กิ่งกาญเดินออกจากลิฟท์ และเดินตรงออกไปด้านหน้าของโรงแรม และกำลังจะเรียกให้พนักงานไปส่งที่บ้านพัก แต่พอดูรอบ ๆ แล้ว ก็มีบรรดานักท่องเที่ยวที่ต่างเดินเล่น จับกลุ่ม นั่ง พักผ่อนกันอยู่ ทำให้ไม่น่ากลัว เธอตัดสินใจที่จะเดินเล่นไปเรื่อย ๆ เพื่อกลับบ้านดีกว่า ถือเป็นการเดินย่อยอาหารไปด้วย เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็ก้าวเท้าเดินตรงกลับบ้านพัก ทันที
“เดินคนเดียวค่ำ ๆ มืด ๆ ไม่กลัวหรือไงกัน”เสียงเอ่ยดังมาจากด้านหลัง ทำให้กิ่งกาญหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินและหันกลับมามอง และคนที่เดินตามหลังเธอมาตอนนี้ ก็ต้องทำให้เธอต้องขมวดคิ้ว
“คุณลุง คุณเดินตามฉันมาเหรอ เอ๊ะ อย่าบอกนะ ว่าจะตามมาแก้แค้นเรื่องที่ฉันไปขัดจังหวะคุณกับ แฟนคุณนะ ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ ไง “คำพูดของกิ่งกาญทำให้ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มเมื่อครู่ต้องหุบฉับทันทีด้วยความไม่พอใจ
“นี่เลิกเรียกฉันว่าลุงได้แล้วนะ “
“แล้วคุณตามฉันมาทำไมไม่ทราบ มีอะไรหรือเปล่า “
“เปล่าแค่เดินเล่น “
“เดินเล่น เดินเล่นอะไรเวลานี้กันละ “
“ก็แล้วเธอละ ทำไมมาเดิน อยู่แบบนี้ละ “
“ ฉันก็กำลังจะกลับที่พักของฉัน นะสิ แล้วทำไมฉันต้องบอกคุณด้วยเนี๊ยะ ฉันไม่คุยกับคุณ แล้วขอตัวนะคะ คุณลุง ลาก่อนค่ะ “เอ่ยและกำลังจะหันหลังเดินต่อ แต่แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อมือหนาของเขากลับจับที่ข้อมือบางของเธอกิ่งกาญได้แต่ตกใจ
“เอ๊ะนี่ คุณ จะบ้าหรือไงทำอะไรของคุณกัน ฉันไม่รู้จักคุณซะหน่อย แล้วคุณมายุ่งกับฉันทำไม เนี๊ยะ ถ้าหากคุณยังโกรธเรื่องที่ฉันไปขัดจังหวะคุณกับแฟนคุณฉันก็ขอโทษละกัน แต่ว่ามันร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือไงกัน บ้าจริง”
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วนะ มันไม่ใช่อย่างที่คุณเห็นหรอกนะ “
“อะไร หมายถึงจูบนะเหรอ ก็เห็นอยู่ว่าจูบจะไม่ใช่ได้ไง แต่ว่านะมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันซะหน่อยนี่ นี่คุณปล่อยฉันได้แล้ว “
“นี่เธอชื่ออะไร สาวน้อย “
“ห๊ะ นี่จู่ ๆ ก็มาถามชื่อกันแบบนี้เลยเหรอ บ้าหรือเปล่าเนี๊ยะ ปล่อยฉันได้แล้ว ปล่อยสิ “
“เธอ เป็นนักเขียนเหรอ “
“คุณรู้ได้ไง “
“จริงใช่ไหม “
“โห คุณน่ากลัวเกินไปแล้วคุณจะรู้เรื่องของฉันเยอะเกินไปแล้ว ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว ปล่อย มือฉัน ฉันบอกให้ปล่อยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะตะโกนให้คนช่วยนะ ปล่อยสิ ปล่อย “
ถึงแม้ว่าเธอจะขู่เขาแค่ไหน ตอนนี้ นายหัวเดชก็ไม่ยอมปล่อยมือเธอ เขากลับรู้สึก สนุกที่ได้แกล้งเธอแบบนี้
“คุณบ้าหรือเปล่าปล่อยสิ ปล่อยนะ ไม่ปล่อย เหรอ ได้ ไม่ปล่อยใช่ไหม ช่วยด้วยคะ ช่วยด้วย “
เสียงตะโกน ดัง ๆ ของ กิ่งกาญก็เอ่ยขึ้น ทำให้ ตอนนี้ คนที่อยู่แถวนั้นกำลังมองมาที่ทั้งสองคน พร้อมกับเสียงอื้อ อึง และบางคนกำลังจะเดินตรงมาที่ทั้งคู่แล้วตอนนี้แต่คนที่ไวกว่าก็คือปันที่เดินมาหาผู้เป็นนาย
“นายหัวครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ “
“เปล่าไม่มีอะไร ปัน “ เอ่ยตอบและปล่อยมือบางของเธอ ถึงแม้จะเสียดายก็เถอะ
“อะไรนะ นายหัวงั้นเหรอ ใคร คุณนะเหรอนายหัว “
กิ่งกาญถามด้วยความ แปลกใจ ที่ได้ยินหนุ่มคนนั้นเอ่ยเรียกเขา เธอจึงได้แต่ขมวดคิ้ว
“เอ่อ ขอโทษนะครับคุณผู้หญิง คนนี้คือ นายหัวเดช ครับ และคงจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอโทษคุณผู้หญิงด้วยนะครับ “ปันเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“อะไรนะ นายหัวเดชงั้นเหรอ “กิ่งกาญเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจและมองหน้าชายหนุ่มและขมวดคิ้วและเผลอกัดริมฝีปากล่างอย่างเคยชินเมื่อต้องใช้ความคิด หรือว่ากำลังสงสัยอะไร แต่เธอไม่รู้หรอกว่าท่าทางที่เธอแสดงออกตอนนี้นั้น มันทำให้ คนที่กำลังมองเธอ แทบกลั้นหายใจ กับภาพที่เห็น
“เธอรู้จักฉันหรือไง “
“อ้อ เปล่า ไม่รู้จักหรอก ฉันขอตัวก่อนนะ คะ สวัสดีและลาก่อน ค่ะ”
“เดี๋ยวสิ นี่ “
นายหัวหนุ่มได้แต่เรียกตามหลังเธอ ไปแต่ว่า คนที่กำลังสาวเท้าเดินตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะฟัง ได้แต่รีบเดิน ให้ถึงบ้านพักให้เร็ว ๆ
“เอ่อ นายหัวครับ กลับบ้านเลยนะครับ “
“อือ อ้อปัน ไปสืบให้ฉันที ว่า ผู้หญิงคนเมื่อสักครู่นี้เป็นใคร “
“เอ่อครับนายหัว “
เมื่อสั่งงานลูกน้องเสร็จ เดชก็หันหลังเดินไปที่ขึ้นรถที่หน้าโรงแรม โดยมี ปันเติมตามหลังมาติด ๆ
………………………………..
กิ่งกาญเมื่อเข้ามาในบ้านแล้วเธอก็ปิดประตูล๊อคทันที ก่อนจะถอนหายใจ ด้วยความรู้สึกโล่งอก
“เฮ้อ นี่มันอะไรกัน จะบ้าตาย น่ากลัวชะมัด คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้จริง เป็นถึงนายหัวนะหรือเขาจะเป็นพวก มีอิทธิพลมาเฟีย เจ้าพ่อ โอ้ย น่ากลัว แต่ก็อย่างว่า พวกโรคจิตมักจะมาในคราบของคนปกตินี่ละ เฮ้อ “
กิ่งกาญทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็เดินหยิบโน๊ตบุ๊คคู่ใจขึ้นมาพิมพ์หนังสือของเธอ เพราะตอนนี่ รู้สึกว่า จินตนาการของเธอกำลังโลดแล่นปล่อยให้เรื่องของนายหัวเดช หายไปจากความคิด
.................................................
นายหัวเดชนั่งที่ระเบียงของห้องพัก ใช่แล้ว ตอนนี่เขาอยู่ที่ โรงแรม คิงส์ อ๊อฟ โฮเทล ไม่ใช่บ้านของเขา พร้อมกับมือก็ถือแก้ว หมุนวนไปมา อย่างใช้ความคิด และในความคิดของเขา ก็ผุดภาพดวงตากลมโต ที่มองเขาอย่าง ระแวดระวัง และสงสัยในคราวเดียวกัน และสีหน้าท่างที่เธอแสดงออกเมื่อจ้องมองมาที่เขา ไหนจะท่ากัดปากของเธออีก มันช่าง น่าสนใจจริง ๆ
ย้อนไปเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อนหน้า ที่เขาเดินมาจะขึ้นรถกลับบ้าน อยู่แล้วแต่ว่าจู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนใจ บอกลูกน้องคนสนิทอย่างปัน
“ปัน คืนนี้ฉันจะพักที่นี่ ไปจัดการให้ด้วย “
“ครับนายหัว ว่าแต่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับทำไม “
“ฉันอยากเปลี่ยนบรรยากาศนอนโรงแรมบ้างนะ “
“อ้อครับ “
นั่นก็คือ สาเหตุที่เขามาอยู่ตรงนี้ ในเวลานี้นั่นเอง จะว่ากันตามตรงก็เพราะ ที่นี่มีแรงดึงดูดให้เขาสนใจ ก็ว่าได้ ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ นั้น เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล “
“เฮ้ยนายหัว ได้ข่าวว่านายให้เกียรติมาพักที่โรงแรมของฉันเหรอวะ”เสียงเรียบเอ่ยตามสายมา
“จมูกไวจริง ๆ นะ ว่าแต่แกเธอ เมื่อไหร่จะกลับมาที่ไทย และมาดูแล โรงแรมของแกที่สุราษฎร์บ้างละ ปล่อยให้แต่ลูกน้องทำงาน ให้ มันคงจะไม่ดีมั้ง คฑา “
“พรุ่งนี้ฉันถึงสุราษฎร์”ปลายสายเอ่ยตอบเพื่อนรัก
“จริงเหรอวะ คฑาแกมาที่สุราษฎร์”
“เออ จริง ถือโอกาสมาพักสมองด้วย อยากอยู่เงียบ ๆ สักพักโว้ย “
“ฮึ อย่าบอกนะว่าอกหัก รักคุดจากสาว ๆ อีกแล้วนะ “
“เปล่า คนอย่างฉันไม่มีผู้หญิงคนไหนจะหักอกหรอกน่า แต่ถ้าเป็นฉันหักอกเธอไม่แน่ “
“เออ ทำเป็นปากดี ถ้าเจอคนที่แกถูกใจจริง ๆ จะไม่พูดอย่างนี้ไอ้ คฑา “
“ไม่มีทางหรอกน่า เอาละ ฉันโทรมาบอกแกแค่นี้ละ แล้วพรุ่งนี้เจอกันที่สุราษฎร์ นายหัว “
“อือ แล้วเจอกัน “
จากนั้นทั้งคู่ก็วางสาย และนายหัวเดช ก็ยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่ม ที่เดียวก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้อง ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา หลับตา นึกถึงดวงตากลมโต และปากน่าจูบของหญิงสาว ที่เขาสนใจ และเขาคิดว่า เขาจะต้องเจอเธออีกครั้งในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่เขาได้ทราบข้อมูลของเธอ หลังจากที่ให้ปันสืบ และมันก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ทั้งอาชีพทั้งเรื่องราวภูมิหลังของเธอ มันน่าสนใจจริง ๆ กิ่งกาญ นักเขียนสาวแสนสวย
…………………………………….
เสียงคลื่นซัดสาดชายหาดสวย ปลุกให้ร่างเล็กที่นอนฟุบกับโน๊ตบุ๊ค ต้องเงยหน้าแล้วก็บิดขี้เกียจ และตอนนี้เธอรู้สึกปวดเมื่อยมาก เพราะท่านอน ที่ผิดธรรมชาติ เพราะแทนที่จะนอนลงดี ๆ แต่เธอ กลับนั่งฟุบหลับ แบบนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่า เธอนั่งพิมพ์งานจนร่างกาย เหนื่อยล้า และหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้นั่นเอง แต่ตอนนี้เธอตื่นแล้วเมื่อได้ยินเสียงคลื่นด้านนอก แต่เมื่อมองที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คเธอก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะมันค้างที่คำว่า รสจูบอันแสนหวาน แล้วก็ไม่มีอะไรต่อจากนั้นเลย
“เฮ้ออีกแล้ว ตรงนี้อีกแล้ว ก็แค่บทจูบทำไมฉันบรรยายไม่ได้วะยัยกิ่งเฮ้อ จะบ้าตาย “
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ คุณนักเขียน “
“วิเมื่อคืนแกกลับมาตอนไหน “
“ดึกมาก และฉันก็มาเห็นแกนอนฟุบ อยู่ ไม่อยากปลุกก็เลยปล่อยให้นอน อยู่ตรงนี้ไง เอาละตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำ ล้างหน้า แล้วไปว่ายน้ำกันเถอะ วันนี้ จะไปว่ายน้ำ พักผ่อน เพราะเมื่อคืน ฉันอยู่เครียล์งานจนทุกอย่างเรียบร้อย แล้ว ก็เลย จะพักผ่อนซะก่อน ก่อนเข้าไปทำงานตอนกะกลางคืนแทน นะ “
“ว่ายน้ำเหรอ อือ ๆ รอแป้บ อาบน้ำก่อน ว่าแต่แกไม่เปลี่ยนชุดเหรอ วิ “
“เรียบร้อยแล้วแค่ถอดก็พร้อมจะลงน้ำแล้วละ “
วิภาบอกเพื่อนรัก แล้วก็เดินไปที่โซฟาด้านนอก และกิ่งกาญเองก็รีบเดินเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย แล้วก็เดินออกมาหา วิภาที่ด้านนอก
“ พร้อมแล้วไปกันเถอะ ปะ “
จากนั้นสองสาวก็เดินออกจากบ้านพักแล้ว มุ่งหน้าสู่ชายหาดขาวสะอาดโดยมีท้องทะเลเบื้องหน้า และเวลานี่ก็เป็น ช่วงเช้า ๆ มีนักท่องเที่ยวไม่มาก ทั้งกิ่งกาญและวิภาเมื่อมาถึงหาด ก็ถอดเสื้อยืดที่สวมทับชุดว่ายน้ำออกวางไว้ที่เสื่อที่พวกเธอถือลงมาด้วย
กิ่งกาญสวมบิกินี่ สีฟ้าสดใส่ อวดหุ่นอันเซ็กซี่ ทำให้ผิวขาวน่ามองมากขึ้นเป็นเท่าตัว ส่วนวิภา นั้นสวมบิกีนี่ สีแดง อวดหุ่นนางแบบของเธอ เรียกได้ว่าสองเพื่อนซี้นี่ ความสวยกินกันไม่ลงเลยทีเดียว
“ว้าว ทะเลจ้า กิ่งมาแล้ว ไปยัยวิ ว่ายน้ำกัน ไปกันเถอะวิ”
สิ้นเสียงเรียก ร่างเล็กของเธอก็วิ่งลงทะเลอย่างรวดเร็ว แล้วก็แหวกว่ายในท้องทะเลราวกับเงือกสาวแสนสวย และวิภาเองก็ตามเพื่อนลงไปติด ๆ และตอนนี้สองสาวกำลังสนุกกับการว่ายน้ำในท้องทะเล โดยไม่รู้ว่า กำลังตกเป็นเป้าสายตาของ สองหนุ่มที่ เดินเล่นที่ริมหาด อยู่ก่อนหน้าพวกเธอมาถึงแล้ว
“พวกเธอเป็นแขกของโรงแรมหรือเปล่าวะ นายหัว”
“แล้วนายคิดว่าไง คฑา “
“น่าจะเป็นแขกของโรงแรมจริง แต่ สวยเป็นบ้าเลยวะ ทั้งสองคนเลย สวย จริง ฉันเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไม นายถึงมาพักโรงแรมของฉัน“
“อือสวย ว่าแต่ ที่แกมาที่นี่เพราะ ต้องการพักผ่อน หรือมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่าวะ คฑา “นายหัวเดชเอ่ยถามเสียงจริงจังกับเพื่อน
“นายมันรู้ใจฉันวะ ใช่ ฉันอยากมาดู เกี่ยวกับการทำงานของพนักงานที่นี่เพราะสาขา สุราษฎร์ เพิ่งจะเปิด ก็จริง แต่ถ้าเทียบกับสาขาอื่น ๆ ที่เปิดพร้อม ๆ กัน แต่ผลประกอบการของที่กลับไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ และลูกค้าก็ไม่ เยอะเท่าที่ควร ฉันจึงอยากมาดูหน่อย ว่าเขาทำงานกันยังไง “
“ไหนนายบอกว่า สาขาใหญ่กรุงเทพส่งคนมาดูแลแล้วนี่ “
“อือ คุณเอก รายงานแล้ว ว่า ผู้จัดการ จากสำนักงานกรุงเทพ มาดูแล้ว แต่ว่านะ ฉันก็ยังไม่ไว้ใจ อยู่ดี เพราะฉันคิดว่าเรื่องมันไม่ง่าย หรอก “
“อือ มีอะไรก็บอกฉันได้นะ คฑา “
“ไม่เป็นไร ฉันจัดการได้ คงไม่ถึงมือของนายหัวเดชหรอกนะ เชื่อสิและอีกอย่างมันเป็นปัญหาภายในองค์กร ฉันจัดการได้ ”
คฑาเอ่ยกับเพื่อนรักอย่างนายหัวเดช คฑาคือประธานใหญ่ของ คิงส์ อ๊อฟโฮเทล ที่เขามาที่นี่เพราะ เขา ได้รับรายงานเกี่ยวกับการทำงานและผลประกอบการที่มันดูจะ ต่ำกว่ามาตรฐานของโรงแรมในสาขาอื่น ๆ และเป็นจังหวัดที่เพื่อนรัก อย่างนายหัวเดช อยู่นั่นเอง
“ก็ได้ ถ้าต้องการก็บอกก็แล้วกัน ฉันช่วยนายได้เสมอ “
“อือถ้าอย่างนั้น นายช่วยฉันสักเรื่องสิ นายหัว “
“ว่ามาสิ “
คฑา เอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ และยิ้มในหน้า เมื่อ เอ่ยบอกเพื่อนรัก และสายตาก็ยังมองไปที่สองสาว ที่กำลังว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน ตอนนี้
“ฉันอยากรู้ว่าพวกเธอเป็นใคร วะ นายหัว “
และคำขอของเพื่อนรักทำให้นายหัวหนุ่ม ต้องขมวดคิ้ว เพราะเขาไม่แน่ใจว่า เพื่อนของเขา สนใจเธอคนไหน จะใช่สาวสวยชุดสีฟ้า หรือ ชุดสีแดง
“คนไหนละ คฑา ที่นายสนใจ” นายหัวเดชเอ่ยถามเสียงเข้มและลุ้นว่าเพื่อนของเขาสนใจคนไหนกันแน่
“สาวสวยชุดแดง นะ สเปคสวยหุ่นนางแบบ ฉันชอบ “
เมื่อได้ยินคำตอบจากเพื่อน รักก็ทำให้ นายหัวเดชต้องถอนหายใจและรู้สึกโล่งใจ แต่ทำไมเขาต้อรู้สึกโล่งอก ด้วย นายหัวเดชได้แต่สงสัย
“สาวชุดแดง งั้นเหรอ เธอชื่อ วิภา เป็น พนักงานของนายนั่นละ “
“หมายความว่าไง เป็นพนักงานของฉัน เธอทำงานที่คิงส์ เหรอ ที่นี่นะเหรอ “
คฑาถามด้วยความตื่นเต้น และมองไปที่สาวสวยบิกินี่ชุดแดง ด้วยสายตาพราว
“ใช่ เธอก็คือคนที่มาจาก คิงส์ สาขาใหญ่ไง “
“เฮ้ยนายหัว ทำไมนายรู้รายละเอียด เยอะขนาดนี้วะ อย่าบอกนะว่านายสนใจเธอเหมือนกัน นะ “คฑาเริ่มจะระแวงเช่นกัน และนายหัวเดชได้แต่ ยิ้มมุมปากแต่ไม่พูดอะไร
“แล้วนายคิดว่าไง “
นายหัวเดชได้แต่เอ่ยถามเสียงเรียบแต่สายตายังคงมองไปยังท้องทะเลเบื้องหน้าที่มีสองสาว ลอยคอเล่นน้ำอยู่
***********************************