EP 20

1130 คำ
เพราะคงจะอ่านออกว่าน้ำหน้าอย่างเธอคงไม่มีปัญญาจะซื้อรถราคาแพงๆ แบบนี้ได้แน่ แปลกแต่จริง! เมื่อมีจิณณวัตรเดินคู่เข้าไปด้วย แม่คุณแทบจะวิ่งเข้ามาอุ้มให้ไปนั้งชุดรับแขกด้วยซ้ำ “ไม่ทราบสนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ช่วงนี้ทางเรามีโปรโมชั่นหลายแบบให้ลูกค้าเลือกนะคะ เริ่มตั้งแต่...” อาทิตยากลอกตาไปมาด้วยความรำคาญในน้ำเสียงสีหน้าและท่าทางออดอ้อนออเซาะเอาอกเอาใจจนเกินงามของแม่พนักงานขายเต็มประดา แต่กับอีกคนคงไม่รู้สึกแบบนี้เป็นแน่ เพราะเห็นตั้งใจฟังซะเหลือเกิน แล้วก็ขยันเดินตามเรียวขางามมีถุงน่องสีนู๊ดหุ้มไว้ไปอย่างไม่ยอมขัดศรัทธาสักนิด สายตามองไปยังแม่คุณก็กรุ้มกริ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เลิกรา ยิ่งตอนเจ้าหล่อนพาว่าที่ลูกค้าหนุ่มเข้าไปนั่งในรถเพื่ออธิบายรายละเอียดด้วยแล้ว ขอบกระโปรงแทบจะร่นขึ้นไปถึงไหนๆ ด้วยแล้ว อาทิตยายิ่งเห็นสายตาเสือหนุ่มยิ่งจ้องไม่กะพริบด้วยซ้ำ และไม่เพราะสนใจรถหรือขาขาวๆ ที่โผล่พ้นชายกระโปรงสั้นกันแน่ เขาถึงได้นั่งถามนั่นนี่อยู่ได้เป็นนานกว่าจะออกมา “ผมตกลงเอารุ่นนี้ เรื่องการจ่ายเงินคุณผู้หญิงคนนี้จะจัดการให้นะครับ” ในที่สุดเขาก็สรุปด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ ขณะหันไปหาเลขาแม่ที่ยืนอยู่ข้างๆ พนักงานขายสาวอีกคน และนั่นทำให้สองสาวนุ่งสั้นที่ช่วยกันต้อนลูกค้าหนุ่มยิ้มออกมาอย่างยินดีปรีดายิ่ง “ว่าแต่ได้เมื่อไหร่ครับทันอาทิตย์หน้าหรือเปล่า” เขาไม่ลืมจะหันไปถามอีกด้วยกลัวจะทำแผนแม่ล่ม ที่อุตส่าห์จะเซอร์ไพรส์ในงานสักหน่อย “ขอเบนซ์เช็กก่อนสักครู่นะคะคุณจิณ” พนักงานสาวสวยโปรยยิ้มมาให้ แล้วผละไปตรวจในระบบคอมพิวเตอร์ ทิ้งให้ลูกค้าหนุ่มมองตามตาเป็นมันก่อนจะหันมาหาเลขาสาวแล้วยักคิ้วให้ “ชื่อน่าขับซะด้วย ทำไมคุณไม่เปลี่ยนเป็นแบบนี้บ้างล่ะน่ารักกว่า ‘ตะวัน’ แยะเลย” อาทิตยาหลีกหนีสายตากวนประสาทของเขาด้วยกันหันไปสนใจเจ้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ML 250 DCI BlueEFFICIENCY Sports AMG ในราคาย่อมๆ แค่ห้าล้านครึ่ง คือรถที่เขาตัดสินใจเลือก ซึ่งผิดจากความคาดเดาไปคนละเรื่อง เพราะโบว์ชัวร์ที่หยิบไปให้เขาเลือกนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสปอร์ตแทบทั้งสิ้น แถมราคาก็เลยหลักสิบล้านไปแทบทุกคัน   “บังเอิญผมเบื่อสปอร์ตแล้วน่ะ ขับอยู่เมืองนอกมาตั้งหลายปี แต่ยังไงผมก็จะเก็บพวกนี้เอาไว้ก่อนก็แล้วกันนะ เผื่ออยากจะซื้ออีกคันเอาไว้ขับโฉบพาสาวๆ เที่ยว ได้ข่าวว่าสาวบ้านเราชอบนั่งรถราคาแพงๆ ใช่มั้ยแล้วคุณล่ะชอบด้วยหรือเปล่า” จิณณวัตรเหมือนจะเดาใจคนข้างๆ ที่นั่งควบรถนิ่งๆ ไม่พูดไม่จาตั้งแต่ออกจากโชว์รูมแล้ว เขาจึงตัดสินใจบอกเหตุผลให้รู้ ด้วยกลัวเจ้าหล่อนจะน้อยใจที่อ่านทางเขาผิดถนัด “ต้องดูจุดหมายของรถราคาแพงๆ ด้วยค่ะว่าจะพาฉันไปไหน ถ้าไปทำเรื่องดีๆ ฉันก็ไปด้วย แต่ถ้าจะพาไปทำมิดีมิร้ายฉันคงพอใจที่จะขับเจ้าอันติ้ดคันนี้เท่านั้นล่ะค่ะ คุณจะให้ไปส่งออฟฟิศใช่หรือเปล่าคะ” อาทิตยารีบตัดบทในทันที ด้วยเบื่อจะนั่งอยู่ใกล้ๆ คนหลงตัวเองอย่างที่สุด แต่อีกคนกลับยิ้มร่าออกมาด้วยความขำกับน้ำคำเหน็บแนม แถมเกิดอาการหมั่นไส้น้อยๆ ขึ้นมาตงิดๆ จนอยากจะแกล้งเล่นๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ได้ไงล่ะ คุณติดหนี้ผมนะหนนี้ ต้องพาผมไปเลี้ยงข้าวร้านอาหารดีที่สุด หรูที่สุด ราคาแพงที่สุด และอร่อยที่สุดด้วย นี่จะบ่ายสองอยู่แล้ว ผมหิวจนตาลายคล้ายจะเป็นลมแล้วนะ ถ้าไม่ยอมเย็นนี้ผมจะไปบอกความจริงทั้งหมดกับคุณแม่เองเลย ว่าไงตกลงหรือเปล่า” “ได้เลยค่ะ” ไม่ใช่จะกลัวคำขู่ของเขาอะไร แต่ด้วยท้องไส้ของตัวเองก็ปั่นป่วนเพราะหิวไม่แพ้กัน เมื่อเช้าได้กาแฟแก้วโตเท่านั้น “ไหงรับปากง่ายจังล่ะ และจะผิดฟอร์มคุณไปสักนิด” ทำเอาเขาอดสงสัยไม่ได้ “ก็ไม่มีอะไรนี่คะ บังเอิญว่าฉันหิวเหมือนกันแค่นั้นเอง” คนขับหันมายิ้ม จากนั้นก็หักพวงมาลัยไปทางซ้าย ลัดเลาะไปมาสองสามซอย ไม่นานก็มาถึงจุดหมาย ซึ่งทำให้คนร้องขอมองคนขับตาขวาง แถมไม่ยอมเปิดประตูลงไปด้วยซ้ำ “คุณให้ฉันเลี้ยงเองนะคะ เร็วๆ เถอะค่ะฉันต้องรีบกลับไปทำงานอีกหลายอย่าง คุณก็มีเอกสารกองเต็มโต๊ะอยู่ไม่ใช่เหรอคะ” เขาถึงได้ยอมออกมาแล้วเดินตามร่างผอมบางด้วยอาการเคืองไม่น้อย แต่ไม่นานอาการนี้ก็หายไป เมื่อได้ข้าวเหนียวร้อนๆ ส้มตำ ลาบ น้ำตก เนื้อย่างหอมกรุ่นเข้าไปอยู่ในท้อง พร้อมกับมีอาการซี้ดซ้าดเข้ามาแทนที่ เพิ่มระดับความอาฆาตเอาไว้ในใจว่าสักวันเขาจะหาทางเอาคืนยัยถั่วงอกให้เข็ดเลย “เฮ้อ!!! ดีใจจังได้กินของอยากกินมาหลายปี จะตกรางวัลเลขาคุณแม่ยังไงดีน้า” อาทิตยาไม่อยากจะมองสายตายียวนกวนประสาทของเขาสักเท่าไหร่นัก เลยเลี่ยงไปขึ้นรถแล้วไม่รอเอาเงินทอนตั้งร้อยกว่าบาทซะงั้น   “คุณตะวันคะ ดอกไม้มาส่งแล้วจะให้เอาไว้ตรงไหนคะ” “คุณตะวันคะ เวทีกับเครื่องเสียงมาแล้ว เขาอยากให้ไปชี้จุดตั้งค่ะ” “คุณตะวันคะ คุณผู้หญิงให้มาถามว่า ชุดสำหรับคืนนี้จะได้เมื่อไหร่” “คุณตะวันคะ คุณผู้หญิงบอกว่าจะมีแขกเพิ่มมาอีกกลุ่มสักสามสิบคน ต้องทำอาหารเพิ่มอีกหน่อยมั้ยคะ ป้ากลัวจะไม่พอค่ะ” และอีกเป็นร้อยคำถามจากคนในบ้าน ต่างก็วิ่งตรงมายังเลขาสาวจนหัวหมุนมาตั้งแต่เช้า นับจากก้าวแรกที่เหยียบบ้านเข้ามาด้วยซ้ำ โชคดีเป็นคนใจเย็น รอบคอบ คล่องงาน และเคยผ่านงานแบบนี้มาเยอะแล้ว จึงค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเปลาะๆ ตอบคำถามแต่ละคนด้วยสติแทนการใช้อารมณ์หรือท่าทีฉุนเฉียวหงุดหงิด แม้ในใจจะเอือมระอากับความไม่รู้งานของคนในบ้านอยู่บ้าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม