“ฉันมาเพราะอยากช่วย เธอไม่รับก็ตามใจสิ นี่นามบัตรฉัน...หลังงานศพคชา เธอต้องไปหาฉัน... ไม่อย่างนั้นฉันจะให้คนมาลากเธอไปเอง”
เพื่อความปลอดภัยของคณานางค์ เขาคงต้องเอาหล่อนไปอยู่ในความคุ้มครอง พวกเสือหิวทั้งหลายจะได้รู้สึกยำเกรง...เพราะหากคนพวกนั้นรู้ หล่อนคงไม่ได้มายืนลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนี้หรอก
เขารู้ว่าผู้หญิงหัวดื้อคนนี้คงจะไม่ทำตามแน่ๆ อยู่แล้ว มิเกลเริ่มหงุดหงิด เขาจะมาใส่ใจอะไรกับเด็กสาวกะโปโลอย่างหล่อน งานเขายุ่งจะตายชัก...จะเอาเวลาที่สร้างเงินได้ มาเสียเปล่าเพราะผู้หญิงดื้อด้านคนเดียวทำไม! เศษเงินที่คชายืมมาเขาไม่เสียดาย แต่เมื่อพบเจอคณานางค์เขารู้สึกเวทนาหล่อน...เพราะหากเขาทำเมินเฉยอีกคน...หล่อนคงถูกทึ้งจนไม่เหลือซาก
เธอเดินลากขากลับมาที่ศาลาไว้ศพบิดา คนดูแลกำลังลากประตูเหล็กปิดงับลง เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีเสร็จ ก็หมดเวลาที่บรรดาญาติๆ จะอยู่ให้เกะกะนัยน์ตา มีกลุ่มคนของเธอยืนรออยู่ด้านหน้า ใบหน้าของพวกเขามีแต่ความเศร้าหมอง เมื่อแอบหวั่นวิตกกับอนาคตของตัวเอง
“ลุงแสง นม กลับบ้านกันเถอะค่ะ นางมีอะไรจะคุยกับทุกคนด้วย” เธอพูดเสียงระโหย เหลียวกลับไปมองศาลาที่ปิดไฟมืดมิดครั้งสุดท้าย
“คุณหนูครับ” ลุงแสงยืนซองหนาๆ ให้เธอ คณานางค์ขมวดคิ้ว ซองนี่เธอปฏิเสธผู้ชายคนนั้นไป เขายังหน้าด้านเอามายัดเหยียดให้คนของเธอเสียอีก
“ลุง!! รับมาทำไมคะ?” เธอยกมือขึ้นขยุ้มผมบนศีรษะรู้สึกอยากร้องว๊าก! เมื่อผู้ชายคนนั้นเริ่มขยับรุกเข้ามา
“ท่านบอกว่าคุณหนูต้องใช้ และผมก็เห็นด้วย...”
น้ำหนักอันหนักอึ้ง กับรูปทรงคุ้นตา ชายสูงวัยพอจะเดาได้ เขารู้ว่าคุณหนูของบ้านแทบจะไม่มีอะไรติดตัว สิ่งนี้จะช่วยให้เธอสบายขึ้น
“เอาเถอะ! รับมาแล้วก็แล้วไป กลับบ้านกันเถอะค่ะ นางมีเรื่องต้องให้ลุงแสงกับนมช่วยคิด”
เธอรับซองจากมือของชายสูงวัย พร้อมกับเอ่ยปากชักชวนคนที่เหลือกลับ รถยนต์คันเก่าๆ คือพาหนะที่ใช้เดินทาง ถึงจะเบียดเสียดกันนิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าจ่ายค่ารถแท็กซี่ราคาขูดเลือดขูดเนื้อ
โถงกลางบ้าน คนงานเกือบสิบชีวิตนั่งรออย่างสงบ ในใจของทุกคนมีแต่ความกังวล...เมื่อประมุขของบ้านสิ้นชีพ พวกเขาก็มีแต่ความหนักใจ เพราะท่านแทบจะไม่ทิ้งอะไรไว้ให้บุตรสาวเลย...ที่สำคัญหนี้ก้อนใหญ่ที่คณานางค์ต้องแบกรับไว้อีกนี่สิ...ตัวพวกเขาก็แค่แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน แต่คุณหนูล่ะ จะอยู่อย่างไรต่อไป
หญิงสาวทรุดนั่งท่ามกลางวงล้อมของคนงาน ไม่ต้องมาถือตัวกันล่ะ เพราะเธอก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเขาแล้ว...จากลูกสาวเศรษฐี ตอนนี้เธอเป็นแค่ยาจก ไม่มีหลังคาคุ้มหัว ไม่มีที่ซุกกายนอน...ไม่มีสตางค์ติดตัว
“นางไม่อ้อมเลยนะคะ” หญิงสาวเกริ่นนำ เธอถอนใจเฮือกๆ “สิ้นคุณพ่อ นางก็แทบไม่มีอะไรเหลือ เพราะฉะนั้น หากทุกคนอยากไปไหน หรืออยากจะไปหางานใหม่ทำก็ได้ นางไม่ว่า เงินที่ค้างไว้ ที่คุณพ่อไม่ได้จ่ายเลย นางจะเคลียร์ให้...หวังว่าในอนาคตเราคงได้เจอกันอีก...นางขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ”
เสียงพึมพำดังขึ้น หลายคนขยับเขามาไหว้คณานางค์พร้อมทั้งแจ้งความจำนงของตัวเอง แม้จะเป็นห่วงคุณหนูของบ้าน แต่พวกเขาก็แค่คนค้าแรงงาน มีครอบครัวทางบ้านให้ดูแลเช่นกัน
1 ชั่วโมงหลังจากนั้น...
“นมไม่ไปค่ะ นมจะอยู่กับคุณหนู นมไม่รับเงินเดือนก็ได้ค่ะ นมกลัวไม่มีใครหาข้าวหาปลาให้คุณหนูทาน” นมย้อยออกตัว...นางมีลูกหลาน แต่พวกเขาถึงฝั่งกันหมด นางลอยลำ สามารถคอยดูแลรับใช้คณานางค์ได้เพราะรักประหนึ่งลูกหลาน
หล่อนซาบซึ้งจนลำคอตีบตัน “นางกลัวว่าจะพานมไปลำบากด้วยสิคะ บ้านหลังนี้กำลังจะถูกยึด นางยังไม่รู้เลยจะไปอยู่ไหน?”
คณานางค์คอตก...หลังจ่ายเงินเดือนที่ค้างไว้ให้กับสาวใช้คนอื่น สตางค์ที่มิเกลให้มาแทบจะหมดเกลี้ยง เธอเหลือแค่เงินในบัญชีที่ขายเครื่องเพชรของแม่ และหากจบงานของบิดา คงเหลืออีกไม่มาก
“ไปอยู่บ้านผมครับคุณหนู ไม่ใหญ่โตอะไร แต่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน” แสงออกตัว เขามีบ้านไม้หลังเล็กๆ อยู่ด้านหลังคฤหาสน์อภิรักษ์ภูเบศ...
“ตาแสงลูกแกไม่ว่าเอาเหรอ?” นมย้อยรีบกระซิบถาม บุตรชายของแสงอาจจะไม่ชอบใจ หากนางกับคุณหนูจะไปอาศัยอยู่ด้วย
“ไม่หรอก เขาไปซื้อตึกแถวอยู่กันแล้วล่ะ บ้านนั้นฉันอยู่คนเดียวน่ะพี่ย้อย” ชายชราตอบนมย้อย เสียงของเขาสั่นพร่า เมื่อบุตรชายคนเดียวเห็นเมียดีกว่า แยกตัวไปตั้งแต่แต่งงาน และแทบจะไม่กลับมาดูดำดูดีตัวเอง
“อืม...ว่าไงคะคุณหนู”
แม้จะเป็นแค่บ้านโทรมๆ แต่คณานางค์ก็เห็นดีด้วย จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย...เพราะกว่าเธอจะหางานการทำได้ ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไร...
“นางยินดีค่ะลุงแสง...ดีสิเราจะได้มีที่อยู่...ไม่ต้องหอบผ้าไปโดยยังไม่รู้อนาคต”
สภาพของเธอไม่สามารถเย่อหยิ่งได้เหมือนเก่า...เงินมีแบบจำกัด จำเขี่ย และหากเจ้าหนี้ของบิดารู้เรื่องการกลับมาของเธอ คงต้องเดือดร้อนอีกแน่ เพราะๆ เจ้าของเงินเขาก็อยากได้ของเขาคืน แต่เธอไม่รู้จะเอาที่ไหนคืนนี้สิ!
“หล่อนเป็นไงบ้าง?” ไม่รู้สิ? คณานางค์เป็นสิ่งเดียวที่ค้างคา แววตาถือดีของหล่อนทำให้มิเกลหงุดหงิด ทั้งที่ไม่มีดีจะอวด แต่เด็กสาวผู้นั้นยังผยอง ความจริงหากชายหนุ่มเป็นคนใจดำจริงๆ หล่อนไม่ได้ลอยหน้าทำท่าอวดดีใส่ได้หรอก เพราะหนี้ที่คชาต้องจ่ายให้เขานั้น มันไม่ใช่แค่นิดหน่อย ความที่คุ้นเคยกับคชา เขาไว้ใจชายผู้นั้น มารู้เอาก็สายไป เพื่อนรุ่นพี่ถลำลึก...จนสิ้นเนื้อประดาตัว...เพราะอบายมุข...
คชาติดการพนัน เป็นหนี้เขาไปทั่ว...จนปลิดชีพตัวเองหนีหนี้ ไม่เกี่ยวกับการร่วมลงทุนทำธุรกิจกับเขาเลย...คนภายนอกไม่รู้เลยเข้าใจผิดๆ และมิเกลไม่คิดจะแก้ต่างให้ตัวเอง เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องขี้ผง ไม่จำเป็นต้องแคร์ใครเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง
“สบายดีครับท่าน พรุ่งนี้เผาคุณคชา ท่านจะไปไหมครับ”
“ไปสิ...ไปส่งคชาครั้งสุดท้าย...หมดเวร หมดกรรมไป เหลือแต่คนอยู่นั่นแหละที่ต้องสู้ต่อ...” มิเกลคลึงปากกาในมือเล่น เขานึกถึงคณานางค์ด้วยความเป็นห่วง...พรุ่งนี้คืนวันวิปโยคของหล่อนแน่! เพราะคนที่เป็นเจ้าหนี้ของคชาคงตามไปรุมทึ้ง...
หล่อนจะรับมือไหวไหม?
“เตรียมคนไปด้วยนะ เพื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน” เขาร้องสั่งคนข้างกาย ก่อนจะเสหลบสายตา ไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ รู้แค่ว่า...อยากทำ
มันต้องเกิดอยู่แล้วแหละ...เขาแค่กันไว้ ดีกว่ามาแก้ทีหลัง และผู้หญิงคนนั้นคงไม่รู้ตัว มหันตภัยกำลังคืบคลานเข้าไปหาหล่อน แบบคุกคาม!
แม้มันเป็นวันที่แสนจะหมองเศร้า เมื่อต้องมายืนส่งบิดาไปสู่ภพภูมิที่ดี โดยที่ตัวเองได้แต่อ้างว้าง...ไม่มีอ้อมกอดของคนใกล้ชิดคอยโอบประคอง มีแขกเหรื่อหนาตามากกว่าทุกวัน แต่ความเศร้าหมองทำให้คณานางค์พยายามไม่ใส่ใจ พวกเขาอาจจะเป็นคนรู้จักของบิดา พวกเขามาเพื่อล่ำลาท่านครั้งสุดท้าย...แม้แต่ละคนจะหน้าตา ไม่น่าไว้ใจเกือบทั้งนั้น
นมย้อยถอนใจแล้ว ถอนใจอีก นางหวาดผวา เพราะคุ้นหน้าคนเหล่านั้น หญิงชรามองหาทางช่วยเจ้านายสาว...เพราะหลังส่งท่านเขาเตาเผา คนพวกนี้คงไม่อยู่เฉย เมื่อแต่ละคนเป็นเจ้าหนี้ของคุณท่านแทบทั้งสิ้น...
มิเกลเดินปราดเข้ามา จวนเจียนเวลาที่จะส่งเพื่อนรุ่นพี่เขาสู่เมรุ สายตาคมดุกราดมองแขกเหรื่อที่อยู่ในบริเวณงาน คนของชายหนุ่มเริ่มกระจายโอบล้อม และเริ่มควบคุมตัวคนแปลกหน้า ก่อนจะดันพวกเขาออกไปนอกบริเวณ ป้องกันคนพวกนี้ก่อเรื่อง
และนมย้อยมองเห็น...นางโล่งอก...เริ่มมองผู้ชายคนนั้นใหม่...เขาอาจจะไม่ใช่สาเหตุให้คุณท่านตาย เหมือนอย่างที่เป็นข่าว เมื่อมาประสมกับถ้อยคำยามได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งของกลุ่มเจ้าหนี้ของท่าน...มันน่าจะเป็นเรื่องอื่น ไม่ใช่เรื่องธุรกิจที่ท่านทำ...เพราะคนพวกนั้นหยาบช้า คำพูดเหมือนหลุดออกมาจากขุมนรก...ต่ำจนฟังแล้วยังระคายหู