เกิดใหม่อีกครั้งเวลาก็ผ่านไปสามปี

1611 คำ
รถม้าจวนหงอี้กงเคลื่อนผ่านพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบา “นี่...รู้ไหมฮูหยินหงอี้กง จัดหาอนุให้กับท่านหงอี้กงอีกแล้วนะ ...ได้ยินว่าเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มงดงามที่สุดที่หอซิงเซียงอุตสาหามาได้ แต่จวนหงอี้กงก็ยังมาแย่งคนไป” “จริงหรือ” น้ำเสียงที่เอ่ยถามดูตื่นเต้นประหลาดที่สุด ทำให้คนเล่ายิ่งรู้สึกสนุกอยากเล่าต่อ “แน่นอน...ข้าได้เห็นกลับตา ว่าไปแล้วก็อิจฉาหงอี้กงยิ่งนัก ได้ฮูหยินที่ใจกว้างดั่งมหาสมุทรเช่นนี้ หากเป็นข้าก็อยากจะกลับเรือนทุกวัน” “คริ คริ” เสียงสตรีผู้หนึ่งหัวเราะขบขันพลางกล่าว “ท่านมีเงินเลี้ยงพวกนางหรือข้าได้ยินว่า ฮูหยินหงอี้กงใช้เงินเดือนละหลายหมื่นตำลึงหมดไปกับอาภรณ์เครื่องประดับของเหล่าอนุเชียวนะ” บุรุษผู้นั้นรู้สึกเสียหน้าระคนละอาย ตอนนี้แค่นี้ภรรยากับบุตรสองคนก็แสนอัตคัดจะมีปัญญาที่ไหนไปเลี้ยงอนุเพิ่ม บุรุษผู้หนึ่ง หมุนจอกชาในมือไปมาคิดไปแล้วก็แปลกใจดูเหมือนว่า อยู่ ๆ เขาก็ตัดใจจากกู้เฉียวจิงได้ จวนหงอี้กง ในส่วนฮูหยินอันดับหนึ่งที่ทุกคนให้ตำแหน่งมา “ฮื้อ ฮื้อ ท่านไปไหนมา ทำไมจนปานนี้ถึงได้พึ่งโผล่มา ข้ารอท่านมาตั้งนาน จิตใจร้อนรนไปหมด กลัวว่าชาตินี้จะไม่ได้ตอบแทนท่าน” หวังเว่ยซินนั่งฟังกู้เฉียวจิงร่ำไห้คร่ำครวญอย่างมีน้ำอดน้ำทน ฟังนางตัดพ้อไปหลายประโยค ก็อยากจะบอกว่า ช่วงเวลาของท่านผ่านไปหลายปี แต่ของข้ายังไม่เต็มวันด้วยซ้ำ แต่เอาเถอะให้นางร้องไปก่อน ผ่านไปเกือบชั่วยามกู้เฉียวจิงถึงได้สงบ นางปาดน้ำตาเอ่ยถาม “ชาตินี้ พี่สาวท่านมีนามว่าอะไร” หวังเว่ยซินลอบถอนหายใจ ในที่สุดก็ได้พูดคุยกันเสียที “หวังเว่ยซิน...ข้าพึ่งเกิดใหม่เมื่อวาน...วันนี้จึงได้มาที่นี่” กู้เฉียวจิงเบิกตากว้าง ตอบ “ท่านหายไปเกือบสามปีเต็มแล้ว...ข้าเกือบถอดใจไปขโมยเงินท่านมาใช้แล้วนะ” จากนั้นกู้เฉียวจิงก็หยิบยาหอมออกมา พร้อมส่งให้หวังเว่ยซินหนึ่งขวด พูดขึ้น “เช่นนั้น คงเป็นข้าที่ต้องเล่าเรื่องราวให้ท่านฟังสินะ เช่นนั้นเราไปนั่งที่ศาลากลางสวนดอกท้อของท่านเถอะ ที่นั่นสวยงามมาก ๆ” หวังเว่ยซินพยักหน้าพลางสูดดมยาหอมไป หลังจากบ่าวไพร่จัดวางอาหารว่างและชาเสร็จ กู้เฉียวจิงก็ไล่พวกนางออกไป ยกจอกชารินให้หวังเว่ยซินพลางพูดขึ้น “ตอนนี้ซือจื่อ อายุจะแปดขวดแล้ว ไปเรียนที่สำนักศึกษาและพักที่นั่นรวมกับเพื่อนร่วมเรียน ทุกคนต่างยกย่องว่าเขาเป็นเลิศทั้งในบู๊และบุ๋น นับว่าเป็นอัจฉริยะที่จะพบพานได้ในร้อยปี” หวังเว่ยซินเอ่ยถาม “แล้วเขารู้สึกแปลกใจหรือไม่ที่มารดาเปลี่ยนไป” หญิงสาวพยักหน้าตอบ “ซือจือเข้าใจว่าข้าพยายามเข้มแข็ง พอคืนดีกับเสิ่นเยี่ยหงก็กลับมาเป็นมารดาที่อ่อนโยนเช่นเดิม” เมื่อเอ่ยถึงกู้ซวินแววตาของทั้งสองก็ทอประกายอบอุ่น “เป็นเช่นนี้ นับว่าดีเหลือเกิน” “ใช่เจ้าค่ะ...ข้าต้องขอบคุณท่านมากจริง ๆ ทั้งชีวิตนี้ข้าเป็นหนี้ท่านไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรถึงจะสาสม” “หากเจ้ายังพูดเรื่องบุญคุณอีกข้าจะไปแล้วนะ” หวังเว่ยซินเอ่ยตัดบทขึ้น “อ่ะ...ไม่แล้ว..ไม่แล้ว ข้าไม่พูดแล้ว” หวังเว่ยซินหรี่ตามองแล้วเอ่ยถาม “แล้วเกาเหยาชุน นางได้สร้างปัญหาอะไรหรือไม่” กู้เฉียวจิงส่ายหน้า “ไม่เลย นางปรับปรุงตัวดีมากรับผิดชอบงานในจวนทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย...มีงานข้าก็ได้นางแนะนำ นางไม่เอาข้าไปขายนอกจวนด้วย ตอนแรกข้าก็คิดว่านางทำไปเพราะถูกท่านพี่จับตา พอผ่านไปสักระยะรู้สึกว่านางสำนึกผิดจริง..ข้าสงสารนางจึงขอร้องท่านพี่ไปหานางบ้าง...ท่านรู้ไหมนางตั้งครรภ์ แต่ว่า...ทั้งที่นางดูแลอย่างดี เด็กคนนั้นเกิดมาให้นางชื่นใจไม่กี่วันก็จากไป..ข้าเห็นนางร้องไห้ปริ่มใจจะขาด ความแค้นที่มีก็สลายหายไปหมดเลย” “เวรกรรมแท้ ๆ” แววตาหวังเว่ยซินทอประกายเห็นใจ “แต่สวรรค์ยังให้โอกาสนาง...ท่านพี่เองก็เห็นใจนางไปหานางบ่อยขึ้น นางจึงได้ตั้งครรภ์อีกครั้ง ตอนนี้เด็กคนนั้นก็อายุขวบกว่าแล้ว” ความแค้นลืมได้ย่อมเป็นเรื่องนี้ เห็นกู้เฉียวจิงพูดแบบปลอดโปร่งหวังเว่ยซิงก็เชื่อแล้วว่านางปล่อยวางได้จริง มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมา “เจ้าให้เกาเหยาชุนตั้งครรภ์ได้ คงมิใช่อนุญาตให้เหล่าอนุตั้งครรภ์ได้กระมัง” กู้เฉียวจิงยิ้มแป้น “ข้าเป็นฮูหยินเอก มิควรใจแคบ จะต้องช่วยหงอี้กงขยายวงศ์ตระกูล” หวังเว่ยซินพยักหน้า นางยอมรับนางไม่เข้าใจสตรียุคโบราณจริง ๆ “แล้วตอนนี้ เจ้าเป็นแม่ลูกกี่คนแล้ว” สำหรับคนอื่นเรื่องนี้อาจจะกระอักกระอ่วนใจ แต่สำหรับกู้เฉียวจิงนับว่าเป็นความภาคภูมิใจเพราะเหล่าอนุล้วนดีกับนาง ดั่งพี่สาวน้องสาวกันจริง ๆ นางตอบอย่างยินดี “บุตรชาย 7 คน บุตรสาว 5 คน ตอนนี้พวกเขาคงอยู่เรือนหลักวุ่นวายกันอยู่ที่นั้น ท่านจะไปดูหรือไม่” หวังเว่ยซินส่ายหน้า“ไม่เป็นไร เห็นเจ้าเบิกบานข้าก็ดีใจ” “ในเด็กกลุ่มนี้ ซูเวยนับว่าเป็นพี่ใหญ่ นางค่อนข้างยิ่งใหญ่เชียวล่ะ เวลาคนเรียกพี่รอง พี่รอง นางจะเชิดคอขึ้นเล็กน้อย” นินทาบุตรนับว่าเป็นความบันเทิงที่พูดไม่หยุด หวังเว่ยซินนั่งฟังกู้เฉียวจิงพูดจนตะวันคล้อยต่ำ นางจึงพูดขึ้น “ข้าต้องไปแล้ว” กู้เฉียวจิงกุมมือนางขึ้นมาแล้วถาม “ท่านจะมาหาข้าอีกเมื่อไร” “ข้าจะไปรับมารดาและน้องชายมาอยู่ด้วย ต่อไปนี้ข้าคือ หวังเว่ยซิน เป็นสาวชาวบ้าน มีชีวิตใหม่แล้ว..แต่ข้ารับรองว่าหากมีเรื่องเดือนร้อนจะมารบกวนเจ้าอย่างแน่นอน” ได้ยินหวังเว่ยซินพูดเช่นนี้ กู้เฉียวจิงก็พึ่งจะตระหนักถึงหน้าตาของอีกฝ่าย “อ่า...เหตุใดชาตินี้ท่านอ่อนเยาว์เช่นนี้” “ก็ข้าเกิดใหม่..เริ่มต้นชีวิตใหม่ จะให้อายุเท่าเจ้าหรืออย่างไร” กู้เฉียวจิงเอียงศีรษะพินิจอีกฝ่าย “ท่านช่างงดงามยิ่งนัก โดดเด่นมีเสน่ห์ ดวงตาเชิดขึ้นดูเจ้าเล่ห์ดั่งจิ้งจอก เช่นนี้ท่านกับผู้บัญชาการก็เหมาะสมกันไม่น้อย” หวังเว่ยซินมองอีกฝ่ายตาขวาง “พูดจาส่งเดช..แล้วเขาได้พูดอันใดกับเจ้าอีกหรือไม่” กู้เฉียวจิงหยักไหล่ขึ้น “ไม่เลย ไม่มองสักนิด เขาไม่ได้สนใจข้าเลย...ผู้ชายคนนี้ประสาสัมผัสยิ่งกว่าปีศาจ ท่านคิดดูสิขนาดเสิ่นเยี่ยหงยังไม่รู้เลยว่าเป็นท่านหาใช่ข้า...ส่วนท่านหลีเซียวหยวนกลับหมดความสนใจข้าหลังจากที่ท่านจากไปแล้ว” พูดแล้วเหมือนจะทำให้สามีภรรยาทะเลาะกัน หวังเว่ยซินจึงรีบตัดบท “เจ้าหยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว ใครมาได้ยินเข้าจะไม่มีคำอธิบายนะ” กู้เฉียวจิงเหมือนได้สติเอามือปิดปากกดเสียงต่ำลง “ท่านผู้นั้นให้ท่านครบทุกข้อเลยใช่หรือไม่ ดี ๆ เช่นนั้นข้าจะรอท่านที่นี่ ท่านจะให้ซูซูติดตามไปด้วยหรือไม่” หวังเว่ยซินส่ายหน้า “เจ้าให้พ่อบ้านไปส่งข้า แล้วขอรถม้าธรรมดาที่คนปกติใช้ด้วยนะ...พรุ่งนี้หากได้เอกสารแล้วช่วยเอาไปส่งให้ข้าด้วย” กู้เฉียวจิงพยักหน้าหงึกหงักเป็นดังน้องสาวผู้ว่าง่ายหาใช่กงฮูหยินผู้เต็มไปด้วยบรรดาศักดิ์สูงส่ง “ได้ ๆ” จากนั้นนางก็ให้คนไปตามพ่อบ้านมา พลางเดินไปส่งหวังเว่ยซินที่หน้าประตู ในขณะที่หวังเว่ยซินกำลังจะเดินออกไป นึกบางอย่างได้จึงหันกลับมา “ข้ามีบางอย่างอยากจะรบกวน” กู้เฉียวจิงเบิกตากว้าง “อะไร ท่านรีบสั่งมาเลย ข้าจะจัดเตรียมให้ เงินหรือไม่ ตู้ยานั้นยังใช้งานได้เพียงแต่ไม่มีภารกิจกับตัวยาเพิ่ม หลายปีที่ผ่านมาพระชายาให้เงินข้าหลายแสนตำลึงเลย” หน้าตาของกู้เฉียวเป็นประกายเด่นชัด สั่งมา สั่งมาเลย สั่งเยอะ ๆ หวังเว่ยซินลูบจมูกเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น แล้วเช่นนี้ที่ข้าเอาหีบเงินไปฝั่งไม่นับว่าโง่เขลาสิ้นเปลืองแรงหรืออย่างไร นางรู้สึกอับอายเล็กน้อยพูดเสียงแผ่วเบา “ข้าอยากได้ที่ดินตรงลานกว้างที่พาซือจือไปฝึกซ้อม ..จำนวนมากหน่อย ข้าอยากเปิดโรงเตี๊ยม” กู้เฉียวจิงยิ้มจนหน้าหยี “ได้ ๆ ข้าจะรีบให้พ่อบ้านไปกว้านซื้อมาให้ท่าน” “ขอบใจเจ้ามาก” พอดีกับเดินมาถึงรถม้า กู้เฉียวจิงยืนส่งจนรถม้าจนลับตา นางค่อยเดินกลับเข้าจวนด้วยสีหน้าอบอุ่นระคนยินดี ชีวิตนี้ไม่มีสิ่งที่ติดค้างแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม