บาลิการ้องขอแต่เสียงของเธอแหบเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อ รามิลเบียดร่างของเขาเข้าหาเธอ ซุกไซ้ใบหน้าบนแก้มเนียน เขาฝังจมูกโด่งลงที่ซอกคอ ปากของเขาเลื่อนไหลไปแทบจะทุกตารางนิ้วบนเนื้อนวลของสาวอันหอมหวาน บาลิการู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด เขากำลังกระตุ้นเร้าเธอและทำให้อารมณ์ของความเป็นหญิงที่แอบซ่อนอยู่ในส่วนลึกเปิดเผยตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ มันทำให้บาลิกาตกใจ เธอจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ เธอไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่เพื่อที่จะเอาตัวเข้าแลกอย่างที่เขาเข้าใจหากแต่เธอก็ได้แค่คิดเพราะตอนนี้อารมณ์ของทั้งเขาและเธอเริ่มเตลิดจนควบคุมไม่ได้ แต่ก่อนทุกอย่างเลยเถิดจนยับยังไม่อยู่ ความตื่นเต้นและความกลัวมากเกินระงับกลับทำให้บาลิการู้สึกว่าเธอกำลังจมดิ่งลงสู่ห้วงมืดที่มองไม่เห็นและแทบไม่รู้สึกตัว
“บาลิกา...คุณเป็นอะไรน่ะ...โธ่เอ้ย! ให้ตาย! ถูกจูบแค่นี้ถึงกับเป็นลมไปเลยเหรอเนี่ย”
รามิลออกอาการตกใจเมื่อจู่ ๆ ร่างน้อยในอ้อมแขนของเขาที่เปียกน้ำอยู่ใต้ฝักบัวคอพับคออ่อนและกำลังจะทรุดลงกับพื้นถ้าหากเขาไม่ประคองร่างของเธอเอาไว้ในอ้อมกอดแน่น บาลิกาเป็นลมไปแล้วและมันทำให้รามิลต้องรีบดึงสติของตัวเองที่กำลังจะเตลิดกลับคืนมา เขาลืมตัวทำในสิ่งที่เขาคิดว่าเธอเองก็คงไม่ปฏิเสธแต่ที่ไหนได้ บาลิกาบอบบางและดูเหมือนว่าเขาจะทำให้เธอตื่นกลัวจนถึงกับเป็นลมล้มพับไปในอ้อมกอด รามิลรีบช้อนร่างนั้นขึ้นและอุ้มเธอกลับออกไปจากห้องน้ำมุ่งไปยังเตียงกว้าง เขาค่อย ๆ วางร่างที่เปียกปอนลงบนที่นอน ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวที่ตอนนี้สลบไสลไม่ได้สติ เขาจ้องมองเรือนร่างงดงามของเธอภายใต้เสื้อผ้าที่เปียกลู่แนบไปกับสัดส่วนคอดเว้ารามิลถอนหายใจเบาๆและส่ายหน้าไปมา
“อะไรกันเนี่ย นี่เป็นความจริงเหรอที่คุณไม่เคยถูกผู้ชายจูบหรือทำอะไรแบบนี้มาก่อน”
เขามองร่างนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างซึ่งคงจะเป็นการดีกว่าให้เธอสลบไปทั้งที่ร่างกายของเธออยู่ภายใต้ชุดที่เปียกชื้นเช่นนี้
บาลิการู้สึกตัวและตื่นขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่องมาจากด้านนอกระเบียงของห้องที่อยู่บนชั้น 45 ของตึกสูงโรงแรม the president หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตา รู้สึกว่ายังง่วงงุนจนกระทั่งตื่นเต็มที่และเมื่อลืมตามองก็เห็นใบหน้าของรามิลที่เขาจับจ้องดวงหน้าของเธออยู่ บาลิกาในตอนนี้เมื่อรู้สึกตัวเต็มที่แล้วเธอก็ค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ในสมองและนึกได้ว่าก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวตกใจ เธอกำลังจะผุดลุกขึ้นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ใต้ผ้าห่มและเมื่อเปิดผ้านวมดูก็ยิ่งตระหนกมากขึ้นไปอีกเพราะร่างกายของเธอไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่แม้แต่ชิ้นเดียว หญิงสาวเบิกตากว้างและแทบไม่กล้าขยับตัวกลัวว่าผ้าห่มนวมผืนใหญ่จะหลุดออกไปจากตัวเธอตอนนี้เธอจ้องหน้ารามิล เขานั่งอยู่ข้าง ๆ และตอนนี้เธออยู่บนเตียงกว้างภายในห้องพักของเขานั่นเอง
“รามิล...นี่คุณทำอะไรฉันน่ะ”
“ผมไม่ได้ทำอะไร ก็แค่จูบคุณแล้วคุณก็เป็นลม ผมแค่ไม่อยากปล่อยให้คุณนอนตัวเปียกอยู่ในห้องน้ำก็เลยพาออกมาแล้วก็ถอดเสื้อผ้าให้ เช็ดตัวให้คุณแล้วก็ห่มผ้าให้นี่ไง”
“ว่ายังไงนะ! นี่คุณถอดเสื้อ ถอดชุดของฉันออกอย่างนั้นเหรอ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คุณมันคนฉวยโอกาส”
“นี่ไม่คิดจะให้ความดีกับผมบ้างเลยหรือยังไง ผมอุตส่าห์ช่วยคุณไม่ให้นอนตัวเปียกไม่งั้นเดี๋ยวก็เป็นปอดบวมแย่ ช่วยขนาดนี้แล้วคุณไม่ขอบใจผมสักคำเหรอ”
“แต่นี่คุณกำลังฉวยโอกาสกับฉันนะ คุณถอดเสื้อผ้าฉันออกไปหมดแบบนี้คุณก็คง...จะเห็นตัวฉันหมดแล้วล่ะสิ”
“แล้วทำไมต้องกลัวถึงขนาดนั้นคุณทำเหมือนไม่เคยแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าผู้ชายอย่างนั้นแหละ ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าคุณจะไม่เคยอยู่แบบนี้ตอนที่อยู่กับราเมศน่ะ”
“หยุดดูถูกฉันสักทีได้ไหม! บอกแล้วยังไงว่าฉันกับราเมศไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกันมากขนาดนี้เขาไม่เคยทำอะไรเหมือนที่คุณทำกับฉัน เขาไม่เคยฉวยโอกาสกับฉันเลย”
บาลิกาพูดเสียงสั่นเครือดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำรื้นออกมาอีก มันเริ่มแดงก่ำและฉุดความรู้สึกของรามิลให้ดิ่งลงต่ำ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องอ่อนยวบทุกครั้งเวลาเห็นน้ำตาของหญิงสาว หากแต่ชายหนุ่มก็แกล้งทำหน้าดุดันเหมือนเดิม
“ดูคุณอยากจะให้ผมเชื่อเหลือเกินนะว่าคุณไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาก่อน คิดเหรอว่าทำแบบนี้แล้วผมจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ”
“แล้วคุณจะให้ฉันอยู่ที่นี่เพื่ออะไร”
“อย่าลืมสิบาลิกา พี่ชายของคุณเป็นลูกหนี้ของผมและสำหรับคุณ ผมถือว่าคุณต้องอยู่ที่นี่ในฐานะตัวประกัน แต่ผมก็แน่ใจอย่างหนึ่งว่าทุกอย่างมันเกิดจากความเต็มใจของคุณที่จะทำแบบนี้ด้วยตัวคุณเอง
“ฉันไม่มีทางเลือกต่างหาก ถ้าเลือกได้ก็จะไม่ขออยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว”