[6] หายไปจากชีวิต..

844 คำ
หลังจากคำพูดของแม่ แม่เดินออกไปจากห้องทิ้งความสงสัยเอาไว้ กริ่ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันรีบกดรับสายทันทีเพราะคนที่โทรมานั้นคือเหมันต์ หมวยลี่?"หมวยโทรไปตั้งกี่สายทำไมไม่รับโทรศัพท์หมวยเลย" หมวยลี่? "เหมันต์หมวยมีเรื่องจะบอก..." เหมันต์?"หมวยตอนนี้เหมันต์ยังไม่ว่างพอดีที่บ้านมีปัญหาเดี๋ยวเหมันต์จะโทรกลับไปใหม่นะ" เขาพูดสวนขึ้นก่อนที่ฉันจะพูดจบ จากนั้นสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไปไม่รู้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรถึงไม่ยอมฟังฉันให้จบสะก่อน ฉันกำลังจะบอกว่าฉันจะไปอังกฤษ พอโทรกลับไปเหมันต์ก็ไม่รับสายฉันอีกเลย เขามีปัญหาอะไรรึเปล่านะ... ฉันขุ่นคิดในใจ เพราะเหมันต์ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง ไม่ว่าเขาจะไม่ว่างขนาดไหน ยังไงเขาก็ต้องบอกฉันตลอด แต่นี่เหมือนมีเรื่องอะไรที่กำลังปิดบังฉันอยู่ เช้าวันใหม่... ก๊อกๆ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ฉันที่กำลังอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาว ก้าวขาเดินไปเปิดประตูห้อง แกร็ก ประตูห้องเปิดออก "คุณท่านให้มาตามค่ะ เดี๋ยวกระเป๋าลำดวนยกลงไปให้เอง" สาวใช้ในบ้านของฉันพูดขึ้น ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อลงไปยังชั้นล่างของบ้าน ป่านนี้ฉันก็ยังไม่หายสงสัยเลยว่าทำไมเราต้องไปอังกฤษกันกระทันหันขนาดนี้ แถมวันนี้ฉันยังมีเรียนด้วย แต่สงสัยไปก็เท่านั้น นิสัยฉันมันเป็นคนที่ไม่ค่อยถามอะไรให้วุ่นวาย พ่อกับแม่ว่ายังไงฉันก็ต้องทำตาม "ไปเถอะ เดี๋ยวจะตกเครื่อง" พ่อพูดขึ้น "งั้นเดี๋ยวหมวยโทรศัพท์ไปบอกเหมันต์ก่อนนะคะ" ฉันพูดพรางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรออกไปหาเหมันต์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกัน โทรศัพท์ก็ถูกพ่อดึงไปสะก่อน "ไปอังกฤษค่อยโทร ตอนนี้รีบไปก่อน ส่วนเรื่องเรียนพ่อกับแม่จัดการให้แล้ว" คำพูดของพ่อสร้างความประหลาดใจให้กับฉันเป็นอย่างมาก สรุปแล้วเราต้องย้ายไปอยู่ที่อังกฤษอย่างงั้นหรอ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันกับเหมันต์จะได้เจอกันมั้ย อ่า! ยังไงเหมันต์ก็ต้องบินไปหาฉันอยู่แล้ว แต่เรื่องฉันไปอังกฤษแล้วเขาไม่รู้นี่สิ เหมันต์ต้องโกรธฉันแน่ๆเลยงานนี้ "ไปกันได้แล้ว" พ่อพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินนำออกไปจากบ้าน ฉันเดินตามพ่อกับแม่ออกไปจากบ้าน พรางขุ่นคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าทำไมเราจะต้องย้ายไปที่อังกฤษกันด้วย แล้วบ้านหลังนี้ล่ะ [Talk เหมันต์] 2วันผ่านไป สองวันที่ผมเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับกองเอกสารไม่ยอมไปเรียน ไม่ติดต่อกับใคร แม้กระทั่งหมวยลี่ ผมเอาแต่คิดหาวิธีว่าจะทำยังไง ให้บ้านผมไม่ล้มละลาย ไม่ให้ทรัพย์สินที่พ่อกัยแม่สร้างมาถูกยึดไปในอีกสองเดือนข้างหน้า แต่ยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ มันก็เหมือนจะมีแต่ทางตัน วันนี้ผมโทรไปหาหมวยหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกับเธอสองวันเต็มๆ แต่พอโทรไปกลับโทรไม่ติด หรือว่าเธอจะโกรธที่ผมไม่ยอมรับโทรศัพท์เธอ วันนี้ผมมีเรียนบ่ายพอดี เอาไว้ค่อยไปง้อเธอที่มหาวิทยาลัยก็แล้วกัน อีกอย่างผมจะไปบอกเรื่องที่บ้านผมล้มละลายด้วย ใจนึงผมก็กลัวว่าหมวยจะรับไม่ได้ที่จะต้องมีแฟนถังแตกแบบผม แต่นิสัยของหมวยไม่ใช่คนดูถูกคน ผมมั่นใจว่าหมวยจะไม่ทิ้งผมไปไหนแน่นอน @มหาวิทยาลัย ผมเดินเข้าไปในตึกคณะของหมวย "ควีน ควีน" ผมตะโกนเรียกควีน เพื่อนสนิทของหมวยที่กำลังเดินไปไหนสักที่ "อ้าว เหมัน^_^" "หมวยล่ะ คือเราโทรหาหมวยแต่หมวยไม่รับสาย หมวยคงโกรธเราอยู่บอกเราได้มั้ยว่าหมวยอยู่ไหน" "ถามแบบนี้แสดงว่ายังไม่รู้เรื่องหมวยสินะ" ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมทันที เมื่อได้ยินควีนเพื่อนของหมวยพูดออกมาแบบนี้ "ไม่รู้เรื่องอะไร หมวยเป็นอะไร ?". "คืองี้นะ จริงๆควีนก็ไม่ได้อยากยุ่ง เพราะควีนก็เป็นเพื่อนกับหมวย แต่ควีนสงสารเหมันต์" "....." ตอนนี้ใจคอผมเริ่มไม่ดีแล้ว ผมรู้สึกกลัวในสิ่งที่ควีนกำลังจะพูดขึ้นมาจับใจ "หมวยมันไปอังกฤษแล้ว ครอบครัวหมวยย้ายไปทำธุระกิจที่นั่น" "และที่สำคัญ หมวยมันกำลังจะหมั้น คือจริงๆหมวยมันไม่ให้บอกนะเพราะกลัวว่าเหมันต์จะเสียใจ มันอยากหายไปแบบเงียบๆ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม