: CHAPTER 1 : My Twins ‘ButlerS’
อื้อ... คุณอา... ขา... อ๊ะ อ๊าา.. ตรงนั้น... ไม่ได้นะคะ! รินไม่ไหวค่ะ... อื้อ... ซี้ด… อ๊าาาย!
เสียงร้องครวญครางสุดซ่านสยิวดังลอดผ่านช่องเล็ก ๆ ของประตูไม้สักสีเข้มสลักลาย ไปถึงบริเวณทางโถงยาวของชั้นสอง
เจ้าของเรือนร่างงามสง่าในเดรสสูทสีดำสั้นเผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนไร้รอยแผลสะดุดก้าวหยุดลงกึก...
ดวงตาคู่สวยใต้อายไลเนอร์คมกริบหรี่เล็กจนเหยียดตรง ขณะยกมือขึ้นเคาะบนไม้บานใหญ่เบา ๆ วีณาพยายามใช้ความระมัดระวังไม่ให้ประตูที่แง้มอยู่เปิดอ้าออกไปมากกว่านี้ เพราะไม่อยากเห็นสภาพห้องนันทนาการของคุณพ่อผู้เป็นหนุ่มโสดขี้เหงา
“พ่อคะ... ถ้าเป็นไปได้ ช่วยปิดประตูให้สนิทก่อน ลูกจะขอบคุณมาก” เสียงหวานบอกพลันลดมือลงไว้แนบกาย
อนันต์ชะโงกหน้ามาให้เห็นเพียงเส้นผมสีน้ำตาลกระเซอะกระเซิง เม็ดเหงื่อพร่างพราวบนหน้าผาก ส่ายตาพร่ามองลูกสาวด้วยรอยยิ้มเจื่อน
“ขอโทษครับลูก พ่อลืม...”
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ หนูแค่เห็นคุณแม่บ้านเดินไปเดินมา สาวพ่อท่าจะเสียวกระสันเหลือเกิน ขนลุกกันทั้งบ้าน ผนังบ้านเรามันก็หนาอยู่นะคะ”
“วันหลังพ่อจะระวังครับคุณลูก...”
หญิงสาวยิ้มอ่อนแทนคำขอบคุณก่อนเดินจากไป คุณพ่อที่รับปากว่าจะไม่ลืมปิดประตูอีกจึงหมุนลูกบิดสีเงินเคลือบเงากดล็อคสนิทแน่น
พ่อก็เป็นอย่างนั้น...
ผู้หญิงเปรียบเสมือนดอกไม้ริมทาง ทุกอย่างบนโลกนี้ไม่ต่างจากสินค้าสามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน ครั้นพ่อจะทำตัวงกสักหน่อยไม่ควักสักแดงก็ย่อมได้ ในเมื่อบางคนเร่เข้ามาทอดกายให้ฟรี ๆ พ่อมักให้สิ่งตอบแทนกลับเพื่อที่จะไม่มีเรื่องค้างคาใจต่อกัน
คุณพ่อหล่อเหลาเท่าไร คงเท่ากันกับลูกสาวคนเดียวของเขา ใบหน้างามหมดจดของวีณาถอดแบบมาจากผู้เป็นบิดา ผิวขาวผ่องตามแบบต้นตระกูลอย่างคุณตาซึ่งเป็นชาวกรีซมาตั้งรกรากในเมืองไทยนานแล้ว เธอมีนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนประกายราวดวงตาของลูกแก้ว ผมสีดำเหมือนแม่...
นั่นเป็นวินาทีแรกที่วีณาในวัยห้าขวบจดจำชายแปลกหน้าได้ว่าเขาเป็นใคร หน้าประตูไม้ซอมซ่อของบ้านสังกะสีคับแคบ ริมทางรถไฟเสียงดังหนวกหู แม่คงลืมเธอ จึงคลอดลูกแล้วทิ้งไว้ให้คุณยายเลี้ยงเพื่อกลับไปใช้ชีวิตสาวโสด ส่งเงินให้ใช้แค่พันบาทต่อเดือน
วันนั้นเอง เด็กสาวตัวน้อยในเสื้อผ้าเก่า ๆ สีเทาเหมือนผ้าขี้ริ้ว กางเกงขาดวิ่น มีคุณยายคอยปะรอยเย็บให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ใส่เสื้อผ้าราคาแพง งานแบรนด์เนมทุกชิ้น ทรัพย์สมบัติของเธอทุกอย่างล้วนสั่งทำเป็นพิเศษ
นายอนันต์ไม่ได้เติมเต็มแค่ทรัพย์สินเงินทองของนอกกาย แต่การทดแทนให้ในช่วงที่เขาไม่ได้อยู่กับลูกสาวตอนลำบาก
เด็กสาวยากจนเคยอดมื้อกินมื้อ ครานี้ไม่มีสักมื้อที่อาหารบนโต๊ะของเธอจะมีกับข้าวแค่อย่างเดียว ‘คุณยายจัน’ มีชีวิตดีขึ้น หลังย้ายมาอาศัยบ้านริมชานเมืองไม่ไกลจากบ้านเธอนัก ซึ่งเธอจะไปเยี่ยมเยียนเมื่อไรก็ได้ แค่บอกคนขับรถให้พาไป และบอกคุณพ่อสักหน่อย
คนไม่เคยเป็นพ่อแต่เป็นเพลย์บอยตัวพ่อ! เริ่มหันมาเรียนรู้การเลี้ยงเด็ก จัดหาข้าวของทุกอย่างให้ลูกสาวคนเดียว แม้วีณาจะเป็นความผิดพลาดผลพวงมาจากความมักมากในกามารมณ์ เขาทำเต็มที่ในแบบของเขา สวมบทคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเต็มตัวดูแลลูกสาวด้วยตัวเองจนเติบใหญ่อย่างสมบูรณ์เพียบพร้อม
แต่หัวจรดเท้าทั้งเสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าราคาเหยียดล้านสมเป็นเซเลบสาวคนดัง ไม่ว่าลูกสาวอยากได้อะไรรุ่นลิมิเต็ดแค่ไหน คุณพ่อต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนหามาให้ลูกสาวจนได้
วีณาเป็นคนแต่งตัวดีเลือกเสื้อผ้าเก่ง ความเป็นคนมีหน้าอกสะโพกทำให้เธอดูเย้ายวนตาบุรุษด้วยธรรมชาติของสรีระ ผิวสีขาวละเอียดเนียนคงเพราะว่าเธอดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
เป็นธรรมดาที่คุณพ่อคงต้องหวงลูกสาว เลยส่งสองหนุ่มทำหน้าที่บัตเลอร์ตามดูแลไม่ห่าง
วีณากำลังคิดถึงพวกเขา... ในก้าวแรกย่างเหยียบห้องทำงานกว้างขวางที่มีการแยกสัดส่วนของห้องเป็นอย่างดีให้พักผ่อนและทำงานได้ในขณะเดียว เธอหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาผู้บริหาร วางกระเป๋าแบรนด์หนังจระเข้ลง ยกสายหาเลขานุการโดยใช้โทรศัพท์สายตรงภายในบ้าน
“คุณดาได้เอกสารจากห้องเก็บหนังสือของฉันไหมคะ? ถ้าได้แล้วยังไง รบกวนช่วยเรียกพี่ภามพี่ภีมมาให้ด้วยนะ” ปลายสายวางลงบนโต๊ะทำงานเป็นเงามันสุดโมเดิร์น
‘ณดา’ เป็นเลขานุการประจำตัวที่เธอให้ความไว้วางใจ รองลงมาจากคนดูแลส่วนตัวคือพี่ชายต่างสายเลือดอีกสองคน ซึ่งไม่รู้ว่าใครมาทำงานในวันนี้
สำหรับเธอแล้ว ‘ButlerS’ เป็นอาชีพที่มีเกียรติ
วีณาไม่เคยเห็นพวกเขาเป็นหัวหน้าคนรับใช้หรือพ่อบ้าน ไม่ใช่บอร์ดี้การ์ด ไม่ใช่เลขานุการ ไม่ใช่ทาสผู้ดูแลไวน์ให้เจ้าของบ้านเหมือนแรกเริ่มเดิมทีมีอาชีพนี้ในกรีกโรมัน ก่อนแพร่หลายไปเป็นที่นิยมในประเทศอังกฤษ
พวกเขาทั้งสองคนไม่ใช่แม้กระทั่งเงาของเจ้านาย ไม่ใช่ลูกจ้างคนรู้ใจ อย่างในวัฒนธรรมเศรษฐีที่จะต้องมี ‘บัตเลอร์’ ประจำบ้านไว้ข้างกายคอยดูแลเสมอ ความจงรักภักดีของสองหนุ่มฝาแฝดไม่สามารถตีมูลค่าเป็นเม็ดเงิน
ภาคินและภากรเป็นทั้งพี่ชาย เพื่อนรัก เป็นคนสนิทสนมของเธอ...
“มาแล้วครับบอส” เสียงทุ้มนุ่มละมุนหูผ่านประตูไม้สัก ก่อนที่เขาจะปิดมันเบา ๆ ด้วยท่าทางแสนสุขุม
ร่างสูงสง่าในเชิ้ตสีขาวสะอาดสวมทับด้วยเสื้อกั๊กลายสก็อตสีน้ำเงินเผยอกผึ่งผายองอาจ เรียบร้อยไร้รอยยับตามแบบฉบับของภาคิน ขายาวชะลูดด้วยความสูงเท่ากันกับพี่ชายหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร! ต่างกันสักหน่อยตรงกางเกงยาวถึงขอบรองเท้าเป็นเงามัน สมเป็นหนุ่มหล่อมาดเนี้ยบอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขาหยุดก้าวลงข้างเจ้านาย ถัดจากโต๊ะ เพื่อหลุบตาคมมองเธอขยับเก้าอี้หมุน
“วีณา... วีชื่อวี... น้องวีค่ะ เลิกเรียกบอสตามเลขาฯ วีซะที ได้ยินแล้วหงุดหงิด”
“ผมอยู่ในเวลางาน ดูแลความเรียบร้อยในบ้านคุณอา ท่านมาได้ยินเข้าจะไม่งาม ไม่เหมาะสม ขอโทษด้วยครับ”
ชายหนุ่มก้มหน้าลง ประสานมือไว้ข้างหน้าอย่างรักษากิริยา ด้วยจมูกโด่งเป็นสันรั้น บนใบหน้าคมคายดุดันกระทั่งแววตาของเขาอาจให้ความรู้สึกไม่สุภาพ ทว่าท่าทีแสนสุภาพนอบน้อมของเขายิ่งทำให้เธอไม่พอใจ
“งั้นเลิกงานก็อย่าเรียก ไม่อย่างนั้นพี่ภามลาออกไปทำงานที่อื่นเถอะ เราจะได้เป็นพี่น้องกัน ดูแลกันอย่างที่เคยเป็น ไม่ใช่เจ้านายลูกน้อง”
“ครับ... คุณวีณา เอาเป็นว่าผมขอนอกเวลางานสำหรับงานสนิทสนม”
เป็นถ้อยคำแสนสุภาพที่สุดแล้วสำหรับภาคิน เขาเพิ่งโดนขู่ไล่ออก! แม้รู้ดีว่าไม่มีทางโดนไล่ออก