“คุณจิณบอกว่าจะทำงานพรุ่งนี้ ก็ต้องมีชุดไว้ใส่ไม่ใช่เหรอคะ และที่ต้องสั่งตัดเพราะเรามีห้องเสื้อเองจะซื้อให้เปลืองเงินทำไมคะ ชุดทำงานผู้ชายแต่ละชุดราคาเป็นหมื่น ช่างเราก็ฝีมือไม่หนีกันเท่าไหร่หรอกค่ะ ถ้าคุณจิณเลือกเสร็จแล้วเราจะไปวัดตัวกันนะคะ ไหนจะต้องไปหาซื้อข้าวของอื่นอีกและจะต้องกลับเข้าบ้านบ่ายสี่โมงตรงด้วยค่ะ เจอกันที่รถบ่ายโมงนะคะ”
เลขาสาวก็ตอบรัวเป็นชุดๆ ไม่แพ้กัน จิณณวัตรเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะไม่รู้มาก่อนว่าพ่อหันมาเปิดห้องเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่เข้าใจว่ามันจะทำเงินให้คุ้มค่ากับเวลาที่พ่อจะต้องมาเสียไปในการบริหารหรือไม่ ด้วยธุรกิจด้านการส่งออกในมือและเป็นบ่อเงินสำคัญของครอบครัวนั้นเห็นกำไรและเม็ดเงินเยอะกว่าหลายร้อยเท่านัก
“คุณพ่อนี่นะ ทำห้องเสื้อ ความคิดใครกัน อย่าบอกนะว่าคุณ”
“เป็นกิจการส่วนตัวของคุณผู้หญิงค่ะ ท่านทุบอาคารเก่าที่สุขุมวิทแล้วสร้างใหม่ขึ้นมาหลายยูนิต เปิดเป็นห้องเสื้อ ร้านเจีเวลรี ร้านเสริมสวยกับสปาและร้านดอกไม้เอาไว้ในที่เดียวกันค่ะ”
“เพื่ออะไรแล้วมันจะทำเงินให้ได้สักกี่บาท”
เขายิงถามคำถามสั้นๆ และทำเสียงสูงอย่างไม่เห็นด้วย
“อันที่จริงท่านไม่ได้หวังว่ามันจะทำเงินให้ได้สักเท่าไหร่หรอกค่ะ เพียงแค่ไม่อยากจะควักกระเป๋าจ่ายค่าตัดชุดหรือซื้อใหม่เวลาจะออกงานของท่านเองและคนในบ้านด้วย เดือนๆ ไม่หนีสามสิบถึงห้าสิบชุดเลย บางทีชุดหนึ่งใส่แค่ครั้งเดียวก็ไม่ได้เอามาใส่ซ้ำอีกเพราะกลัวคนจะจำได้ ท่านเลยส่งกลับไปห้องเสื้อ เอาไว้ให้คนมาเช่าได้เงินกลับมาอีก ส่วนร้านอื่นๆ ก็เหตุผลเดียวกันคือไม่อยากซื้อคนอื่นให้เปลืองมากกว่านี้ แถมยังได้ลูกค้าไฮโซด้วยกันที่วนเวียนมาใช้บริการตลอด เพราะคุณหญิงคิดราคาไม่แพงมาก กำไรในแต่ละเดือนก็ไม่มากมายอะไรหรอกค่ะเหยียบๆ หลักล้านเท่านั้นเอง อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะขับรถมาจอดรอหน้าบ้านนะคะ”
แต่อีกคนตอบยาวยืดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วรีบเดินหนีโดยไม่รอให้ถามอะไรอีกต่างหาก จิณณวัตรมองตามร่างเล็กที่หัวไม่ฟูฟ่องเหมือนเมื่อก่อนด้วยอาการเซ็งนิดๆ เพราะยังไม่รู้สึกว่าอยากจะออกไปไหน
ผ่อนยกจานใบใหญ่มีกะเพรากุ้งส่งกลิ่นหอมอยู่ข้างๆ ข้าวสวยร้อนๆ ถูกเทใส่พิมพ์รูปหัวใจมาให้ ตามติดด้วยต้มจืดเต้าหู้ไข่หมูสับร้อนๆ อีกหนึ่งชาม แตงโมกับสับปะรดหั่นสี่ห้าชิ้น เขาถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
“คุณจิณอยากได้อะไรเพิ่มอีกมั้ยคะ ป้าจะรีบทำก่อนออกไปข้างนอก คุณตะวันให้รีบไปและรีบกลับมาให้ทันสี่โมงครึ่ง เพราะคุณผู้หญิงจะไปงานเลี้ยงค่ะ นี่ป้าต้องยกเลิกไปเยาวราชด้วยนะคะกลัวเวลาจะไม่พอค่ะ”
“ไม่แล้วครับ ป้าไปเถอะ อีกหน่อยผมก็ต้องไปตามคำสั่งยัยหัวถั่วงอกเหมือนกัน”
ผ่อนทำหน้างงกับคำท้ายๆ ก้วยไม่รู้ว่าเจ้านายหนุ่มหมายถึงอะไรหรือใครกันแน่ เพราะเข้ามาทำงานที่นี่ได้แค่ห้าปีเท่านั้น จึงไม่รู้เรื่องราวในอดีตมากมายนัก แต่ก็ไม่มีเวลามาโอ้เอ้จึงรีบออกจากห้องอาหารไป ผิดกับอีกคนที่นั่งละเลียดกินอาหารในจานอย่างเชื่องช้าและสบายอารมณ์
เพราะอยากแกล้ง ‘ยังถั่วงอก’ ให้หายหมั่นไส้ แต่สุดท้ายก็จำต้องลุกขึ้นไปแต่งตัวใหม่หลังมื้อเที่ยงเสร็จสิ้นลง ด้วยเจ้าหล่อนหอบหิ้วกระเป๋ากับข้าวของ เดินไปขับรถมารอหน้าประตูเพื่อเป็นการกดดันทางอ้อม
อาคารพาณิชย์แปดชั้นแปดยูนิตถนนสุขุมวิทและในย่านเศรษฐกิจถูกเลขาสาวหักพวงมาลัยอ้อมไปทางด้านหลังขับขึ้นอาคารสูงอีกหลังทำไว้สำหรับจอดรถโดยเฉพาะและมีรายได้จากการเก็บค่าที่ของคนที่ไม่ได้มาเป็นลูกค้าอย่างเป็นกอบเป็นกำทีเดียว
อัลติสขาวจอดกึกในช่องประจำ ถัดไปก็จะเป็นเบนซ์ของคุณผู้หญิงและบรรดาผองเพื่อน ซึ่งป่านนี้คงกำลังสนุกสนานกับการสปาอย่างสบายอารมณ์อยู่ในร้านเป็นแน่
‘มีเงินซะอย่างก็สบายไปร้อยแปดอย่าง’
ประโยคกระแนะกระแหนในใจจากเลขาที่มีต่อผู้มีบุญคุณล้นหัวและไม่มีวันจะชดใช้ให้หมด แม้ตอนนี้เงินจำนวนครึ่งล้านที่เคยช่วยชีวิตแม่ไว้จะมีในมืออาทิตยาแล้วก็ตาม ทว่าชมจันทร์กลับไม่คิดจะรับคืน ด้วยประสงค์จะเก็บเอาไว้เป็นไพ่ใบสุดท้ายเพื่อทิ้งเวลาเลขาอยากจะลาออกไปทำงานที่อื่น
ทั้งๆ ที่เวลาสิบสี่ปีเต็มๆ นับตั้งแต่เข้ามาเรียนชั้นมัธยม ที่อาทิตยามาอยู่ด้วยในชายคาบ้าน ต้องเรียนหนักและเริ่มฝึกงานกับชมจันทร์มาตลอดจนมีประสบการณ์และรู้รายละเอียดงานแทบทุกอย่าง
ครั้นพอจบปริญญาตรีก็ต้องมาทำงานเป็นเลขาเต็มๆ ตัว รับผิดชอบทุกอย่างในบ้าน อำนวยความสะดวกให้ทุกคน ควบคู่กับการเรียนโทจนจบ แถมต่อเอกไปด้วยจวนเจียนจะจบแล้ว
และตั้งใจจะออกไปหาประสบการณ์ที่อื่นบ้าง แต่สุดท้ายก็ไปไหนไม่ได้อยู่ดี เพราะ ‘ไพ่ใบสุดท้าย’ แม้ที่ผ่านมาอาทิตยาจะช่วยงานชมจันทร์อย่างขะมักเขม้นและซื่อสัตย์สุจริตให้นั้น น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการทดแทนบุญคุณ
จริงอยู่ชมจันทร์จะให้เงินเดือนเหมือนลูกจ้างทั่วไปตั้งแต่เข้ามาอยู่แล้วเริ่มฝึกงาน และให้เงินเดือนไม่น้อยหน้าบริษัทใหญ่ๆ เมื่อเรียนจบและทำงานให้อย่างเต็มตัว
แต่การได้เรียกใช้เกือบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเพราะอาทิตยานอนอยู่ในบ้านด้วย โดยไม่คำนึงถึงเวลาพักผ่อนกลางดึกเป็นอาจิณต์ ชมจันทร์ก็ไม่สามารถหาใครมารองมือรองเท้าได้ดีขนาดนี้เป็นแน่
เห็นๆ อย่างโจ่งแจ้งก็ในเวลาสี่เดือนกับการเปลี่ยนเลขาถึงสามคน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมอาทิตยาถึงขอออกไปพักข้างนอกแทนการได้อยู่คฤหาสน์หลังงามและประหยัดค่าเช่าเกือบหมื่นไปอย่างไม่เสียดาย เพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว แม้จะเป็นเพียงเวลากลางคืนก็ตามที