้นำเงินจำนวนนี้ยกเป็นสินสอดให้พวกเขาได้เอาไปจ่ายหนี้ ได้เอาไปตั้งต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง” “ไม่ครับมาดาม ยังไงผมก็ไม่แต่งงานเด็ดขาด สิ่งที่ฝ่ายโน้นเสนอเงื่อนไขมา มันเท่ากับเป็นการขายลูกกินนะครับ” ราล์ฟพยายามเบือนหน้าหนี เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นหยาดน้ำตาอุ่นใสของมารดา เพราะสายน้ำอุ่นๆ ที่ไหลรินมาตามพวงแก้มของท่าน กำลังจะทำให้เขาใจอ่อนในนาทีใดนาทีหนึ่ง ซึ่งหากเขาใจอ่อนเมื่อไร เขาคงต้องหลุดปากเอ่ยตอบรับ ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าเป็นการเอาชีวิตทั้งชีวิตไปแขวนคออยู่กับคนที่เขาไม่รัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม