บทนำ
ตอนที่ 1 หาแรงบันดาลใจ
สายตากลมโต กำลังกวาดสายสายตามตัวหนังสือ พร้อมกับขมวดคิ้ว กัดริมฝีปากล่างด้วยความเคยชิน
“บทเลิฟซีนบ้าบ้อ ไม่สมจริงเลย”
“สงสัย จะไม่เคยจูบ แล้วจะรู้ได้ไงว่าความรู้สึกที่ถูกจูบเป็นยังไง”
“ทำไมไม่หาประสบการณ์บ้างละ “
“ไม่สมจริงเลย “
“ไม่อินเลย”
“ ไปหัดเขียนมาใหม่”
“มือสมัครเล่นหรือเปล่าเนี๊ยะ “
“ไม่สนุก “
“กลับไปเขียน แนวดราม่าสยองขวัญแบบเดิมเถอะ “
“เคยมีแฟนหรือยัง “
“ไม่เหมาะกับแนวนี้ “
บลา บลา บลา
“โถ่เอ้ย ถึงฉันจะไม่ประสบการณ์ทางนี้ แต่ฉันก็ดูจากที่อื่นได้ และฉันก็ไม่เห็นว่ามันแย่ถึงขนาดนั้นซะหน่อย แล้วไม่คิดจะอ่านเนื้อเรื่อง บ้างเหรอไง อ่านแต่ เลิฟซีนหรือไงกัน “ เสียงหวานต่อว่าต่อขาน เมื่ออ่านคอมเม้นต์ ต่าง ๆ จาก แฟนนิยาย ที่ได้มาอ่านผลงาน ของตัวเอง
“แต่มันก็จริง อย่างที่เขาว่า หรือว่าเราจะ หมดมุข หรือแรงบันดาลใจแล้วจริง ๆ กันนะ เฮ้อ แต่มันก็ตื้อจริง ๆ นั่นแหละ หรือเราคงจะต้อง พักงานเขียนไปหาแรงบันดาลใจดี ๆ ดีกว่ามั้ง “ คิดได้แค่นั้นร่างเล็ก ก็ทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนที่นอนหนานุ่ม ก่อนจะถอนหายใจ และลืมตามองเพดาน ที่ถูกตกแต่งด้วย สติ๊กเกอร์รูปดาว ที่ส่องแสงในที่มืด
และเจ้าของดวงตากลมโต คนนี้ก็คือกิ่งกาญ นักเขียนสาว ที่ตอนนี้กำลังรู้สึก ว่าตัวเอง ไม่มีแรงบันดาลใจที่จะแต่งนิยาย แล้ว แถมยังคอมเม้นท์ที่บั่นทอนความรู้สึก ต่าง ๆ นานา นั่นอีก ทำให้ตอนนี้ เธอคิดว่าเธอจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไรดี หรือว่าเธอต้องออกไปหาแรงบันดาลใจอย่างที่ว่าจริง ๆ แต่จะไปหาที่ไหนละ เพราะเท่าที่เธออ่านคอมเม้นท์ของแฟน ๆ นิยาย ส่วนมากจะแค่เรื่องเดียวคือ ฉากเลิฟซีน ที่ทุกคนต่าง พูดไปในทางเดียวกัน ว่า ไม่อิน หรือเธอจะต้องหาประสบการณ์จากตรงนี้กันนะ แต่แค่คิดก็ทำให้กิ่งกาญต้องส่ายหน้ารัวเร็วกับความคิดสุดท้ายของเธอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู ดังสามครั้ง พร้อมกับเสียงเรียกอยู่หน้าประตู ดังขึ้น
“ยัยกิ่ง ยัยกิ่ง ไอ้กิ่ง นี่แกจะไม่ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันบ้างเลยหรือไง กัน ฮะ กิ่ง”เสียงแหลม ๆ ตะโกนเรียกอยู่หน้าประตู พร้อมกับเสียงเคาะ ไม่หยุด ทำให้ คนที่นอนแผ่หลาต้องเด้งตัวลุกเดิน โต๋เต๋เหมือนร่างไร้วิญญาณ ที่อยู่ในชุดนอน เป็ดสีเหลืองทั้งชุดไปเปิดประตู
“ตะโกนทำไม วิ เสียงแกดังไปสามบ้านแปดบ้านแล้วมั้ง นะ”
“โห ไอ้กิ่ง สภาพแก อย่างผีตายซาก นี่อย่าบอกนะว่าแกยังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อเช้า จนตอนนี้ มันจะเย็นค่ำแล้วนะ ไอ้กิ่ง “
“อือฉันเขียนหนังสืออยู่ นะ “