บทนำ
บทนำ
ตึก ตึกๆๆ~
เวลา. 20:00
ร่างบางรีบวิ่งตรงมายังห้องผ่าตัดด้วยใบหน้าตื่นกลัว หลังจากที่เธอได้รับโทรศัพท์มือถือจากโรงพยาบาล ว่าพ่อของเธอนั้นถูกยิง บาดเจ็บสาหัส หญิงสาวที่อยู่ในชุดไปรเวท เสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าผ้าใบ ใบหน้าเต็มไปด้วยหยดน้ำตา เธอสะอื้นไห้ตลอดทางที่ขับรถมายังโรงพยาบาล
"อึก...พะ..พ่อ อึก ฮืออ พ่อคะ" น้ำริน ร้องเรียกผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอวิ่งมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัด สายตาเธอเต็มไปด้วยความกลัว และใจคอไม่ดี เพราะเธอกับพ่อแทบไม่ได้คุย หรือติดต่อกันเลย ชัยนาท พ่อของเธอนั้นชอบออกไปทำงานตอนกลางคืน ดึกดื่นถึงจะกลับ บางวันพ่อของเธอก็หายไป ไม่ได้ติดต่อหรือบอกอะไรเธอไว้ จนกระทั่งวันนี้เธอได้ยินข่าวจากโรงพยาบาล ถึงได้เร่งรีบมาด้วยความตกใจ
"พ่อคะ!! ฮืออ" น้ำรินร้องไห้ด้วยความเป็นห่วง เธอหยุดยืนรอหมออยู่หน้าห้องผ่าตัด ก่อนที่ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าห้อง จะลุกเดินเข้ามาหาหญิงสาว แล้วเอ่ยถาม
"เธอเป็นลูกสาวชัยนาทใช่ไหม" เสียงทุ้มถามขึ้น ทำให้น้ำรินที่กำลังร้องไห้ ค่อยๆหันมามองชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง สภาพของเขานั้นมีเลือดออกที่หัวเล็กน้อย ใบหน้าคมคายตามฉบับลูกครึ่งไทย-อิตาลี ชายหนุ่มใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีเดียวกัน ความสูงของเขานั้น ทำให้น้ำรินอยู่ในระดับอกของเขาพอดี
"...ชะ..ใช่ค่ะ" น้ำรินตอบไปด้วยน้ำเสียงสั่น เธอมองชายหนุ่มด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรมากกว่านั้น เธอหันกลับมามองประตูห้องผ่าตัดอีกครั้ง แววตาหวาดกลัวว่าพ่อของเธอจะเป็นอะไรไป เพราะเธออยู่กับพ่อแค่สองคนหลังจากที่พ่อกับแม่ของเธอแยกทางกันไป น้ำรินก็อยู่กับชัยนาทมาตั้งแต่อายุ 10ปี จนตอนนี้เธออายุ 20ปีแล้ว
ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่ยืนสะอื้นไห้ ด้วยแววตาที่เรียบเฉย และยากจะคาดเดาในเวลาเดียวกัน ใบหน้าคมคายตามฉบับลูกครึ่ง ไทย-อิตาลี ที่มีเลือดออกบริเวณหัวเล็กน้อย มือข้างขวาของเขานั้นมีคราบเลือดติดอยู่
แกร๊ก~
เสียงเปิดประตูห้องผ่าตัด ทำให้น้ำรินรีบเดินเข้าไปถามอาการของพ่อทันที
"มะ..หมอคะ พ่อ..พ่อหนูเป็นยังไงบ้างคะ" น้ำรินเอ่ยถามอย่างมีความหวัง คุณหมอวัยกลางคนถอดหน้ากากอนามัยออก ใบหน้าของเขานั้นดูหนักใจ จนน้ำรินเริ่มมีความกังวล
"หมอคะ.."
"คนไข้ถูกยิงจุดสำคัญหลายจุดเลยครับ ถึงจะผ่ากระสุนออกได้ แต่ภายในกลับบอบช้ำ และเสียเลือดมาก หมออยากให้ทำใจไว้บ้างนะครับ"
คำพูดของคุณหมอ ทำเอาน้ำรินที่ได้ยินแบบนั้น แทบทรุดลงไปกับพื้น เธอปล่อยให้น้ำตาหลั่งไหลออกมาอีกครั้ง ก่อนที่คุณหมอจะเดินกลับเข้าห้องผ่าตัดไป หญิงสาวยืนนิ่งพร้อมกับสะอึกสะอื้นไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
"น้ำริน!" เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นมาจากด้านหลัง ก่อนที่ร่างสูงหนาจะวิ่งเข้ามาหาเธอด้วยความเป็นห่วง
"ริน คุณลุงเป็นยังไงบ้าง" ชายหนุ่มผู้มาใหม่เอ่ยถาม เขาโอบคนตัวเล็กไว้เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่ยืนร้องไห้ น้ำรินหันหน้ามากอดเขาเอาไว้แน่น พร้อมเสียงสะอื้นไห้สุดจะขาดใจ โดยมีสายตาของชายหนุ่มอีกคนมองโดยไม่ละสายตา
"อึก...พะ..พี่ท๊อป พ่อ...ฮือออ"
"ไม่เป็นไรนะ คุณลุงต้องไม่เป็นอะไร" ท๊อปลูบผมบางอย่างปลอบโยน ชายหนุ่มกอดหญิงสาวเอาไว้แน่น เขาได้รู้ข่าวก็เพราะน้ำรินโทรไปบอกเขาก่อนที่เธอจะมาโรงพยายาบาล
"พ่อ..พ่อถูกยิง ใครยิงพ่อ เขายิงพ่อรินทำไม อึก ฮือออ เขายิงทำไม~" น้ำรินร้องบอก เธอไม่รู้เลยว่างานที่พ่อของเธอนั้นทำอยู่ คืองานอะไร ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้พ่อของเธอไม่เป็นอะไร
ครืดดด ครืดด
เสียงโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มลูกครึ่งดังขึ้น เขาละสายตาจากร่างบาง ก่อนจะล้วงหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมากดรับสาย แล้วหันหน้าไปทางอื่น
"..."
(นายครับ เราจับคนของมันได้สองคนครับ) เสียงรายงานจากลูกน้องปลายสาย ทำให้ชายหนุ่มนิ่งขรึม เขาเหลือบมองหญิงสาวที่ยังคงยืนกอดกับท๊อปด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา
(จะให้ผมจัดการยังไงดีครับ)
"จับมันขังไว้ เดี๋ยวกูจัดการเอง" เสียงเยือกเย็นตอบกลับ โดยที่ยังคงเหลือบมองหญิงสาว
(ครับ!) ว่าจบ แฟรงค์ ก็กดวางสายไป
ผ่านไป1ชั่วโมง..
น้ำรินที่นั่งรอหมออยู่หน้าห้องผ่าตัดกับท๊อป ใบหน้าสวยใสมีคราบน้ำตาเปื้อนที่แก้ม จมูกแดง ดวงตายังคงมีคราบน้ำตาอยู่ เธอนั่งรออย่างมีความหวัง โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีดวงตาคมกริบจ้องมองมายังเธอ
แกร๊ก~
เสียงเปิดประตูห้องผ่าตัด ทำให้น้ำรินและท๊อปรีบลุกขึ้นเข้ามาหาทันที โดยที่แฟรงค์ที่นั่งรอฟังข่าว ก็ลุกขึ้นมาฟังอีกคน มันทำให้ท๊อปสงสัยในตัวชายหนุ่ม แต่เขาก็ยังไม่ได้ถามอะไร
"หมอคะ พ่อหนูเป็นไงบ้างคะ" น้ำรินเอ่ยถาม คุณหมอที่เห็นแบบนั้นถึงกลับถอนหายใจอย่างรู้สึกสงสารหญิงสาว นั่นมันยิ่งทำให้น้ำรินใจคอไม่ดี
"หมอเสียใจด้วยนะครับ.. คนไข้เสียชีวิตแล้ว หมอพยายามเต็มที่แล้วครับ แต่คนไข้เสียเลือดมาก และยังโดนยิงหลายจุด ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ครับ"
สิ้นเสียงของคุณหมอ ทำเอาหญิงสาวอึ้งไปหลายวินาที สติของเธอในตอนนี้ไม่มีเลย เธอส่ายหน้าช้าๆ อย่างไม่เชื่อคำพูดของคุณหมอ น้ำตาหลั่งไหลออกมาด้วยความเสียใจ หัวใจดวงน้อยตอนนี้มันเหมือนจะหยุดเต้นในทันที
"มะ..ไม่จริง อึก..ฮือออ พ่อคะ!!" น้ำรินตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อราวกับเสียสติ ก่อนที่เธอจะวิ่งเข้าไปในห้องผ่าตัด ทำเอาท๊อปต้องรีบวิ่งตามเข้าไป ต่างจากแฟรงค์ ชายหนุ่มได้แต่ยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัดด้วยใบหน้านิ่งเฉย
"พ่อคะ! พ่อคะ! พ่อ~ ฮืออ พ่อฟื้นสิคะ พ่อคะ ใครยิงพ่อ มันยิงพ่อทำไหมคะ พ่อตื่นขึ้นมา ตื่นมาคุยกับหนูก่อนสิคะพ่อ~ ฮือออ" น้ำรินตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อแทบขาดใจ บุคคลอันเป็นที่รักและเป็นคนในครอบครัวที่เธอเหลืออยู่ ต้องจากไปไม่มีวันกลับ และยังไม่ได้ร่ำลา หรือพูดคุยกันเลย
ท๊อปได้แต่ยืนดูหญิงสาวร่ำไห้ เขาเป็นพี่ชายและญาติที่น้ำรินเคารพรัก และยังสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก
"พ่อคะ! พ่อตื่นมาคุยกับรินก่อนสิคะพ่อ" น้ำรินเขย่าร่างของผู้เป็นพ่อที่ไร้ลมหายใจ หัวใจของเธอที่เห็นบาดแผลของพ่อ มันยิ่งทำให้เธอสงสารและอยากรู้ว่าทำไมพ่อของเธอถึงถูกยิง