“คำก็เลว สองคำก็เลว” เขาแค่นเสียงกล่าวออกมานิ่งๆ จ้องสู้ตากับฉันแบบไม่ลดละ เพิ่มแรงบีบมือขึ้นเรื่อยๆ “ให้ฉันทำเลวกับเธอแม่งตอนนี้เลย ดีเปล่าวะ?”
“ปล่อยนะ!”
แผ่นดินค่อยๆ โน้มหน้าเข้ามาหาอย่างช้าๆ ราวกับไม่รู้สึกสะทกสะท้านจากการถูกฉันทุบตีเพื่อให้ปล่อยสัมผัสน่ารังเกียจนี่ลง เขาไม่สนแม้กระทั่งว่าจะมีนักศึกษาคนอื่นเดินผ่านไปมาอยู่เบื้องหลัง มีเพียงความโกรธแค้นของตัวเองและพยายามระบายลงที่ฉันแต่เพียงเท่านั้น
“คุณมัลลิกา! คุณปฐพี!”
เสียงเรียกของอาจารย์ประจำภาควิชา ทำให้แผ่นดินหยุดชะงักใบหน้าลง พลางเหลียวหลังมองไปยังต้นเสียง และนั่นทำให้ฉันได้โอกาส ใช้จังหวะที่เขาเผลอผลักอกเขาอย่างแรงให้ถอยห่างจากตัว ก่อนจะวิ่งชนแขนเขาออกไปสู่พื้นที่ด้านนอกทันที
“อ้าวคุณมัลลิกา...”
“คะ ค่ะ...อาจารย์เรียกหนูเหรอคะ?”
“ใช่! พอดีอาจารย์มีประชุมด่วน จะวานให้คุณมัลลิกากับคุณปฐพีดูของในห้องให้ก่อนสักชั่วโมงได้หรือเปล่า?”
ฉันเหลียวหลังมองแผ่นดินอีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่าเขายังไม่เดินออกมาจากซอกใต้บันไดนั่น
“ค่ะ แต่หนูขอหาเพื่อนสักคนมาอยู่เป็นเพื่อนได้หรือเปล่า...หนกลัวว่าอยู่กับเขาเพียงสองคนมันจะดูไม่ดี”
“เอาสิ ถ้าอย่างงั้นฝากด้วยนะ”
“ค่ะ”
ฉันยืนมองแผ่นหลังของอาจารย์หนุ่ม ขณะเขาเดินออกจากใต้ตึกคณะไปอย่างใจเย็น พลางยกมือขึ้นทาบอกที่เต้นดังโครมครามมาตั้งแต่เมื่อครู่และหวังให้มันสงบลงบ้าง
ครู่ใหญ่ๆ กว่าหัวใจฉันจะสงบลง ฉันจึงรีบกลับเข้าไปในห้องพักอาจารย์เพื่อหยิบมือถือในกระเป๋าสะพายขึ้นมาเลื่อนกดโทรหาใบอ้อ ให้มาอยู่เป็นเพื่อน โดยตอดเวลาที่นั่งคอย ฉันเอาแต่จับจ้องไปที่ประตูห้อง หากหมอนั่นกลับเข้ามา
แต่เขาก็ไม่ได้กลับเข้ามา
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของเขาที่จะกลับเข้ามาทำงานของตัวเองที่ค้างเอาไว้อยู่ดี เขาหายไป เขาไปแล้ว ไปโดยที่ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหน
“วันใหม่...”
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเหลือบมองดวงหน้าหวานๆ ของเพื่อนรัก ใบอ้อย่นคิ้วมองฉันพลางทุบมาที่ไหล่เบาๆ หนึ่งที่ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากติ
“ชวนฉันมาเพื่อให้มาดูเธอนั่งเหม่อเหรอ”
“ปะ เปล่า”
“อยู่กับฉันมันน่าเบื่อเหรอ T^T”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย”
“ไม่ใช่อะไร เธอเล่นนั่งเหม่อตั้งแต่ฉันเข้ามาในห้องแล้วนะ” เธอข่อนคอดเสียงอ่อย
“ฉันขอโทษ”
“....”
ใบอ้อเอียงคอมองหน้าฉันเล็กน้อย รอยยิ้มบางผุดขึ้นมุมปาก
“ฉันล้อเล่น”
“....”
“เมื่อวานขอโทษที่ไม่ได้ตอบข้อความเธอ พอดีกลับมาถึงก็เหนื่อย เลยเผลอหลับไป”
ฉันพยักหน้ารับคำเธอเบาๆ เหลียวมองแผ่นงานที่จัดค้างไว้ก่อนเริ่มลงมือจัดการกับแผ่นงานเหล่านั้นอีกครั้ง
“เมื่อวานฉันไปดูหนังกับเคมป์มา”
“เคมป์?” ฉันเอียงคอเธอด้วยความสงสัย ซึ่งใบอ้อได้แต่พยักหน้ารับคำหงึกๆ “ทำไมเธอถึงไปดูหนังกับเคมป์ได้ล่ะ?”
“ก็ตอนแรกว่าจะดูกันสี่คน แต่ว่าน้องสาวแผ่นดินดันมาหาที่ห้อง เขาเลยขอตัวกลับไปก่อน ส่วนทัพบกเห็นว่าติดธุระ...”
สิ้นเสียงของใบอ้อ ในหัวปรากฏภาพของเด็กสาวหน้าตาสละสวยลูกครึ่งฝรั่ง ที่มีเรื่องกับฉันที่บันไดขึ้นในหัวทันที นั่นน่ะเหรอ สาเหตุว่าทำไม แผ่นดินถึงอยู่กับผู้หญิงอีกคนแทนที่จะเป็นใบอ้อ
“ใบอ้อ...” ฉันเอ่ยปากเรียกเธออีกครั้ง จนคนถูกเรียกละสายตาจากหน้าจอสีเหลี่ยมในมือขึ้นสบตากับฉันตรงๆ ท่าทางสงสัย “เลิกกับแผ่นดินเถอะ...”
“ทำไม...ทำไมละ?”
“....”
“หมอนั่นไม่ได้มีเธอแค่คนเดียวหรอก ฉันรู้”
“เขาเจ้าชู้ ฉันรู้นิสัยของแผ่นดินดี”
“....”
“แต่เขาน่ารักกับฉันมากเลยนะวันใหม่ ถึงแม้จะชอบดุไปหน่อย แต่นั่นมันก็เพราะฉันงี่เง่า ทำตัวโง่ๆ ใส่เขาไปเอง”
ยังไม่ได้ก็ยังไม่เลิก
คำพูดของแผ่นดินก่อนหน้านี้ ทำฉันกำแผ่นงานในมือแน่น พยายามอดทนฟังความดีของเขาที่ใบอ้อกำลังสาธยาย จนกระทั่งความอดทนทั้งหมดของฉันมันสิ้นสุดลง ฉันควรจะบอกความจริงให้ใบอ้อรู้ แม้ว่ามันจะแลกมาด้วยเสียงร้องไห้หรือน้ำตาของเธอ
“ใบอ้อ!”
คนถูกเรียกเงียบเสียงลงโดยชะงัก นัยน์ตากลมคู่สวยจ้องมองฉันด้วยความสงสัย
“แผ่นดินน่ะ เขาไม่ได้จริงใจกับเธอ”
ให้ตายสิ ทำไมเวลาจะพูดเรื่องอะไรที่มันทำให้อีกคนรู้สึกแย่ ฉันต้องรู้สึกแย่ตามแบบนี้ด้วยนะ
“เธอพูดอะไร...”
“หมอนั่นมันคิดจะฟันเธอแล้วทิ้ง”
“....”
“เขาเป็นคนพูดมันออกมาเอง”