: CHAPTER 2 : No more ‘ButlerS’
“เกรงใจอะไรนักหนาอยู่กันมาตั้งนาน พ่อเคยว่าพวกพี่ที่ไหนมีแต่ชม ชมกว่าลูกสาวแท้ ๆ อีก แล้วนี่นะ...” หญิงสาวเงยขึ้นสบมองตาคมเข้มเป็นประกาย ยกสองมือกอดอกด้วยความคิดสงสัยเรื่องบางอย่าง แต่กลับถอนหายใจออกมา
“บัตเลอร์ที่ดีไม่ใช่ผู้ตามเจ้านายแต่ยืดหยุ่นได้ เวลาอยู่ในห้องบอลรูม เรือยอร์ช ไม่ต้องให้เรียกหา แต่ส่ายตามองหาลูกค้าอย่างคนรู้ใจว่าควรต้องเติมน้ำให้เต็มแก้ว เสิร์ฟขนมตอนไหน...”
“และไม่ล้ำเส้น... มีจุดยืนชัดเจนในการทำงาน คุณอาเป็นผู้มีพระคุณกับครอบครัวผมครับ”
เพลียจะเถียงกับภาคินผู้เคร่งครัดในเวลางาน! ขนาดเธอเคยว่าเขาเป็นไบโพลาร์ เดี๋ยวแทนตัวเองว่าพี่ว่าผม เขาก็ไม่สนใจกลับร่างได้อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก
หญิงสาวยกมือกดกุมขมับ โบกไปมาอย่างเอือม ๆ “ลืมมันไปเถอะค่ะ คุณภาคิน เอ้อ... พี่ภีมไปไหนคะ?”
“มาแล้วค่ะ คุณวีณาา!” คนมาทีหลังส่งเสียงแหลมมาพร้อมกองกระดาษ และแท็บเล็ตงานวางลงบนโต๊ะ
เลขานุการคนสวยรู้หน้าที่ตัวเองดี ดึงเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเจ้านาย ก่อนสังเกตเห็นหนุ่มหล่อประจำบ้านจึงฉีกยิ้มกว้างหวาน ขณะที่เจ้าตัวยังคงยืนนิ่งเฉย
ร่างบางในเดรสสีดำสีเดียวกัน สวมทับด้วยสูทสุภาพกางเกงขายาว เจ้านายแต่งตัวอย่างไร ณดาจัดเซ็ตตาม เอ่ยปากขออนุญาตฝากเนื้อฝากตัวเป็น FC พอได้รับคำตอบว่า ‘ได้สิ ดีเลย อยากมีฝาแฝดเหมือนกัน’ เลขาฯ คนสวยแต่งตัวอย่างเหมาะสม ไปไหนมาไหนด้วยกันกับวีณาเหมือนเงาตามตัว
ณดานั่งลงบนเก้าอี้หมุนฝั่งตรงข้ามด้วยหน้าตาใสซื่อ เจ้านายสาวเลยพูดแซวอย่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
“หวังว่าคุณดาจะไม่ทำรุ่มร่ามกับพี่ชายฝาแฝดที่น่ารักของฉันนะคะ ฉีกยิ้มหวานมาแต่ไกล”
“ไม่เลยค่ะ ดาไม่กล้ายุ่งกับหนุ่มบอส”
“คุณพ่อได้... คนนั้นยังโสด ฉันยินดียกให้เป็นแม่สื่อให้ด้วยนะคะ”
หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันทว่าสถานะต่างปฏิเสธด้วยการยกมือไหว้งามช้อย
“ดาขอบพระคุณบอสมากนะคะ ที่ให้ความเมตตาดาถึงเพียงนี้ แต่ดาภูมิใจในสถานะเลขาฯ บอสมากกว่า คุณอนันต์ร้อนแรงเกินไปค่ะ ดาไม่มีความสามารถพอรับใช้คุณท่าน”
“แหม... คุณดาน่ะ... มาทำเป็นมีจริตจะก้าน รู้จักพูดจาแบบนี้ไง เรียนมาจากพี่ภีมเขาล่ะสิ”
พูดถึงฝาแฝดคนพี่ช่างเจรจามากกว่าน้องชายที่มีนิสัยเงียบขรึม ภาคินผู้ทำตัวโอเว่อร์สุภาพเกินเบอร์ สองสาวหัวเราะคิกคักอย่างลืมตัว
เจ้านายเป็นฝ่ายเงียบเสียก่อนพอเหลือบตามองคนถูกนินทาไม่ได้ตลกไปด้วย
“ยังไงก็ห้ามยุ่งนะคะ พี่ชายสองคนนี้ของวีณา”
“รับทราบค่ะ บอสบอกเช้ากลางวันเย็นก่อนนอน เกินวันละสามเวลาหลังอาหาร ดาไม่กล้าแตะเด็ดขาด แต่ว่าหล่อขนาดนี้... ไม่เหลือถึงบอสหรอกมั้งคะ” ณดาหลุดปากเยอะไปสักหน่อย
ดวงตาคู่คมกริบมองกลับท่าทีข่มขู่ว่าอย่าล้ำเส้น! แม้เขาไม่ได้พูดอะไรยังสัมผัสได้ถึงรังสีเข่นฆ่ารอบกาย
เลขาฯ คนดียิ้มเจื่อน ก้มหน้าก้มตาอ่านงานในกระดาษบนโต๊ะ บรรยากาศในห้องกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
“แหม... คุณณดา พี่ภีม พี่ภามดูแลฉันตลอด จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน”
เจ้านายสาวเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม หยิบปากกาขึ้นมาหมุนเล่น รังสีอำมหิตแผ่รอบกายบอกให้รู้ว่าเธอโกรธจัด!
ใต้อายลายเนอร์คมกริบเหนือดวงตาคู่สวย ราวกับว่าเธอคงฉีกเนื้อเขาได้หากว่าเป็นเช่นนั้น เธอไม่มองหน้าชายหนุ่มเลย ขณะพูดกับคนเปิดประเด็น
“แต่ถ้าบอสจะมีแฟนล่ะก็ไม่แน่ ตอนนี้เบรกเรื่องหนุ่ม ๆ ไว้สักครู่ ค่อยมาคุยเรื่องคู่ของบอสนะคะ”
“ลูกครับ... พ่อได้ยินเรื่องฟงแฟนอะไร อย่าเพิ่งมีเลยนะลูก อยู่ทำงานให้พ่อก่อนค่อยคิดเรื่องมีครอบครัวนะครับ ลูกเพิ่งอายุยี่สิบห้าเองนะ” นายอนันต์บ่นอุบอิบเสียงอ่อนอ้อนด้วยความละอายใจอยู่ ในเมื่อตัวเขาคงไม่ใช่พ่อที่สมบูรณ์แบบเลิศเลออะไร
แต่ถึงจะเสเพลบ้างประสาหนุ่มโสดสายเปย์ เกิดมาพร้อมกองเงินกองทอง ไม่สนใจใยดีใครนัก ลูกสาวที่ประคบประหงมมาดั่งไข่ในหิน ไม่มีหนุ่มไหนได้เห็นขาอ่อนง่าย ๆ หัวข้อแฟนจึงเป็นเรื่องไม่น่าภิรมย์ ไม่เข้าหูคุณพ่อ!
“หนูไปทำงานทุกวันอยู่แล้วนี่คะพ่อ แค่ไปเดทกับหนุ่ม ๆ ทำไมไม่ได้ล่ะ?”
“พ่อไม่อยากให้ลูกมีแฟนตอนนี้ไง ลูกจะไปกับใครที่ไหน พ่อไม่รู้จัก พ่อกลัวเปล่าครับ”
อย่างน้อยลูกสาวไม่เคยเถียงกลับว่าทีเขาล่ะ ควงสาวกลับมาไม่ซ้ำหน้า
วีณาไม่ได้ตอบคำถามคุณพ่อ แต่เช้ามารับประทานอาหารเช้าเงียบกริบ เข้าห้องมาอาบน้ำเสร็จแล้วจึงเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงาน
ภายในห้องนอนโทนสีขาวสลับดำตกแต่งอย่างเรียบหรู กระจกบานใหญ่ล้อบกรอบอลังการบนโต๊ะเครื่องแป้ง ข้างกันนั้นเป็นมุมของเล่นราวกับอยู่ในโลกของเทพนิยาย สถาปนิกชื่อดังเนรมิตให้กลายเป็นของเจ้าหญิงตัวน้อยมานานแล้วและไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดวงตาคู่คมเข้มฉายแววเอ็นดูเหมือนกับว่าเธอยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ
“ตกลงหนูจะไปกับใครครับลูก...”
จนได้ยินเสียงอ้อนวอนขออีกครั้ง เธอจึงหันไปบอกคุณพ่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“หนูเรียนหนังสือจบแล้ว ทำงานแล้วนะคะพ่อ เอาเป็นหนูว่าจะระวังตัว ไม่ให้พ่อเป็นห่วงนะ”
คำตอบของเธอยิ่งทำให้สีหน้าของคุณพ่อเต็มไปด้วยความผิดหวัง เธอหยิบเสื้อกระโปรงตัวสวยสีดำมาทาบบนเรือนกายซึ่งคลุมไว้ด้วยชุดคลุมอาบน้ำ หน้าโต๊ะกระจกล้อมขอบทองสลักลายสวยงามทรงเจ้าหญิงบานสูงใหญ่ ด้วยความมั่นใจในรูปร่างของตนเอง เธอพิถีพิถันกับการแต่งตัวในทุก ๆ วัน
“ลูกครับ... เอางี้... หนุ่มที่ไหนที่ลูกจะเดทพามาให้พ่อรู้จักด้วย พ่อจะได้คุยกับเขาด้วยว่าเป็นคนยังไง บ้านเรามีเชฟระดับมิชลินสตาร์จะไปทานข้างนอกทำไม”
อนันต์คิดว่าให้ลูกสาวอยู่ในสายตาดีกว่าหากเจ้าตัวไม่เลิกล้มแผนการมีคู่ วีณาเอาแต่ใจอย่างไรเสียเธอก็ต้องยอมผู้ชายคนเดียวบนโลก
“แบบนั้นก็ได้ค่ะ ถ้ามี... หนูจะพามาทานข้าวที่บ้านนะคะ”
“รับปากพ่อแล้วห้ามผิดสัญญานะครับคุณลูก”
“ค่ะพ่อ...”
พอลูกสาวรับคำให้เขาสบายใจ อนันต์เดินถอยหลังส่งยิ้มหวานให้คนในห้องนอนกว้างด้วยท่าทางกวน ๆ ไปถึงประตูไม้สลักลายดอกไม้สวย ทำหน้าตาทะเล้นเป็นเด็กหนุ่ม ตอนนี้คุณพ่อก็ยังหนุ่มเพราะมีลูกสาวตอนอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น
“พ่อไปทำงานแล้วนะ...”
“ไว้เจอกันมื้อเย็นค่ะ เดินทางปลอดภัย บายค่ะพ่อ” คนลูกโบกมือลาพลางยิ้มอ่อนมองร่างสูงในเชิ้ตสีดำ กางเกงเข้ารูปสุดวัยรุ่น ทรงผมเรียบเสย คุณพ่อปิดประตูลงเบา ๆ
อนันต์ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด พอออกไปยืนยิ้มกริ่มหน้าห้องแล้วนึกแผนการบางอย่างขึ้นได้ กลับมาแง้มประตูบอกลูกสาวอีกรอบ
“เอ้อลูก... ถ้ามีเวลาคิดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ไปสร้างโรงแรมเลิฟโมเทลเล่นเนอะ เผื่อว่าลูกจะได้รู้จักความรักมากขึ้น พ่อให้เลขาฯ ส่งโปรเจกต์ไปให้ลองทำนะครับ”