ตอนที่10ลูกน้อง

1604 คำ
ตอนที่ 10 ลูกน้อง ทันทีที่กรุงโรมกลับมายังบ้านตัวเอง เขาก็รีบวิ่งขึ้นไปยังห้องนอนทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นร่างบางยังนอนหลับสนิทเลยค่อยๆ ย่องเข้าไปหาเธอก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเตียง “เปลี่ยนชุดหน่อยนะ” “อื้อ” ร่างบางพลิกตัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ยากสำหรับกรุงโรมที่จะทำการเปลี่ยนชุดให้เธอ ชุดที่พินอินให้มาเป็นชุดเดรสยาวสีฟ้าสดใส แขนตุ๊กตาแลดูน่ารัก ยิ่งพออยู่บนตัวของวาวายิ่งทำให้เธอดูคล้ายตุ๊กตาเจ้าหญิงมากทีเดียว “เปลี่ยนเป็นชุดนี้แล้วค่อยหายใจคล่องหน่อย” “อื้อ เสียงดังจัง” ดวงตากลมโตสะลึมสะลือขึ้น กรุงโรมจึงรีบเข้าไปลูบหัวเธอเพื่อกล่อมให้เธอนอนต่อ “นอนนะ ร่างกายเธอยังไม่แข็งแรง” วาวาพยักหน้าอย่างว่าง่ายเพราะสภาพเธอตอนนี้ไม่เหมาะที่จะขัดขืนอะไร แต่ก่อนจะหลับไปหญิงสาวก็ได้พึมพำออกมาเสียงเบาซึ่งคนหูดีได้ยินมันชัดเต็มสองหูเลยทีเดียว “อยากกินแกงจืดเต้าหู้หมูสับจัง” “ผู้หญิงอะไรวะ ป่วยแล้วยังจะห่วงกิน” กรุงโรมค่อยๆ วางร่างบางลงบนเตียง ดึงผ้าขึ้นมาห่มให้เธอแล้วจึงค่อยๆ เดินออกจากห้องไปด้วยความระมัดระวังกลัวเสียงดังจะรบกวนคนป่วย “นายน้อยครับ” “เฮ้ย ตกใจหมดไอ้เชฟ” กรุงโรมยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ เมื่อลูกน้องคนสนิทเข้ามาแบบไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียง “นายน้อยจะย่องทำไมครับ นายน้อยกลัวรบกวนคุณวาวาเหรอครับ” เชฟถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ทั้งที่ในใจแอบนึกคำเจ้านายตัวเองที่ปากช่างไม่ตรงกับใจเสียเลย “เปล่า กูแค่ฝึกย่องเบา” “ฝึกย่องเบา?” “เออสิ” กรุงโรมกระแอมเบาๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องโดยการหันไปสั่งลูกน้องแทน “มึงมาก็ดี ไปซื้อของให้กูหน่อย” “ซื้ออะไรครับ” “วัตถุดิบทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับ” “อะไรนะครับ” เชฟถามทวนซ้ำแทบทันทีที่ได้ยินคำสั่ง ตั้งแต่เขาดูแลกรุงโรมมา เจ้านายไม่เคยทำอาหารเลยสักครั้งแต่นี่ดันสั่งให้เขาไปซื้อวัตถุทำแกงจืดเสียอย่างนั้น “ตามนั้นแหละ ทุกอย่างต้องครบภายในครึ่งชั่วโมง” สั่งเพียงเท่านั้นกรุงโรมก็เดินลงไปชั้นล่างโดยไม่หันกลับมามองลูกน้องอย่างเชฟที่ยืนเกาหัวตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ “ท่าทางนายน้อยจะเป็นเอามาก” กรุงโรมประชุมงานรอเชฟซื้อของที่เขาสั่งกลับมา ซึ่งหัวข้อในการประชุมวันนี้เป็นเรื่องของเจฟเฟอร์ เป้าหมายทางธุรกิจของเขาเมื่อวาน “จากการตรวจสอบพบว่ารอยนิ้วมือที่นายให้มาสามารถใช้ได้ครับ” ลูกน้องรายงานผลตรวจพร้อมทั้งยื่นเอกสารให้กรุงโรมตรวจสอบอีกครั้ง “อืม ส่งงานให้คุณอรุณได้เลย” “ได้ครับนาย” อรุณคือนายตำรวจใหญ่ที่ขอให้กรุงโรมช่วยงานในครั้งนี้ ซึ่งการทำงานแต่ละครั้งกรุงโรมจะสืบประวัติของคนจ้างงานรวมถึงจุดประสงค์ของงานที่พวกเขาจ้างก่อนจะรับงานทุกครั้ง เพราะถึงเขาจะเลวเพียงใดแต่เขาก็ไม่ทำงานเพื่อสนับสนุนคนชั่วเด็ดขาด ส่วนใหญ่งานที่เขารับจะเป็นการขายความลับของธุรกิจภายใน มีผลจำเพาะเจาะจงเป็นกลุ่มไม่มีผลกระทำต่อบุคคลภายนอก แต่สำหรับงานนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจแต่เป็นเรื่องของคดีความ นายตำรวจใหญ่อย่างอรุณต้องการใช้ลายนิ้วมือของเจฟเฟอร์ในการเข้ารหัสลับเพื่อเปิดโปงเบื้องหลังที่ผิดกฎหมายของเจฟเฟอร์ กรุงโรมเลยยอมรับงาน “อีกอย่าง สายของเรารายงานให้ระวังเจฟเฟอร์ไว้ครับเพราะดูเหมือนมันจะกำลังแค้นนายมากจากเหตุการณ์เมื่อวาน” “ช่างมัน คนอย่างมันทำอะไรกูไม่ได้หรอก แล้วเรื่องไทเกอร์ว่ายังไง” “คิเรเพิ่งได้รับรายงานใหม่จากสาย ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่ครับ” พูดไม่ทันขาดคำ คิเรก็เดินเข้ามา “ขออนุญาตครับนาย” “เชิญ” “นี่เอกสารและภาพถ่ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวาดีลตอนที่อยู่กับคุณรัสเซียครับ” ย้อนกลับไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน กรุงโรมได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าพี่สาวของเขาโดนยิง อาการสาหัสกำลังเข้ารับรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ผลการรักษาคือพี่สาวของเขาพ้นขีดอันตราย แต่เธออยู่ภาวะ PTSD[1] หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นโรคทางจิตที่เกิดจากการเจอเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ซึ่งตอนนี้รัสเซียพี่สาวของกรุงโรมยังไม่สามารถเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เจอได้เนื่องจากเมื่อพูดถึงเธอคล้ายเห็นภาพหลอน ที่น่าแปลกคือรัสเซีสจะพึมพำชื่อของวาดีลตลอดเวลา สุดท้ายกรุงโรมจึงตัดสินใจส่งพี่สาวของเขากลับไปรักษาที่บ้านพ่อกับแม่ของเขาที่อังกฤษ ส่วนตัวเขาเองก็มาสืบหาความจริง “มันดูขัดแย้งกับข้อมูลบางอย่างที่ไทเกอร์ให้มานะ” ไทเกอร์คือคู่หมั้นของรัสเซีย เมื่อทราบข่าวรัสเซียจึงรีบมาหากรุงโรมทันทีโดยยืนยันว่าวาดีลเป็นคนทำอย่างแน่นอน พร้อมทั้งภาพถ่ายหลักฐานตอนที่วาดีลอยู่กับพี่สาวของเขา ในตอนแรกกรุงโรมค่อนข้างเชื่อ แต่มาช่วงหลังเขาได้รับข้อมูลบางอย่างจึงเริ่มไม่ไว้ใจไทเกอร์ สั่งให้คนไปสืบเรื่องนี้มาเพิ่ม “ได้อะไรมาบ้าง?” “ข้อมูลที่ได้ชี้ชัดว่าวาดีลและคุณรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนะครับ สิ่งที่คุณไทเกอร์บอกไม่มีมูลความจริงเลยครับ ถึงแม้ว่าภาพที่คุณไทเกอร์ให้มาจะเป็นของจริง แต่เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดเหมือนเป็นการตั้งใจถ่าย มีการเซตมุมกล้องคล้ายว่าเรื่องนี้มีการวางแผนอยู่ก่อนแล้วครับ” “หึ มึงคิดจะหลอกกูเหรอไทเกอร์” “เราจะเอาไงต่อดีครับนายน้อย” “เร่งให้คนของเราหาวาดีลให้เจอ และสืบเรื่องไทเกอร์มาอย่างละเอียด” “ได้ครับนายน้อย ผมมีเรื่องอยากจะเรียนนายน้อยอีกอย่างครับ” คิเรพูดเสียงเบา ในน้ำเสียงมีความไม่มั่นใจอยู่ในนั้นซึ่งผิดวิสัยของคนที่ถูกฝึกมาอย่างดี กรุงโรมหันไปมองลูกน้องด้วยความสงสัย “มีอะไร” “คือตอนสืบเรื่องนี้ ผมให้คนสืบข้อมูลคุณวาวาเพิ่มและให้คนคอยติดตามคุณวาวาครับ” ปัง! มือหนาตบลงบนโต๊ะเสียงดัง ลูกน้องในห้องต่างก้มหน้ากันไม่มีใครกล้าเงยหน้ามองกรุงโรมสักคน “กูสั่งมึงรึไง!” “เปล่าครับ” “แล้วมึงเสือกทำไม” “คือคุณวาวาดีกับพวกผมมาก พวกผมเลยคิดอยากหาข้อมูลความดีของเธอมายืนยันกับนายน้อยครับ” “เหอะ เสือกไม่เข้าเรื่อง” “ผมขอโทษครับ แต่จากข้อมูลที่สืบมาคุณวาวาเธอเป็นคนดีและน่าสงสารจริงๆ นะครับ เธอมีวาดีลเป็นญาติคนเดียว ตอนนี้เธอก็เปรียบเสมือนอยู่ตัวคนเดียว ผมอยากให้นายน้อยดีกับเธอหน่อยได้มั้ยครับ” คิเรรายงานออกไปตามข้อมูลที่ได้มาพร้อมทั้งขอร้องเจ้านายเรื่องวาวาอีกแรงเพราะพวกเขาเห็นใจวาวากันจริงๆ กรุงโรมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กอดอกมองลูกน้องด้วยรอยยิ้มยากจะคาดเดา “มึงล่ะไอ้นาย มึงคิดว่าวาวาเป็นยังไง” “คุณวาวาทั้งสวยและจิตใจดีครับ แถมยังมีน้ำ...” “หยุดพูดแล้วลงไปวิดพื้นสามพันครั้ง” ลูกน้องทั้งสองเบิกตากว้างมองผู้เป็นเจ้านายด้วยความไม่เข้าใจ กรุงโรมเลยเฉลยต้นเหตุแห่งการลงโทษครั้งนี้ “กูเห็นพวกมึงว่างไปสืบเรื่องวาวาได้ เลยอยากหาอะไรให้ทำสักหน่อย” “แต่นายน้อยครับ” “ปฏิบัติเดี๋ยวนี้ แล้วจำไว้ทีหลังห้ามเสือกเรื่องวาวาถ้ากูไม่ได้สั่ง” “รับทราบครับ” เชฟเดินถือวัตถุดิบสำหรับทำแกงจืดเข้ามาในบ้านถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง มองไปยังรุ่นน้องสองคนที่กำลังวิดพื้นด้วยความประหลาดใจ วันนี้ไม่ใช่วันฝึกซ้อมร่างกายสักหน่อย ทำไมถึงลงไปวิดพื้นกันอย่างนั้น “เกิดอะไรขึ้นครับนายน้อย” เมื่อเดินเข้าใกล้เห็นเจ้านายยืนสูบบุหรี่อยู่ไม่ไกลจึงรีบเข้าไปถาม “เปล่าหรอก กูแค่หาอะไรให้พวกที่ว่างชอบเสือกเรื่องเมียคนอื่นทำ” พูดเพียงเท่านั้นเชฟก็เข้าใจทันทีแต่ไม่สามารถช่วยอะไรไม่ได้นอกจากหันไปยิ้มให้กำลังใจรุ่นน้อง เขาเตือนพวกมันแล้วว่าวาวาเป็นของต้องห้าม อย่าคิดไปยุ่งหรือแตะต้องเด็ดขาด ถึงจะทำเพื่อช่วยหญิงสาวก็เถอะ ยังไงนายน้อยของพวกเขาก็ไม่ชอบใจอยู่ดี ทางทีดีคือคอยดูอยู่ห่างๆ ดีที่สุดแล้ว [1] ข้อมูลเพิ่มเติม : โรค PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder เป็นโรคจิตเภทชนิดหนึ่งที่เกิดจากสภาวะจิตใจของผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์เลวร้ายซึ่งผู้ป่วยอาจจะเป็นผู้ที่ประสบเหตุการณ์โดยตรง หรือเป็นผู้ที่ได้รับการสูญเสียจากเหตุการณ์ทางอ้อม แหล่งอ้างอิง : https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/PTSD
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม