“มีค่ะ”
ปัณณวัฒน์ยิ้มกว้างมากขึ้น ถามอย่างสนใจว่า
“อะไรครับ”
อันนาเกิดป๊อดอย่างที่เพื่อนพูดไว้จริง ๆ อดกังวล แล้วก็นึกกลัวว่าเขาจะไม่ได้มีใจ หรือคิดแบบเดียวกันกับเธอ จึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องพูดไปว่า
“วันเกิดปีนี้เลี้ยงสามวันสามคืนเลยไหมคะ”
“เลี้ยงอะไรของเราน่ะ”
“ก็วันเกิดพี่ต้นปัณนี่ไง เลี้ยงให้ยาว ๆ ไปเลยสามวันสามคืน น้องจะได้เมาหัวราน้ำไปเลย”
ปัณณวัฒน์มองดวงตาใสแจ๋วของหญิงสาวรุ่นน้องแล้วก็เผยรอยยิ้มปนขำออกมา
อย่าว่าแต่สามวันเลย สามชาติ สิบชาติภพเขาก็เลี้ยงเธอได้
“ได้สิ แต่พี่เลี้ยงเราแค่คนเดียวนะ กล้ามานั่งดื่มไหมล่ะ”
ได้ยินคำท้าทายแบบนี้แล้วก็ค่อยหายประหม่า ยื่นหน้าไปตอบรับคำชวนนั้นทันที
“ทำไมน้องจะไม่กล้าล่ะคะ”
“งั้นก็มาเลย” ปัณณวัฒน์ตอบรับพร้อมกับปักหลักนั่งร่วมโต๊ะกับเธอหลังจากนั้น
อันนากลับเข้าบ้านด้วยรอยยิ้ม อดมองเวลาไม่ได้ว่ากี่โมงกี่ยามเข้าไปแล้ว ดีนะที่บอกแม่ไว้ก่อนว่าวันนี้จะกลับช้ากว่าทุกที ไม่เที่ยวไปค้างที่ไหนให้ต้องมาคอยเป็นห่วงหรอกน่า
ก่อนจะหลับไปทั้งรอยยิ้ม แล้วผวาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ลุกออกจากเตียงนอน วิ่งไปอาเจียนที่ชักโครกจนหมดไส้หมดพุง
เธอไม่เคยทรมานขนาดนี้มาก่อนเลยให้ตายเถอะ
ของที่มีในท้องถูกบีบออกมาจนหมด ก่อนจะย้ายตัวเองไปเปิดน้ำเพื่อล้างหน้าบ้วนปาก มองเงาตัวเองในกระจกก็เห็นว่าหน้าตาซีดอย่างกับศพเลย
ทำไมมันเวียนหัวขนาดนี้เนี่ย
เมื่อคืนนี้ก็ไม่ได้กินอะไรแปลก ๆ เลยนี่นา หรือเพราะดื่มเหล้าขวดนั้นลงไปเลยทำให้อาเจียนรับเช้าวันใหม่หนักแบบนี้
ก่อนจะพาตัวเองเดินหมดเรี่ยวหมดแรงออกจากห้องไปหาอะไรรองท้องเสียหน่อย มาถึงห้องกินข้าว ก็แว่วเสียงพี่นวลบอกมาว่า
“ตื่นแล้วหรือคะ มาค่ะมา พี่นวลทำข้าวต้มทะเลไว้รอ กระเทียมเจียวหอม ๆ เลย”
คนเคยชอบกระเทียมเจียว จมูกไว ได้กลิ่นแล้วก็ถึงกับหน้ามุ่ย บ่นพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูก
“แหวะ เหม็นจังเลยพี่นวล”
นวลมองคุณหนูสุดรักสุดหวงด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลง ดมชามข้าวต้มที่ตนทำสุดฝีมือ
“ไม่เห็นจะเหม็นเลยค่ะ”
เธอเดินมาถึงโต๊ะแล้วก็ยื่นมือไปผลักชามข้าวต้มให้ออกห่างจากตัวด้วยท่วงท่าแหยง ๆ พร้อมกับกลั้นใจไม่สูดอากาศเข้าปอดเลยแม้แต่ฟืดเดียว เมื่อกี้แค่ได้กลิ่นก็ทำเอาท้องไส้ปั่นป่วนมากพออยู่แล้ว มาเห็นจะจะกับตาก็ออกอาการขย้อนออกมาอีกเล็กน้อย แล้วดึงเอาจานผลไม้มาจิ้มกินแทน ทำหน้าซึม ๆ มองพี่นวล วอนขอเสียงอ่อย
“อย่าบอกแม่นะพี่นวล”
นวลตาเบิกกว้างขึ้น ถามกลับทันที
“อย่าบอกเรื่องอะไรหรือคะ”
“ก็เมื่อคืน หนูดื่มหนักไปหน่อย เช้าก็เลยแฮงก์น่ะสิ สัญญากับหนูแล้วนะว่าจะไม่บอกแม่น่ะ”
นวลค่อยมีสีหน้าโล่งอกโล่งใจมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อครู่นี้จินตนาการของนวลโลดแล่นไปไกลมากกว่านั้น ที่แท้อาการเหม็นกระเทียมเจียวของคุณหนูเป็นเพราะเมาค้างนี่เอง
นวลจึงยื่นมือไปดึงชามข้าวต้มมาถือไว้ จะเอาไปเก็บให้ พร้อมกับเอ่ยออกไปว่า “นี่ถ้าคุณหนูไม่บอกว่าเมาค้าง รู้ไหมคะว่าพี่นวลคิดไปถึงไหน”
อันนาที่กำลังจิ้มผลไม้ที่เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ถูกใจอีกชิ้น กินอีกคำแล้วถามนวลกลับไป
“แล้วพี่นวลคิดไปถึงไหนล่ะจ๊ะ”
“พี่คิดว่าคุณหนูของพี่นวลท้องแน่ ๆ เลยน่ะสิคะ ก็อาการมันเหมือนกันมาก ๆ พี่นวลคิดไปทางอื่นไม่ได้เลยจริง ๆ ค่ะ”
“หืม” อันนาร้องออกมาได้เพียงคำเดียวเท่านั้น ผลไม้ที่เคี้ยวอยู่ในปากก็เกิดแข็งขมปร่าขึ้นในทันที ทวนคำของพี่นวลในใจ
ท้องอย่างนั้นหรือ
พอถูกทักแบบนั้นแล้วก็ให้ใจคอไม่ดีในทันที จะว่าไปเรื่องเมื่อคืนนั้นก็ผ่านมาได้สองเดือนแล้วหรือเปล่า
เอาแล้วไง เธอลืมไปเลยนะไอ้เรื่องความรับผิดชอบอะไรนั่นน่ะ นึกได้อย่างนั้นก็ทำให้กินอะไรไม่ลงอีกต่อไปแล้ว เดินกลับเข้าห้องได้ก็พาตัวเองไปยืนเอียงซ้ายทีขวาทีมองเงาสะท้อนในกระจก
พร้อมคิดทบทวนไปว่า
ล่าสุดประจำเดือนของเธอมาวันไหนกันนะ
จากนั้นตรงไปเปิดตู้สำหรับใส่ของจุกจิกในห้องออกดู ก็พบว่าห่อผ้าอนามัยไม่ได้ถูกแกะใช้เลยสักชิ้น
เดือนที่แล้วไม่มานี่นา
ทบทวนมาถึงตรงนี้ ดวงตาใสแจ๋วก็ค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้น นี่อย่าบอกนะว่าท้องที่ดูบวม ๆ อกดูแน่น ๆ ตู้ม ๆ นี่เป็นผลพวงมาจากการตั้งครรภ์น่ะ
อันนาเดิน ๆ หยุด ๆ ส่องดูว่าแม่อยู่ส่วนไหนของบ้าน เมื่อหาไม่เจอ ก็รีบวิ่งปรู๊ดไปที่โรงจอดรถ ขับรถพุ่งทะยานออกจากบ้าน เธอขับออกไปให้ห่างจากบ้านแล้วก็จอดลงที่หน้าร้านขายยาร้านใหม่ ซึ่งไกลจากร้านเดิมและไกลจากบ้านหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว
คราวนี้เธอพรางตัวด้วยวิกผมสีส้มที่เพิ่งค้นเจอในตู้เก็บของภายในห้องนอนแล้วค่อยลงจากรถ เข้าร้านได้ มองหาของที่ต้องการ เมื่อเจอแล้วก็ตรงไปหยิบที่ตรวจครรภ์มาทุกยี่ห้อที่มีอยู่ในร้านนั้น พร้อมกับเอาไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
ซวยจริง ๆ เลย ทำไมเจ๊เจ้าของร้านยาร้านนั้นที่รู้จักกับแม่ต้องมายืนคิดเงินที่ร้านนี้ด้วยล่ะเนี่ย
หญิงวัยห้าสิบต้น ๆ ที่เพิ่งเซ้งร้านขายยาร้านนี้มาได้ไม่นาน ลากสายตามองเธอเงียบ ๆ ก่อนจะมองลงที่สินค้า แล้วหยิบไปสแกนบาร์โค้ดเพื่อคิดเงิน นำใส่ถุงแล้วส่งมาให้