“อ้อ!!! ก่อนจะลืม เย็นนี้ตะวันไปงานวันเกิดคุณหญิงเพลินพิศกับฉันด้วยนะ ตาจิณก็ไปกับแม่ด้วยล่ะ จะได้ไหว้คุณหญิงกันเห็นบ่นถึงเรามานานแล้ว”
ยังไม่ทันจะได้ตักข้าวเข้าปาก มือบางก็ต้องละจากช้อนไปหาปากกาเพื่อจดแล้ว เพราะเพียงแค่คำบอกเล่าเรียบเรื่อยอย่างนี้ แต่ก็แฝงไว้ด้วยงานหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ต้องจัดการหาซื้อของขวัญ จัดหาชุดให้คุณผู้หญิง ให้คุณจิณ ‘เจ้าชายจอมเนี้ยบ’ ไหนจะของตัวเองอีก ชมจันทร์หันไปหาลูกชายเมื่ออาหารคำแรกกลืนลงไปแล้ว
“แล้วจิณจะพักกี่วันถึงจะเริ่มทำงานล่ะลูก”
“เริ่มพรุ่งนี้เลยครับ สงสารคุณพ่อเต็มทีลุยคนเดียวรอผมตั้งนานแล้ว”
จิณณวัตรหันไปยิ้มน้อยๆ ให้แม่แล้วก้มลงไปหาอาหารดังเดิม ส่วนอีกคนต้องเตรียมจดเมื่อเดาได้ว่าเจ้านายจะเอ่ยอะไรอีก
“ตะวันจัดการเรื่องข้าวของให้คุณจิณด้วยนะ”
มันก็แค่คำสั่งอันแสนสั้น แต่ทว่าเลขาสาวจะต้องจัดการสรรหาข้าวของเครื่องใช้ให้คุณชายจอมเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยก็ว่าได้
“ตั้งแต่เธอไปฉันยังไม่ได้เข้าไปตรวจดูบัญชีที่ร้านเลย แต่ไม่เป็นไรหรอกมีเธอมาแล้วฉันก็เบาใจ จะทำอะไรก็ทำตามที่เห็นสมควรนะ รายละเอียดเรื่องตารางงานของฉันจะบอกเรื่อยๆ ทันทีที่จำได้นะ”
และแค่กับคำสั่งนี้อาทิตยาก็รู้ดีว่าคงจะต้องใช้เวลาเป็นสองอาทิตย์กระมังกว่าจะตรวจตราทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางในระหว่างที่หายไป
“ค่ะ”
เลขาสาวรับคำสั้นๆ แล้วขอตัวออกไป โดยไม่ได้แตะของในถ้วยเลยแม้แต่คำเดียว เพราะมีงานมากมายรอให้เคลียร์ รอให้จัดการอยู่ อีกทั้งก็รู้ดีว่าเจ้านายไม่ได้อยากจะชวนมานั่งกินด้วยกันสักนิด
อีกอย่างอาทิตยาก็ชอบที่จะไปนั่งกินกับผ่อนและคนอื่นๆ ตรงโต๊ะหลังครัวมากกว่า บรรยากาศดีกว่า จะทำหรือพูดอะไรก็ง่ายกว่านั่งอยู่ตรงหน้าเจ้านายเป็นกอง
“คุณผู้หญิงรอสักครู่ค่ะ”
การตระเตรียมแผนงานยังไม่ครบดีด้วยซ้ำ อาทิตยาก็ต้องรีบหอบเอกสารกับรายงานการเงินวิ่งไปดักหน้าเจ้านายที่กำลังจะออกไปสปาแล้ว เพราะต้องจัดการเบิกเงินจากธนาคารมาไว้จับจ่ายใช้สอยในบ้านที่ข้าวของขาดไปหลายอย่าง
“อะไร!!! สองแสนเลยเหรอตะวัน มาวันแรกก็ล้วงกระเป๋าฉันขนาดนี้เชียว อย่าลืมส่งรายงานให้ฉันด้วยล่ะ”
เป็นคำพูดไม่จริงจังเลยสักนิด เพราะชมจันทร์รู้ดีว่าเลขาซื่อสัตย์สุจริตสักแค่ไหน จึงจรดปลายปากกาลงในเช็กโดยไม่สนใจกับรายการคร่าวๆ ซึ่งแนบไปกับใบเบิกเงินด้วยซ้ำ ก่อนจะก้าวลงบันไดฉับๆ ประหนึ่งสาวรุ่นตรงไปหารถ แต่ก็ไม่วายหันกลับมาย้ำเตือนอยู่ดี
“อ้อ!!! เราจะออกจากนี่สักหกโมงนะ ไปถึงเร็วหน่อยเธอจะได้ช่วยงานคุณหญิงบ้างเผื่อมีอะไรให้ทำ”
“ค่ะ”
เป็นการรับคำสั้นๆ แต่นั่นหมายถึงว่าข้าวของสำหรับงานคืนนี้จะต้องพร้อมตั้งแต่บ่ายสามโมงก็ว่าได้ ไวเท่าความคิดอาทิตยารีบวิ่งกลับเข้าบ้านคว้ากุญแจกับกระเป๋าสะพายตรงไปหารถ
แต่ก่อนจะขับออกไปก็ไม่ลืมที่จะจดเลขไมล์ไว้ด้วย เพราะจะต้องนำมาคำนวณเบิกค่าน้ำมันให้ตัวเองตอนสิ้นเดือน ถ้าลืมเมื่อไหร่เงินเก้าหมื่นอาจจะเหลือแค่สองหมื่นก็เป็นได้
ด้วยในแต่ละวันนั้นต้องใช้รถไปโน่นมานี่เกือบจะร้อยกิโลเมตร ธนาคารเป็นจุดหมายแรกเพื่อเบิกเงินสดมาไว้จับจ่ายทุกอย่างในบ้าน เมื่อเสร็จแล้วก็ต้องวิ่งไปร้านเสื้อแบกแค็ตตาล็อกกับตัวอย่างผ้ากลับมา มองหาคุณจิณเจ้าชายจอมเนี้ยบไม่มีอยู่ชั้นล่างก็แปลว่าอยู่บนห้องอาจจะนอนหรือทำอะไรอยู่ เพื่อเป็นการฆ่าเวลาเลยเดินเข้าครัวก่อน
“ป้าผ่อนคะ มีอะไรในครัวขาดบ้างช่วยดูให้ด่วนเลยนะคะเพราะอีกหน่อยตะวันต้องออกข้างนอกแล้ว แต่ก่อนอื่นเอาเงินที่ออกค่าของเมื่อวานนี้ไปก่อนค่ะ”
แบงก์สีเทาสามใบส่งให้เจ้าของร่างอวบอ้วน
“ป้าๆ คุณแอ๊ฟอยากกินสปาเกตติซอสเห็ดกับสลัดน้ำใสเดี๋ยวนี้ เสร็จแล้วแกให้แหม่มยกขึ้นไปบนห้องเลย เร็วๆ นะแกบอกว่าหิวมาก อ้อ!!! ขอน้ำมะนาวปั่นด้วย เสร็จแล้วโทรไปบอกนะแหม่มอยู่ที่ห้องเฟื่องฟ้า”
ผ่อนยังไม่ทันจะได้อ้าปากเอ่ยอะไร แหม่มก็วิ่งหน้าตั้งมาบอกแล้วก็วิ่งหายกลับไปทางเดิม อาทิตยาพยักหน้าให้ผ่อนจัดการกับเมนูเที่ยงอย่างเซ็งนิดๆ จากนั้นก็ลงมือเปิดตู้ต่างๆ สำรวจข้าวของด้วยตัวเองเลย เพราะไม่มีเวลารอมากพอ ได้ตามต้องการจึงนับเงินสามหมื่นบาทให้ผ่อนรับไป
“ป้าต้องรีบกลับมาสี่โมงครึ่งนะคะ เพราะคุณผู้หญิงจะต้องให้พี่เล็กขับรถไปงานตอนห้าโมงตรง”
มันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบวกเวลาไว้อย่างน้อยหนึ่งหรือสองชั่วโมงเสมอๆ เผื่อคนในปกครองจะโอ้เอ้หรือเจอปัญหาไม่คาดคิดจนต้องทำให้คุณผู้หญิงอารมณ์เสียหนักได้
“ค่ะคุณตะวัน งั้นวันนี้ป้าซื้อของในห้างก่อน พรุ่งนี้ค่อยไปเยาวราชก็แล้วกันนะคะ กลัวกลับไม่ทัน”
“ป้าๆ คุณจิณบอกว่าขออะไรก็ได้เป็นมื้อเที่ยงยกเว้นอาหารฝรั่ง อีกสิบนาทีแกจะลงมานะ”
เจ้าเดิมวิ่งมาบอกและวิ่งไปอย่างรวดเร็ว อาทิตยาได้แต่มองตามแล้วหันมาส่ายหน้าน้อยๆ ให้ผ่อนเป็นเชิงบอกว่าเข้าอกเข้าใจดี แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
“เดี๋ยวตะวันจะคุยกับคุณจิณไปพลางๆ ครึ่งชั่วโมงคงจะพอสำหรับทำมื้อเที่ยงนะคะ อ้อ! ถ้ามีเวลาเหลือก็เจียวไข่โปะข้าวให้ตะวันหนึ่งจานด้วยนะคะป้า ให้เด็กยกไปวางไว้โต๊ะเลยค่ะ”
นอกจากประวิงเวลาให้ผ่อนมีเพิ่มขึ้นอีกยี่สิบนาที ก่อนจะก้าวฉับๆ ตรงไปหากองแค็ตตาล็อกกับกระเป๋าตัวอย่างผ้าเดินไปรอเจ้าชายจอมเนี้ยบที่เดินเข้ามารอในห้องอาหารแล้ว
“ทำไมผมจะต้องเลือกด้วยล่ะ แล้วนี่มันอะไรจะไปสั่งตัดที่ไหน ทำไมไม่ซื้อเอาล่ะ”
จิณณวัตรยิงคำถามรัวออกมาด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อลงมาแล้วถูกเลขาแม่สั่งให้นั่งเลือกแบบชุดทำงานกับเลือกผ้า