“อ๊า...”
เจนนี่พริ้มตา ความหน่วงแน่นภายในทุเลาลงแล้ว หล่อนรู้สึกโล่ง ขณะสิงหาที่ยืนอยู่ทางด้านหลังหลุบตาลงมองน้ำกามสีขาวข้นราวกะทิของตัวเอง กำลังไหลเอ่อออกมาจากร่องสวาทที่โดนอัดทะลวงจนกลวงโบ๋
ผ่านมาอีกสองเดือน
“พี่เจนนี่คะ...พี่สิงห์โทรมาบ้างไหมคะ” น้ำผึ้งร้องถามพี่สาวในตอนสายของวันหนึ่ง ขณะเจนนี่แต่งตัวสวยออกมานั่งอยู่ที่เทอเรซหน้าบ้าน สายตามองไปยังประตูหลายครั้งเหมือนรอใคร
“โทรมาจ้ะ...เมื่อคืนก็โทรมา” เจนนี่ตอบน้องสาวขณะกรีดนิ้วเลื่อนดูข้อความในจอโทรศัพท์มือถือไปพลาง
“พี่เจนนี่จะไปไหนคะ” น้ำผึ้งตัดสินใจถาม
“ไปดูหนัง” สิ้นเสียงตอบของเจนนี่ รถบีเอ็มดับเบิลยูสีทองคันหรูก็แล่นมาจอดหน้าประตูบ้าน แลเห็นผู้ชายคนหนึ่งชะโงกใบหน้าออกมาส่งยิ้มให้แต่ไกล
“มาแล้ว...พี่ไปก่อนนะผึ้ง” เสียงของหล่อนเริงร่า
“ใครอะพี่เจนนี่” น้ำผึ้งถาม หัวคิ้วก็ขมวดชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“เสี่ยเพชร” เจนนี่ตอบเพียงสั้นๆ รีบสาวเท้าออกไปยังรถคันหรูของ ‘เสี่ยเพชร’ ที่จอดรอ
น้ำผึ้งถอนหายใจยาว ทอดสายตามองตามพี่สาวของตนด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ นึกด่าเสี่ยเพชรอยู่ในใจที่มายุ่มย่ามกับเมียคนอื่น แอบตีท้ายครัวโดยไม่ละอาย
อีกสัปดาห์ต่อมา
คืนวันเสาร์ เจนนี่ออกไปเที่ยวกับเสี่ยเพชรตั้งแต่เย็น น้ำผึ้งอยู่บ้านคนเดียว รอการกลับมาของพี่สาวด้วยอาการกระวนกระวาย รู้สึกไม่สบายใจ เที่ยงคืนแล้วเสี่ยเพชรยังไม่พาเจนนี่มาส่ง
น้ำผึ้งเคยถามถึงความเป็นมาของเสี่ยเพชร แต่เจนนี่ก็ตอบเลี่ยงๆ บอกเพียงสั้นๆ ว่าเจอกันที่ผับ คุยกันถูกคอก็คบหาเป็นเพื่อนเรื่อยมา
แต่น้ำผึ้งไม่เชื่อ หล่อนรู้จักพี่สาวของตัวเองเป็นอย่างดี ก็เลยฟันธงได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจนนี่กับเสี่ยเพชรคนนี้...ต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็น
อีกเดือนต่อมา
“พี่สิงห์...” น้ำผึ้งอุทานลั่น เมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงของสิงหาผู้เป็นพี่เขย เขากลับมาถึงบ้านโดยไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้า
“ยัยผึ้ง...เห็นพี่ทำไมตกใจจนหน้าซีดขนาดนี้” หัวคิ้วเป็นแพสีดำดกหนาของคนที่เพิ่งเดินทางมาถึง ชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย เห็นน้องเมียทำหน้าตกใจเหมือนเจอผี
ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา สิงหาต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ในฐานะสถาปนิกคุมงานที่บริษัทแม่ไว้วางใจ เชื่อมั่นในฝีมือให้เขาเป็นหัวหน้าดูแลโพรเจกต์ก่อสร้างคอนโดฯ มูลค่าหลายพันล้าน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างนายทุนคนไทยกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของไต้หวัน
“ก็...เอ่อ...ก็ผึ้งไม่คิดว่าพี่สิงห์จะกลับมากะทันหันแบบนี้นี่คะ”
“เห็นหน้าพี่...แทนที่จะดีใจ” เขาว่า
“ค่ะ...ดีใจ”
น้ำผึ้งตอบ แต่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่ๆ
“พี่ไปนานตั้งสามเดือนแน่ะ...ผึ้งคิดถึงพี่หรือเปล่า” ประโยคนี้เขาถามเสียงเบา ราวกับกลัวว่าจะมีบุคคลที่สามได้ยิน
“ค่ะ...คิดถึง” ตอบเบาๆ หัวใจยังเต้นแรง
“พี่ก็คิดถึงผึ้ง...นึกถึงตลอดเลย ซื้อของมาฝากผึ้งด้วยนะ”
พี่เขยกล่าวเบาๆ หวานใส่ทุกครั้งที่มีโอกาส น้ำผึ้งรู้ว่าสิงหาเจ้าชู้
ท่าทางของน้ำผึ้งยังดูตกใจ ลุกลี้ลุกลนจนสิงหาผู้เป็นพี่เขยเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
“ดึกแล้ว...ทำไมยังมานั่งอยู่หน้าบ้าน...แล้วเจนนี่ล่ะนอนแล้วหรือ”
ชายหนุ่มเจ้าของบ้านถามถึงพี่สาวของหล่อน ซึ่งก็คือภรรยาของเขานั่นเอง น้ำผึ้งสะดุ้ง คำถามนี้เหมือนฟ้าฝ่าเปรี้ยงลงบนหลังคาบ้าน
“พี่เจนนี่...เอ่อ...” น้ำผึ้งไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ชายหนุ่มใจร้อน ไม่รอฟังคำตอบจากปากของหล่อน รีบลากกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่เข้ามายังเทอเรซหน้าบ้าน เพราะว่าฝนที่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ตอนเย็นเริ่มโปรยปรายลงมาแล้ว และดูท่าจะตกหนักทั้งคืนแน่ๆ
“พี่สิงห์คะ...ที่ไต้หวันเป็นไงบ้างคะ” น้ำผึ้งพยายามหาเรื่องชวนคุย ท่าทางเหมือนไม่อยากให้เขาเข้าไปในบ้าน
“มีอะไรผึ้ง...ทำเหมือนไม่อยากให้พี่เข้าบ้าน”
ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร ตวัดสายคมกริบกลับมามองหน้าน้องเมียด้วยสายตาตั้งคำถาม
“ปะ...เปล่าค่ะ พี่สิงห์เพิ่งมาถึงเหนื่อยๆ ผึ้งว่านั่งดื่มน้ำก่อนนะคะ”
น้ำผึ้งพยายามยื้อเอาไว้เท่าที่จะทำได้
“คิดถึงพี่ใช่ไหม”
สิงหาคิดเข้าข้างตัวเอง พอนึกถึงเรื่องวาบหวาม ความลับที่เคยทำไว้กับหล่อน หัวใจของเขาก็เต้นแรง ความคิดหื่นๆ ผุดวาบเข้ามาในสมองอย่างห้ามไม่ได้
“งั้นเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วพี่ลงมาหาผึ้งนะจ๊ะ...พี่นึกอยากดื่มเบียร์เย็นๆ เหมือนกัน เดี๋ยวรอพี่ลงมานั่งคุยกันนะ”
สิงหาความรู้สึกเร็ว เขาสลัดเสื้อโค้ตที่ชื้นไปด้วยน้ำฝนออกจากตัว แขวนเสื้อไว้ที่ราวไม้ข้างๆ หมวกคาวบอยหลายใบ ก้มลงถอดรองเท้าและถุงเท้าไว้ที่ชั้นวางรองเท้าใกล้บันได ก้าวขึ้นบันไดมุ่งตรงไปยังห้องนอนของเจนนี่ผู้เป็นภรรยา
ทว่าเมื่อเดินขึ้นมาถึงหน้าห้องนอน ชายหนุ่มก็มีอันต้องตกใจ เมื่อผลักประตูห้องนอนเบาๆ แล้วพบว่าไม่ได้ลงกลอนเอาไว้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการหลงลืม หรือเพราะความรีบร้อนเข้าห้องจนลืมล็อกประตู
สิงหารู้ว่ามันแปลก เขาผลักประตูแผ่วเบา เพราะตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ภรรยา ทว่าภายในห้องนั้นมืดมิด มีเพียงเสียงครางครวญแปลกๆ และความเคลื่อนไหวบนเตียงนอน เสียงเตียงไหวยวบเป็นจังหวะ
สิงหาแปลกใจ จึงกดสวิตช์ไฟที่ข้างผนัง ทำให้เห็นภาพสุดบาดตาบาดใจ ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนของเจนนี่กำลังบิดเร่าอยู่ภายใต้ร่างของชายผิวคล้ำที่เขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าเป็นใคร
‘โอ้ว...’
สิงหายกมือขึ้นกุมขมับ บั้นท้ายของมันกำลังกระเด้าเข้าใส่เจนนี่ที่หนีบขาโอบเอวชายคนนั้นแน่น ท่อนแขนของหญิงสาวโอบคอชายปริศนา แอ่นสะโพกโยกร่อนรับแรงกระเด้าเสียงดังพลั่กๆ
“อีแพศยา...”
เหมือนฟ้าผ่าลงบนหลังคาบ้าน สิงหากราดน้ำเสียงด่าหญิงชั่วกับชายโฉดลั่นห้อง สองร่างที่กำลังเสพสังวาสกันอย่างเมามันไม่ลืมหูลืมตา รีบผละออกจากกันด้วยความละอาย
“มึงเป็นใคร…ไอ้ระยำ” กรามของสิงหาขบกันแน่นจนเป็นสันนูนด้วยความโกรธจัด
“ไอ้ชั่ว...”
มือใหญ่ขยุ้มศีรษะของชายชู้ กระชากลงมาจากเตียง เอามือค้ำคอ บีบคอ ผลักร่างของมันมาชิดผนัง ก่อนจะประเคนกำปั้นหนักๆ อัดเข้าใส่ใบหน้าและท้องเสียงดังพลั่กๆ ตามมาติดๆ จนชายชู้ของภรรยาตัวงอเป็นกุ้ง
“กูจะกระทืบให้ตายคาตีน”
กำปั้นหนักอัดซ้ำเข้าที่ท้องชายชู้อีกครั้ง จนร่างของมันร่วงลงไปกอง ร้องโอดโอยหมดสภาพอยู่กับพื้นอย่างหมดทางสู้ เพราะว่าสิงหาเป็นหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน ตัวใหญ่และแข็งแรงมาก
ขณะที่เท้าข้างหนึ่งของสิงหากำลังจะเตะอัดซ้ำไปที่กลางลำตัวของชายผู้ชอบลักขโมยกินอย่างหน้าด้าน จู่ๆ เสียงร้องด้วยความตกใจของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้องที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงก็ดังขึ้นเสียก่อน
“พี่สิงห์อย่าทำเค้า…” เจนนี่อุทานด้วยความตกใจ รู้ว่าเวลาโกรธสิงหาโมโหร้ายมาก