“เธองี่เง่าอีกแล้วนะผิง”
“เออ! ฉันมันงี่เง่ามากก็ไปหาคนอื่นดิ ไปเลย” จู่ๆ ขนมผิงก็ตะโกนใส่ผมและลุกขึ้นเดินมากระชากแขนผมให้ลุกจากเตียง หากแต่ว่าแรงเธอหรือจะสู้ผมได้ ดังนั้นจึงเป็นผลให้เธอเซล้มลงมานอนบนตัวผม พลางดีดดิ้นไปมาด้วยความหงุดหงิดและสีหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธผมจะหน้าดำหน้าแดง “ปล่อย”
“เป็นเมนส์ทีไร งี่เง่าตลอด”
“เกลียดนาย ฉันเกลียดความซึนความเย็นชาของนายที่สุด!”
“งั้นก็ไปหาคนที่ไม่เย็นชาแบบฉันสิ”
“เออ ฉันหาแน่ไม่ต้องกลัว!” ตวาดผมเสียงดังลั่นห้องจ้องหน้าผมด้วยดวงตากลมที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆ “ทำใจเรื่องนายได้เมื่อไหร่ ไม่ต้องกลัวฉันหยุดชอบนายแน่”
“...” อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ เหมือนกัน อย่างที่บอกผมไม่อยากให้ขนมผิงต้องจมปรักกับผม หากแต่ว่าถ้าจะมีใครก็ขอให้ไม่ใช่เด็กช่างก็แล้วกัน ขอให้เป็นคนอื่นที่จะปกป้องเธอได้เหมือนกับเคลียร์ที่เจอกับพี่สอง
“ปล่อย” ขนมผิงพยายามดีดดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของผมที่ไม่ยอมปล่อยแถมยังยกยิ้มมุมปากใส่เธออีกต่างหาก
“ลงโทษเธอก่อน”
“จะบ้าหรือไง ฉันเป็นประจำเดือน” ใครจะบ้าทำกับเธอทั้งที่เป็นเมนส์กันล่ะ ที่จะลงโทษน่ะคือจูบต่างหาก ผมพลิกตัวเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมขนมผิงที่เอามือยันไหล่ผมเอาไว้ แต่ผมก็จับมือเธอมาสอดประสานเข้ากับนิ้วมือที่ใหญ่กว่ามือเธอหลายเท่า บีบกระชับและกดแนบลงบนเตียงนอน “มาบอกให้เจอคนอื่นที่ดีกว่าตัวเอง”
“แล้ว?”
“แต่ก็มาจูบฉันเนี่ยนะ ย้อนแย้งเป็นบ้า”
“ไม่อยากได้” โน้มหน้าเข้าไปใกล้ขนมผิงจนรับรู้ถึงลมหายใจและกลิ่นกายของเธอที่หอมหวานเหมือนลูกกวาด ใบหน้าหวานบวกกับดวงตากลมโตและริมฝีปากบางอมชมพูทั้งที่ไม่ได้ทาลิปสติกแต่มันชมพูธรรมชาติ ที่ไม่ว่ากี่ครั้งก็อยากจะตะโบมจูบขนมผิงให้ปากเปื่อยกันไปข้าง แถมผิวของขนมผิงก็เนียนผุดผ่องขาวอมชมพูไปทุกสัดส่วน
“ฉันเกลียดนาย” ขนมผิงพูดย้ำๆ แปลกที่ผมไม่คิดจะโกรธหรือหงุดหงิด เพราะรู้อยู่แก่ใจไงว่าถ้าเป็นปกติขนมผิงคงไม่พูดว่าเกลียดผมหรอกนอกจากเมนส์มาแล้วอารมณ์แปรปรวนสุด “ไปตีกับคู่อริมาอีกน่ะสิ หน้าเยิ่นขนาดนี้”
“ช่วยรุ่นน้อง ไม่ได้ตีกับคู่อริ”
“ก็เหมือนกัน”
“อีกกี่วันเมนส์หมด”
“อาทิตย์หนึ่ง”
“โกหก” ผมยกยิ้มมุมปากและขบกัดที่กลีบปากล่างเบาๆ แต่ว่าสร้างความเสียวสยิวให้กับขนมผิงจนบีบกระชับมือผมแน่นราวกับต้องการระบายความรู้สึกผ่านทางร่างกาย “เมนส์เธอมาแค่สามวัน”
“หมดจริงๆ อาทิตย์หนึ่ง โกหกที่ไหน”
“ถึงตอนนั้นจะตักตวงให้หนำใจเลย” ไม่เคยพูดเล่นแต่ผมพูดจริงนะ ขนมผิงเคยเจอมาแล้วไง เกือบตายคาเตียง
“ไม่ชอบกันแล้วมาทำทำไม?”
“เธอเองไม่ใช่หรือไงที่เสนอตัวเองมาให้ฉัน” เพื่อฉุดรั้งผมเอาไว้ ถึงได้บอกเป็นการกระทำที่โง่เง่าซะจริง ผมล่ะเบื่อขนมผิงก็ตรงนี้ ผมเป็นผู้ชายนะมาเสนอให้ก็ต้องสนองสิ พอผมพูดแบบนี้ท่าทางดูฉุนเฉียวไม่พอใจ
“เออ ฉันโง่เองพอใจยัง”
“ดีที่รู้ตัว”
ผมไม่รีรอให้ขนมผิงพูดมากอะไรอีกต่อไป กลับโน้มใบหน้าจรดจูบลงบนกลีบปากบางทันที จากที่พยศเป็นม้าเมื่อกี้ค่อยๆ ดูอ่อนระทวยทันทีเมื่อเปิดปากให้ผมได้สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปกวัดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็ก จูบกับเธอทีไรผมแทบคลั่งตายทุกครั้งที่ได้สัมผัสไปทุกส่วนบนร่างกายของขนมผิง เอาเข้าจริงผมไม่พอถึงได้มีบ้างที่ควงสาวคนอื่นใช่ว่าจะนอนกับทุกคนที่ควง แค่กับบางคนเท่านั้นเช่นโรสที่เธอเป็นคู่ขาของผมที่ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไป ทุกคนมักจะคิดว่าผมเป็นคนแย่งโรสมาจากไอ้โย ผิดทั้งหมดคนอย่างผมไม่เคยแย่งของของใครนอกเสียจาก คนๆ นั้นดูแลรักษาของรักของตัวเองไม่ดีเอง จนสุดท้ายมันก็ตกมาอยู่ในมือของผมโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
ผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่งมองน้ำลายที่แลกกันอย่างดูดดื่ม ผมก็เปลี่ยนเป้าหมายมายังซอกคอที่หอมกรุ่นซุกไซ้และพรมจูบจนขนมผิงขยับขาเสียดสีกับท่อนขาของผมไปมา มันชักจะไม่ไหวแล้วดิทำไมเธอจะต้องมีเมนส์ตอนนี้ด้วยนะ เธอเร้าอารมณ์ผมจนพลุ่งพล่านรับรู้ถึงท่อนเอ็นที่เริ่มขยายใหญ่ผ่านกางเกงยีนส์สีซีด ผมขยับตัวมานั่งยืดขาและปลดเข็มขัดกางเกงโยนทิ้งไปบนพื้นและงัดท่อนเอ็นออกมาสูดอากาศข้างนอก มองสบตากับขนมผิงที่ลุกขึ้นนั่งตามผมก่อนจะโน้มตัวมาบดขยี้จูบบนริมฝีปากผมอย่างร้อนแรง ฝ่ามือเล็กกอบกุมท่อนเอ็นผมและใช้ปลายนิ้วโป้งไล่วนตรงหัวปลายจากนั้นก็สาวขึ้นลงตามจังหวะที่เธอเป็นคนกำหนดมัน
“อมให้ฉันทีผิง”
“ได้ แต่มีข้อแม้”
“อะไร?” ผมขมวดคิ้วอย่างมึนงงที่จู่ๆ ขนมผิงก็มีข้อต่อรองกับผม
“นายต้องไปส่งฉันที่มหาลัยจนกว่าประจำเดือนฉันจะหมด ตกลงไหม?”
“ไม่ได้ เธอก็รู้” ขืนทำแบบนั้นจะยิ่งตกเป็นเป้าของคู่อริ ผมทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ
“งั้นฉันก็ไม่อมให้” ขนมผิงปล่อยมือออกและขยับตัวจะลุกหนีไป ร้ายนักนะขนมผิง “ไปให้โรสอมให้ดิ”
“ก็รู้ว่าฉันจะแตกตอนนี้”
“ตกลงมาก่อน” ราวกับมีอำนาจเหนือผม แล้วก็จริงนะตอนนี้ขนมผิงกำลังนำผมไปหนึ่งก้าว ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะตกเป็นรองใครกระทั่งมาเจอกับขนมผิง ทั้งที่ผมเป็นหัวโจกของเด็กช่างยนต์ที่มีเรื่องต่อยตีกับคู่อริไปเรื่อย แต่ต้องมาเป็นรองผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรกับผมเลยด้วยซ้ำ
“เธอเล่นแบบนี้เองนะผิง”
“เล่นกับคิง” เธอกระตุกยิ้มมุมปาก “เล่นกับใจคนอื่นเก่งดีนัก ก็โดนซะบ้าง”
“คิดว่าฉันจะยอมง่ายขนาดนั้น?” ขนมผิงถึงกับขมวดคิ้วที่เห็นผมลุกขึ้นยืนทั้งที่ท่อนเอ็นยังชูชันอยู่ “เดินออกจากห้องเธอไปสภาพนี้ จะเป็นยังไงนะ”
“!”
“เฮียเข้มคงจะตกใจน่าดูเลย ทั้งที่ห้ามแล้วห้ามอีกว่าไม่ให้ลูกสาวมายุ่งกับฉัน”
“คะ คิง นายนี่มัน... วายร้ายที่สุด”
“ขอบคุณที่ชม” ผมยกยิ้มมุมปากจากนั้นก็กดไหล่ของขนมผิงให้นั่งคุกเข่าตรงหน้า พลางจับท่อนเอ็นตีไปที่พวงแก้มใสเบๆ ซึ่งเห็นแววตากลมโตจ้องมองผมตาเขม็ง “เธอเล่นกับฉันไม่ชนะหรอก ผิง”
ไม่ว่าจะยังไงสุดท้ายขนมผิงก็ไม่ทางชนะผมอยู่ดีนั่นแหละ ผมรู้ความต้องการของเธอนะว่าอยากให้ผมไปรับไปส่งเธอที่มหาลัย อยากให้พาไปเที่ยวหรือพาไปไหนมาไหน หากแต่ว่าทำแบบนั้นมันไม่ส่งผลดีต่อตัวของผมและเธอเองก็ด้วย ต่อให้ผมไม่รู้สึกอะไรกับขนมผิง คนรอบข้างก็ไม่มีใครเห็นด้วยหรอกเชื่อสิ โดยเฉพาะพ่อของเธอที่ไม่มีวันยอมรับในตัวของผม
เรื่องของเรามันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก... ยังไงก็ไม่มีวัน
:: KING TALK END ::
*---------------------------------------------------*