: CHAPTER 7 : Our Lady

1418 คำ
: CHAPTER 7 : Our Lady ภากรไม่มีเวลาหัวเสียนาน ไม่ว่าเขาหรือใครก็เปลี่ยนนิสัยภาคินไม่ได้เรื่องผู้หญิงที่คงจะเป็นคู่นอนคู่เที่ยวฆ่าเวลาไปสักพักจนกว่าเจ้าตัวจะเบื่อ ประจวบเหมาะพอได้รับสายจากคุณอาอนันต์ให้ช่วยหาเสื้อผ้าสวย ๆ ให้สาว ๆ หน่อยเลยต้องรีบกลับไปเป็นธุระจัดการงานช้อปปิ้ง ก่อนนำกลับไปที่บ้านให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้านที่จะคอยดูแลพวกหล่อนหากขาดเหลืออะไร แถมบริการรับส่งถึงที่พัก ไม่ปล่อยให้ใครต้องเรียกแท็กซี่กลับเอง นิสัยคนรวยใจป๋ามูมมามมักมากเท่าไร ไม่ลืมจ้างวานเขาและภาคินดูแลเด็กในสังกัดทุกที คุณพ่อคนดียังทำหน้าที่พ่อ อุตส่าห์เกรงใจลูกสาว ไม่เคยให้ใครมาค้างอ้างแรมเกินสองถึงสามคืน ต่อให้ลูกไม่เคยเอ่ยปากว่า ขนาดบางมื้อวีณาต้องรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับบรรดาคู่ขาของพ่อ เธอสามารถที่จะรูดซิบปิดปากเงียบโดยไม่ทำให้ใครลำบากใจ นั่นทำให้ภากรยิ่งเป็นห่วง... ไม่มีสักวันที่จะไม่ห่วง... เสร็จธุระในช่วงหัวค่ำแล้วเขาจึงพยายามติดต่อเลขานุการของเธอเพื่อข่มขู่จนได้เรื่องมาว่าคุณหนูของบ้านไปไหน ทำอะไรมาบ้างในสองสามวันนี้ ก่อนบึ่งรถไปถึงที่หมายด้วยใจร้อนรน เชิ้ตสีขาวเปียกชุ่มเหงื่อ ทรงผมเรียบเสยกระเซอะกระเซิงปรกหน้าผาก กลางล้อบบี้กึ่งสไตล์ไทยประยุกต์ความเป็นโมเดิร์นลอฟท์เก๋ไก๋ ไม่คุ้นตาว่าเป็นโรงแรมในเครือของบริษัท ภากรคิดว่าคนฉลาดเจ้าเล่ห์อย่างวีณาคงไม่ทำทุกอย่างนับตั้งแต่เลขศูนย์ยันปักเสาเข็มตามคำสั่งคุณพ่อ เธออาจเล่นตามน้ำตามบทละครพร้อมแผนการบางอย่าง ด้วยความกังวลต่าง ๆ นา ๆ สองขาก้าวไวสลับวิ่งกระวีกระวาดมาถึงหน้าประตูไม้โอ๊คสีน้ำตาลเข้ม เป็นเลขานุการคนโปรดของเธอที่เปิดประตูให้เขา  “มาทำไรคะ? มีธุระอะไรไม่ทราบ...”  เจ้านายสาวยืนอยู่กลางห้องข้างเตียงขนาดคิงไซส์ ข้างกันนั้นเป็นหนุ่มแว่นหนาเตอะ สถาปนิกหนุ่มของโรงแรมในเครือนายอนันต์ ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจหอบเหนื่อยลงถาม “ทำไมมาพี่จะมาไม่ได้ล่ะ? พี่เคยมาพี่ก็ต้องมา” ภากรก้าวไปยืนระหว่างกลางบุคคลทั้งสาม มือกระชับจับคอเสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยให้เข้าที่ เขย่ามันเบา ๆ ด้วยความร้อนชุ่มจากเหงื่อตอนวิ่งมา ตาคมจรดมองเสื้อคลุมอาบน้ำผูกไว้เรียบร้อยดี เส้นผมสีดำขลับเปียกหมาดสยายกระจายมีกลิ่นหอมอ่อนจากแชมพูซากุระ เหมือนกับว่าเจ้านายสาวเพิ่งอาบน้ำก่อนออกมานั่งคุยงาน  ทั้งที่มันไม่มีเหตุผลให้เธอต้องออกมาทั้งสภาพอย่างนั้น “วีไม่ได้เรียก บอกแล้วว่าไม่ต้องมายุ่งกับวีอีก” “ไม่ได้ครับคุณอาสั่ง หน้าที่ของพี่คือรับวีกลับบ้าน มันไม่ใช่งานของเลขาฯ คุณคงไม่แย่งงานผมใช่ไหม? คุณณดา” แววตาประกายกร้าวสาดมองไปทางเลขานุการที่ก้มหน้าลงพื้นงุด ๆ เหมือนคนเพิ่งทำความผิด เจ้านายก็ออกตัวปกป้อง “เลิกคุกคามเลขาฯ วีได้แล้วนะพี่ภีม มีปัญหาอะไรค่อยมาคุยกันทีหลัง” วีณาตั้งใจจะจัดการกับลูกสมุนคุณพ่อแน่ที่กล้ามาข่มขู่เลขานุการของเธอ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ปลายนิ้วเรียวชี้ไปทางกำแพงสีขาววอลเปเปอร์ตามอายุการใช้งาน เพื่อบอกคู่สนทนาเดิม “ฉันไม่ชอบกำแพงอันนี้ ลายนี้ มันสะเหล่อค่ะ เหมือนม่านรูดโลวคอส ให้เป็นของใหม่กริ้บมันก็ไม่สวยอยู่ดี คุณเปลี่ยนโทนสี ธีมโรงแรมให้ฉันใหม่ทั้งหมดขอเรียบหรูดูดี หนังสือแจ้งเรื่องการตกแต่งฉันจัดการกับทางฝ่ายการขายเรียบร้อย” โฮสเทลเก่าถูกยึดทอดตลาดมาไม่ได้น่าเกลียดนัก ในราคาหลักสิบล้านก็ยังนับว่าหลุดประมูลมาอย่างโชคช่วย หลายส่วนพอปรับได้ไม่ถึงกับต้อง… “ทุบ… ดีไม่ดี ฉันอาจจะทุบมันทั้งตึก ฉันว่าฉันไม่ค่อยชอบค่ะ” สถาปนิกหนุ่มรอรับคำสั่งงาน ไล่สายตามองสภาพทรุดโทรมของตึกโดนยึดแม้ยังเปิดให้บริการตามกำหนดการว่าจะปิดตัวลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ความใจดีของเจ้าของใหม่ยังมาเปิดห้องราคาแพงที่สุดคืนกำไรให้เจ้าของเดิมอีกต่างหาก “ผมจะลองออกแบบกับทีมเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง เพิ่งจบหมาด ๆ อย่างที่คุณวีชอบเลยครับ” “ก็ดีน่ะสิ ฉันชอบเด็กจบใหม่มากกว่าตาแปะแก่ ๆ ทำตัวเป็นเต่าล้านปี ลองมาหลาย ๆ แบบละกัน ฉันอยากได้ธีมเรียบหรูดูดีค่ะ เหมือนโรงแรมที่ศรีราชาน่ะ” “สระว่ายน้ำเดิมด้านหน้า โครงเก่ายังสามารถใช้ได้ครับ มีปัญหาหน่อยเรื่องงานอิฐเปลือยทำน้ำซึมเข้าผนัง เปลี่ยนเป็น Stone Wall แบบธรรมชาติเหมาะกว่าสำหรับพื้นที่กลางแจ้ง ลดต้นทุนได้ส่วนหนึ่ง” “ส่งแบบมาให้ฉันดูคร่าว ๆ ก่อนเร็วที่สุด” “พรุ่งนี้เช้าผมส่งให้เลยครับ” “ดีค่ะ... ถ้าอย่างนั้นเดินทางกลับบ้านปลอดภัย ขอบคุณมากที่แวะมานะคะคุณชัช คุณณดาด้วยนะคะขอบคุณ” “ครับคุณวีณา ผมไปนะครับ” “ดาลาค่ะบอส” เลขาฯ สาวยกมือประนมแนบอกแม้อายุไล่เลี่ยกัน วีณารักษามารยาทแม้กับลูกน้องแม้บุคลิกเธออาจดูหยิ่งผยองสักหน่อย ขณะรับไหว้ตอบอย่างไทย พอต่างคนเตรียมตัวแยกย้าย “ยังไงก่อนกลับช่วยไปตามคุณอเล็กซ์กับมิสเอลินอร์ พวกเขามารึยังคะ?” “มารอแล้วค่ะ เอ่อ...” เสียงหวานขาดหายลงลำคอแห้งผาก ณดาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ถ้าหากว่าภากร ภาคิน หรือคุณอนันต์รู้ว่าลูกสาวไม่ได้มาทำงานอย่างเดียว... ณดาเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีกคนกำลังกดสายตาเหยียดหยามระคนเกลียดชังอย่างกับว่าจะเข้ามาบีบคอเล็ก ๆ ให้แหลกคามือ ละล่ำละลักพูด “ไปแล้วค่ะ! คุยกันเองนะคะ!” เลขาฯ ผู้ซื่อสัตย์วิ่งแจ้นออกจากห้องไปหลังจากนั้น ยังกลับมาหยิบกระเป๋าใบเล็กเพราะลืม! ท่าทางกลัวตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า วีณาคงไม่ไหวต้องว่าด้วยแววตาอาฆาต “ลองกล้ามาขู่เลขาฯ วีอีกครั้งเดียว... อย่าหาว่าวีไม่เตือนนะพี่ภีม” “ได้ครับ คราวหลังพี่จะไม่ขู่...” และมันจะน่ากลัวกว่า! รังสีอำมหิตแผ่กระจายรอบกายชายหนุ่มที่ดูแล้วไม่น่าเป็นลูกน้องเธอได้เลย เขาคือภากรไม่ใช่ภาคิน... วีณาลืมข้อนั้นไปเสียสนิท เธอถอนหายใจฟึดฟัด สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง “วีไม่ได้เป็นลูกรักคุณพ่อเท่าพี่ภีมนี่คะ เลยต้องทำงานทุกอย่างเพื่อบริษัท พี่ไม่ควรมากวนใจวี ทำตัวชิลล์ ๆ แบบพี่ภามไปเถอะนะคะ” “พูดอะไรของเราน่ะ มันไม่เกี่ยวเลยนะครับ วีเป็นลูกสาว คุณอาอนันต์ต้องรักลูกแท้ ๆ มากกว่าพวกพี่อยู่แล้ว วีไม่ควรประชดพ่อแบบนี้นะ” เขาจำเป็นต้องดุเธอ! ด้วยความที่ลูกนอกไส้อย่างสองบัตเลอร์บางครั้งลูกแท้ ๆ ยังทนอิจฉาไม่ไหว “เกี่ยวซีคะ อ้อ... Love Motel ใช่ไหม? พ่อแค่แกล้งให้ยุ่งจนหัวหมุน จะได้ไม่มีเวลาไปรบกวนใจมากกว่า” “รู้แล้วทำไมไม่ทำตัวดี ๆ จะประชดคุณอาทำไม?” “เปล้าา... ใครประชด” เสียงสูงปรี้ดบอก เธอฉีกมุมปากย้ำคำเดิม “บอกแล้วว่าคนไม่รู้เรื่องเซ็กส์อย่างวีเหรอจะมีปัญญาเปิด มันเลยต้องมาหาแรงบันดาลใจ นักบริหารที่ดีควรต้องเรียนรู้ก่อนริเริ่มงานใหญ่ คำพ่อสอนจำได้หรือเปล่า?” ถามกลับเขาแล้วเธอจึงเดินกรีดกรายไปเปิดประตูต้อนรับแขก แหม่มสาวในชุดสีขาวแต่งตัวคล้ายกับว่าเป็นนางพยาบาล อีกคนเป็นหนุ่มล่ำกล้ามโตในเชิ้ตหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน นัยน์ตาสีฟ้าครามคมสีเสน่ห์ล้ำลึกมีบุคลิกความมั่นใจทำให้เขามีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนเข้าไปแทรกกลางระหว่างบุคคลทั้งสามเป็นกำแพงมนุษย์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม