3

1117 คำ
“ไม่ทราบครับ ไม่ยอมลงมาดูด้วย ขับรถหนีไปเลย ดีนะครับที่รถคันหลังเบรกทัน ไม่อย่างนั้น...” คนเป็นแม่ทำหน้าหวาดเสียว “น่าจะดูภาพจากกล้องได้นะ”  “มีครับ เดี๋ยวทำแผลแล้ว ผมจะไปเอามาดู น่าจะเห็นทะเบียนรถคันนั้นชัดอยู่เหมือนกัน ถึงไม่เห็น รถคันที่จอดช่วย เขาบอกว่ามีกล้องจับภาพหน้ารถจะช่วยดูให้ครับ”  ปลายฝนละสายตาจากมารดาและภูผาไปทางอื่น จะไม่เดือดร้อนเลยสักนิด หากว่ารถคันที่ว่านั่น จะไม่มีแนวโน้มว่าเป็นรถของตัวเอง ซวยแล้ว โลกจะกลมแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่น่าให้ปรินขับกลับมาเลย ซวยซ้ำซวยซ้อนจริง ๆ ดันไปมีเรื่องเฉี่ยวชนกับภูผาเสียนี่ เธอเองเป็นคนขับรถค่อนข้างไว ใจร้อน แต่ไม่เคยปาดหน้าใครสักครั้ง ตั้งแต่ขับรถมา มีปัญหากับคู่กรณีครั้งเดียวเท่านั้น เป็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง ทางนั้นขับปาดหน้าเธอ แล้วล้มเอง คนขับไม่ได้เจ็บอะไรมาก ประกันมาเคลียร์ให้แล้ว บิดาของเธอทราบเรื่องเข้า ท่านเลยคาดโทษไว้ว่าถ้าไปเฉี่ยวใครเข้าอีก ท่านจะยึดรถ ยึดใบขับขี่ของเธอ บิดาของเธอไม่ค่อยจะฟังเหตุฟังผลอะไรเสียด้วย ทะเลาะกันใหญ่โตกันมาแล้ว ท่านให้เธอใช้รถ หัดให้ขับรถตั้งแต่อายุสิบห้า แต่แล้วกลับไม่ยอมให้เธอเอารถไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง เหลือบตามองที่มารดา ไม่อยากคาดเดาเลยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังข้อห้ามการใช้รถ น่าจะเป็นมารดามากกว่าบิดาจอมเผด็จการ เห็นใบหน้ายิ้มแย้ม พูดจาอ่อนหวานเหมือนใจดีแบบนี้เถอะ จะบอกให้ว่าโหดกว่าคุณนิรันดร์ อัศวหาญญ์วรกุล บิดาของเธอเสียอีก   อันที่จริงเรื่องโดนยึดรถ ยึดใบขับขี่ มันไม่ได้เป็นปัญหามากมายอะไรสำหรับปลายฝน แต่ตอนนี้เธอขึ้นเป็นผู้บริหารแล้ว มันไม่ควรมีการถูกกระทำเยี่ยงเด็กสาวจากผู้ปกครองแบบนี้ นี่ต่างหากคือประเด็นของเธอ ใครรู้เข้าได้เสียการปกครองไปกันใหญ่ บอกมารดา พร้อมกับทำทีเป็นเลี่ยงจะไปจากตรงนั้น “ฝนขอตัวนะคะ รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินยังไงก็ไม่รู้”  “รู้ตัวด้วย” เสียงดังแว่วมาจากภูผา หยุดขาของเธอที่กำลังจะเดินจากไปได้อย่างชะงัด หันหน้าถามถามกลับทันที “อะไรนะ”  ปิยมาภรณ์มองด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย ภูผาที่เคยนิ่งเงียบ ทำไมถึงได้กล่าวยั่วปลายฝนขึ้นมาเสียอย่างนั้น จึงขยับลุกไปลูบแขนบุตรสาว ใช้ลำตัวบังสายตาสองคู่ ถามขัดว่า “หิวไหมลูก” “ไม่หิวค่ะ” ร่างกายของเธอไม่ต้องการอาหารเลยนาทีนี้ ต้องการปะทะมากกว่า พยายามชะเง้อมองไปที่อีกคนที่นั่งเงียบตรงโซฟา แต่มารดาก็ขยับบังจนมิด ปลายฝนหันหลังหนีจากไปในที่สุด ปิยมาภรณ์รอจนบุตรสาวเดินพ้นไปแล้ว ค่อยลงไปนั่งอย่างเดิม หยิบอุปกรณ์ทำแผลดูแลภูผาต่อจากนั้น คนจากมาได้แต่เม้มปากแน่น เดินบ่นขณะกลับห้องโดยมีกล้วยตามหลังมาด้วย “ไหนว่าเป็นหมอ ทำไมทำแผลเองไม่ได้คะพี่กล้วย”  ว่าจบ ผลักประตูห้องเข้าไป พร้อมกับถอดสร้อยออกจากคอเป็นอันดับแรก ใส่กลับลงในกล่องที่ใช้เก็บของรักของหวง แล้วเลือกใส่เส้นอื่นแทนไปก่อน อย่างน้อย ๆ ก็ให้ใครบางคนไปจากที่นี่ ค่อยหยิบมาสวมอีกทีตอนนั้นก็ได้ แล้วความกังวลก็ค่อยผุดขึ้นในหัว เมื่อครู่นี้ภูผาเห็นมันไหม  หรือต่อให้เห็น ก็คงจำไม่ได้แล้ว  ของแบบนั้น ไม่มีความหมาย ไม่น่าจดจำเท่าไรนักหรอก “คุณหนูขา แผลข้างหลัง ต่อให้หมอเก่งแค่ไหน ก็ทำเองไม่ได้หรอกค่ะ” กล้วยบอกขณะเข้าไปเตรียมข้าวของให้นายน้อยที่ในห้องน้ำ ปลายฝนมองอย่างหมั่นไส้ ต่อว่าพี่เลี้ยงของตนด้วยหน้าบึ้งตึงในทันที “พี่กล้วยเข้าข้างคนอื่น” กล้วยส่ายหน้าจนกลัวว่าศีรษะจะหลุดออกจากบ่าอยู่แล้ว แล้วรีบบอก “พี่กล้วยไม่ได้เข้าข้างใครนะคะคุณหนู” ปลายฝนเดินวนไปมาในห้องด้วยท่าทีหงุดหงิด สุดท้ายก็ออกปากไล่กล้วย “ท่าทางพี่กล้วยเหมือนจะห่วงเขาด้วยอีกคน ไม่ลงไปทำแผลช่วยคุณแม่ล่ะคะ โถ ไอ้เราก็นึกว่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไร ที่แท้นายนั่นกลับบ้านมานี่เอง พี่กล้วยถึงได้อารมณ์ดี ยิ้มเป็นผีบ้า”  กล้วยไม่โกรธหรอก มองนายที่เลี้ยงมาแต่น้อยด้วยสายตาอ่อนใจ กล่าวว่า “งอนพี่กล้วยอีกแล้ว” นั่งบนเตียง หันหลังให้พี่เลี้ยง ไล่อีกที “ฝนอยากอยู่คนเดียว” กล้วยยืนมองตาละห้อย ทำท่าจะเข้าไปง้อ ปลายฝนเสียงแข็งใส่ว่า “ออกไปได้แล้วค่ะ” พี่เลี้ยงเลยจำใจต้องไปตามที่เธอสั่ง ปลายฝนเอี้ยวมอง เห็นว่ากล้วยลับหายไปแล้ว ก็ค่อยพ่นลมออกปาก แอบดอดออกจากห้อง ยื่นหน้ามองที่โถงด้านล่าง แว่วเสียงมารดาคุยอยู่คนเดียว รอฟังอีกอึดใจ แว่วเสียงของภูผาตอบกลับมา ค่อยเร้นกายลงบันได หลบออกทางด้านหลัง อ้อมไปยังโรงจอดรถ ผ่านหน้าช่องจอดของตนเองไปยังริมสุด พบรถคลาสสิกที่มารดาซื้อให้ภูผา เลยไปอีกช่องมีบิ๊กไบค์จอดในนั้น ก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ ตอนมาถึง เธอน่าจะแวะมาดูก่อน จะได้ถอดเมมโมรีในกล้องที่ติดอยู่กับหมวกออกเสียเลย  มองอย่างชั่งใจครู่เดียว ตรงเข้าไปสำรวจดูรอบคัน พบว่ามีร่องรอยเสียหายตามที่ภูผากล่าวอ้าง ตอนเกิดเหตุเฉี่ยวชนกันเธอมัวแต่เหม่ออยู่ ผสมกับตกใจด้วย เลยจำรถที่เฉี่ยวไม่ได้ ว่าใช่คันนี้ไหม ใช่หรือไม่ใช่ ก็ขอดูภาพจากกล้องที่เขามีก่อนเถอะ ตามองหากล้องของอีกฝ่าย เห็นมีบนหมวกที่วางอยู่ใกล้ ๆ นั่นล่ะหนึ่งแล้ว ตรงไปจะดึงออกมาดู แต่ถูกเสียงจากด้านหลังดักเอาไว้เสียก่อน “คงไม่ได้คิดทำลายหลักฐานอยู่ใช่ไหม”  ปลายฝนตกใจจนเกือบหวีดร้องออกมา ขยับหนี ถามกลับด้วยสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ทำลายหลักฐานอะไร” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม