ประเทศอังกฤษ ณ กรุงลอนดอน
เธอมาถึงเพื่อจัดการเคลียร์งานบางอย่างให้ลงตัว ธุระกิจแรกของเธอคือผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่กำลังจะเปิดตัวและวางขายในเดือนหน้าแต่มามีปัญหาซะอย่างนั้น
“นายพูดจริงเหรอ?”
“ใช่ลูกปลามีคนพยายามดิสเครดิตสินค้าเรา” เจมบอกพร้อมกับส่งเอกสารบางอย่างที่ได้รับมา
“นี่มันใส่ร้ายกันชัดๆฉันต้องเอาคืนมันแน่” เธอแค่อ่านข้อมูลสินค้าใหม่ที่ถูกป้ายสีซะยับเยินทั้งที่ยังไม่วางขาย มันมากเกินไปแล้ว
“ตั้งทีมทนายจัดการพวกมันฉันอยากให้เป็นข่าวเอาให้ดังกะฉ่อนไปเลยถือเป็นการโปรโมตสินค้าด้วย” ไหนๆใกล้จะเปิดตัวแล้ว
“มั่นใจ?”
“เอาน่าอย่างน้อยคนจะได้รู้จักสินค้าเราด้วย” เธอไม่ได้มาเพื่อวางแผนจัดการคนชั่วอย่างเดียวมันเปลืองค่าเครื่อง เธอจัดการวางแผนโปรโมตสินค้า งานเปิดตัวและแขกรับเชิญอีกแค่คิดก็ปวดหัวอีกรอบแล้ว
เธอมาห้องพักชั่วคราวที่เพื่อนจองให้นั่งคิดอะไรเพลินก่อนจะตกใจกับเสียงฟ้าร้องดังลั่น
เปรี้ยง!!
ตุบ!!
“โทรศัพท์!!!” ตกอ่างล้างหน้าไปแล้วเธอรีบหยิบขึ้นมาแต่ก็ไร้ค่าเพราะเปิดเครื่องมันติดๆดับๆแล้วก็สัมผัสอะไรไม่ได้เลย
ประเทศไทย ณ กรุงเทพ เวลา 03.45 น.
ชายหนุ่มใส่ชุดแขนยาวมีหมวกแล้วหน้ากากปิดบังใบหน้าพร้อมด้วยลูกน้องอีกสิบกว่าคน เขาเดินยิ้มร่าด้วยความสะใจกับภาพตรงหน้า
“คิดว่ากูกระจอกเหรอไอ้สัส!!” รองเท้าหัวเหล็กกระแทกเข้าเต็มกรามชายอีกคนทันที
“มึงมันหมาหมู่!”
“แล้วที่มึงทำไม่เรียกหมาหมู่เหรอ?” เขากดเสียงต่ำมองชายอีกคนที่อาการสาหัสพอตัวก่อนจะยิ้มเล็กพร้อมยกเท้าเหยียบหน้าอกแรงขึ้น
"อัก!"
“มึงจะทำอะไรเมียกูนะ?” เขาตามหาคู่หมั้นไม่เจอไปหาพ่อแม่ลูกปลาก็ไม่รู้เรื่องแล้วเบาะแสสุดท้ายคือคำพูดของพวกมัน
“กูขอโทษแต่กูยังไม่ทำอะไรเว้ย!” ชายอีกคนพูดก่อนจะสลบกลางอากาศจากเท้าที่เต๊ะเข้าที่หน้า
“มึงบอกว่าลิลลี่เป็นเมียใช่ไหม? ไอ้วินเอาตัวมันมา” เขาตะโกนสั่งลูกน้องให้ลากตัวนังสารเลวออกมา
ลิลลี่ด้วยสั่นเทาไปด้วยความกลัวเธอร้องไห้อย่างหนักยิ่งเห็นชายหนุ่มเธอยิ่งสั่นไปกว่าเดิม เธอถูกเขาซ้อมจนแทบเดินไม่ไหว
“กูจะบอกให้นะมันขายให้กูเองไอ้ควาย!!” เขากระชากผมลิลลี่มามองก่อนจะยิ้มร้ายกาจเมื่อเห็นท่าทีสั่นดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“เสี่ยขาลิลลี่ขอโทษ!” ลิลลี่ยกมือไหว้ขอร้องทั้งน้ำตา
“ถ้ามึงไม่หยุดครั้งหน้าลงนรกแน่” เขาพูดก่อนจะผลักลิลลี่ไปกองกับพื้น
“ไอ้วินจับดูพวกมันถ้าตุกติกเชือดได้เลย!” คำสั่งสุดท้ายพร้อมปรายตามองคนที่ใกล้ตายด้วยความเย็นชาแล้วเดินกลับขึ้นรถไปตามหาคู่หมั้นต่อ เขาไม่รู้ว่าลูกปลาอยู่ไหนแต่คงพวกมันคงไม่ได้ลักพาตัวมาแน่
เขาต้องบ้าแน่ถ้ายังตามหาลูกปลาไม่เจอแบบนี้ เขาตามเช็คทั้งเพื่อนเธอ ที่ทำงานไปจนถึงครอบครัวก็ยังไม่รู้เลยแถมยังโทรติดต่อไม่ได้อีกมันน่าแปลกใจ
“เสี่ยครับ 2 วันแล้วที่คุณลูกปลาไม่ติดต่อใคร” มาวินรายงานต่อ
“ไปมุดหัวอยู่ไหนวะลูกปลา!” เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดที่จะหลบหนีเขา แต่ครั้งนี้มันแปลกเกินไปจริงๆ
ลูกปลาหายไปไหนนน….
เช้าวันต่อมา…
ครบ 3 วันตามที่ลูกปลาบอกเลขาไว้แล้วแต่เธอยังไม่โผล่หัวมาเลยนี่เขามารอตั้งแต่เช้าจนเที่ยงก็ยังไม่มีอีก เธอจะทิ้งเขาไปอีกครั้งเหรอวะ
“ไอ้วินไหนมึงบอกว่า 3 วันไงวะ!!” เขาตะคอกถามลูกน้องด้วยความโมโห
“โธ่เสี่ยผมก็รู้จากเลขาคุณลูกปลาอีกทีนะ” มาวินตอบเสียงอ่อย
“ไปเตรียมรถก็จะไปคอนโดลูกปลา”
“แต่ว่าเสี่ยต้องเข้าประชุม”
“กูสั่ง!!!”
การประชุมถูกยกเลิกกระทันหันเมื่อผู้บริหารไม่พร้อม เขาไม่มีสมาธิจะสนใจอะไรนอกจากการหายตัวไปของคู่หมั้นที่ไม่มีวี่แววจะติดต่อได้เลย
เขาควรจะหาลูกปลาจากที่ไหนอีก
“โธ่เว้ย!!” เขาทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้แล้ว
ชายหนุ่มส่งลูกน้องไปหาตามสถานที่ต่างๆที่เธอน่าจะไปแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เขาเป็นห่วงเธอมากจนไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้เลย
หรือเธอจะทิ้งเขาไปอีกครั้ง!
เขาหยุดแล้วเพื่อเธอในตลอดสามวันเขาไม่ได้ไปเที่ยวผับบาร์กินเหล้าที่ไหนเลย เขาตามหาเธอ อยากจะพูดคุยอะไรดีๆ และบอกรักถึงจะมั่นใจว่าต้องเจ็บแน่นอน
“ไอ้วินเช็คกับเพื่อนลูกปลาทุกคนรึยัง?” เขาไม่อยากจะคิดร้ายแต่ลูกปลาอาจจะอยู่เพื่อนสักคนก็ได้
“เช็คแล้วครับเสี่ยคุณลูกปลาไม่ไปหาใครเลย” มาวินตอบชัดเจนเพราะรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์มันย่ำแย่แค่ไหน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคู่หมั้นเจ้านายมักจะเดือดร้อนเสมอแล้วครั้งนี้ก็มากมายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาจนน่าหวั่นใจ
“ถ้าวันนี้ยังไม่มากูจะแจ้งความ” อาจเป็นวิธีโง่ๆ แต่เขาก็จะทำ
เวลา 19.00 น ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
เครื่องดีเลย์ไปครึ่งชั่วโมงแต่ก็ไม่เป็นไรยังไงซะตอนนี้เธอก็มาถึงประเทศไทยแล้วโทรศัพท์พังแต่ไม่ยอมซื้อเพราะจะมาซื้อที่นี่แทนไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดโง่ๆได้ขนาดนี้ เธอมาต่อคิวขึ้นแท็กซี่เพราะไม่ได้เอารถมาไม่รู้ป่านนี้พ่อแม่จะว่ารึเปล่าที่เธอบินด่วนแต่เดี๋ยวค่อยอธิบายเหตุผลให้ฟังทีหลังแล้วกัน ส่วนคู่หมั้นป่านนี้คงนอนกกสาวสักคนแน่
สันดานเจ้าชู้มันแก้ไม่ได้หรอก
“จอดข้างหน้าค่ะ” เธอยังไม่เข้าคอนโดเพราะแวะร้านอาหารก่อน
“ครับผม”
ร้านอาหารธรรมดาข้างฟุตบาทแบบนี้เธอไม่ค่อยมีโอกาสมากินบ่อยเหมือนตอนเรียน กินข้าวคนเดียวเหงาจัง! เธอมองไปโต๊ะอื่นที่มาเป็นคู่
“กินคนเดียวไม่เป็นรึไง!” เธออดจะค่อนแคะโต๊ะอื่นไม่ได้
“คิวยาวไหมคะ?” รอ 10 นาทียังไม่ได้กินเลย
“ยาวจ้ะหนูไม่มีโต๊ะวางเลย หนูใส่ถุงได้ไหมเอาไปกินที่บ้าน” แม่ค้าวัยกลางคนบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มขณะที่มือจับตะหลิวผัดไม่หยุด
“ค่ะ เอาต้มยำร่วม ตำป่าแล้วก็ไก่ย่างตัวนึงค่ะ” ขึ้นชื่อความหิวมันทำลายได้ทุกอย่าง เธอสั่งไปไม่รู้ว่าจะกินหมดไหมแต่ก็สั่งเห็นโต๊ะอื่นกินก็น้ำลายไหลตาม
เธอรอสักพักถึงได้ของที่ต้องการจนเต็มมือเพราะดันไปสั่งเพิ่มเหมือนว่ากินหลายคนงั้นแหละ เธอไม่มีรถจะให้เดินคงไม่ไหวงานนี้มีแต่พี่วินมอเตอร์ไซอย่างเดียวที่พาเธอชิ่งจนเกือบตกรถแต่ก็มาถึงคอนโดโดยปลอดภัย
“คุณลูกปลา!!!” ใครเรียกเธอ
“คุณลูกปลาไปไหนมาครับ?” มาวินวิ่งเข้ามาถามพร้อมกับแย่งของในมือเธอมาถือซะเอง
“มาวินนายมาที่นี่ทำไมแล้วเสี่ยอิฐละ?” ลูกปลาถามติดจะงงนิดๆ
“ผมว่าไปห้องก่อนนะครับ” มาวินเลี่ยงที่จะบอกว่าเจ้านายรออยู่เพราะกลัวว่าคุณลูกปลาจะไม่ยอมไปเจอ เมียเจ้านายดื้อขนาดไหนเขารู้ดี!
“อืม...ไปสิ” ลูกปลาขึ้นลิฟท์ไปแบบไม่ทันฉุดคิดอะไรเพราะในตอนนี้เธอหิวมากแล้วก็เหนื่อยมากด้วย
งานที่ทำร่วมกับเพื่อนไม่เท่าไรแต่เธอแวะไปตรวจที่บริษัทของพ่อด้วย เธอแทบจะไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำลองถอดแว่นสิคนคงตกใจนึกว่าแพนด้าแน่เลย
“คุณลูกปลาไปไหนมาเหรอครับ” มาวินถามขณะที่ส่งข้อความบอกเจ้านายแล้ว
“ทำงานสิ”
ชายหนุ่มนั่งรอด้วยใจจดใจจ่อเมื่อได้อ่านข้อความจากลูกน้องเขาต้องพยายามใจเย็นให้มากที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่ให้ตายเถอะคำถามมันวิ่งวนไปมาจนน่าหงุดหงิด
“เสี่ยอิฐ!!” เปิดประตูมาก็เจอคนที่ไม่อยากจะเจอทันทีเธอน่าจะถามมาวินก่อนว่าเขาอยู่รึเปล่า
“ไปมุดหัวอยู่ไหนมาเสี่ยตามหาจนทั่ว!!” เขาตวาดลั่นเมื่อเห็นเธอเดินหน้าระรื่นเข้ามา
“เสี่ยเป็นบ้าอะไรเนี้ยห่ะ ลูกปลาไปทำงานมา” เขาเป็นอะไรถึงมาตะคอกใส่เธอแบบนี้
“งานห่าหอกอะไรสามวันไม่กลับ!” เขาเดินไปจับไหล่เธอบีบแน่นคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ เธอทำเขาประสาทกินยังไม่สำนึกแถมกรอกตาใส่อีก ยัยนางมารร้าย!
“ไปอังกฤษค่ะ พอใจยังปล่อยลูกปลาเจ็บ” เธอแกะมือเขาออกก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไม่สนใจอะไรคนขี้โวยวายตรงหน้า ลำพังแค่งานเธอก็เหนื่อยพอแล้วนะ
“ลูกปลาจะเดินหนีเสี่ยแบบนี้ไม่ได้กลับมาคุยเดี๋ยวนี้!!” เขาตวาดเสียงดังลั่นจับข้อมือเธอแน่นไม่ให้หนีไปไหนได้อีก ยั่วโมโหอีกแล้วใช่ไหม
“โอ๊ย!! เจ็บนะ!!” เธอพยายามจะสบัดมือออกแต่ก็ไม่ออกเขาจับมือเธอแน่นมาก
“ลูกปลาตอบคำถามมาสิ!!”
“ก็บอกแล้วไงว่าไปทำงาน!!”